นราพัฒน์ ยินดี มาดามเดียร์ ร่วมชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -ลั่นขอสู้
รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้เสนอตัวลงชิงผู้นำ "พรรคประชาธิปัตย์ " นราพัฒน์ แก้วทอง มองการเข้าร่วมชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ของ "มาดามเดียร์" วทันยา บุนนาค ถือว่าเป็นการสร้างบรรยากาศที่ดี สะท้อนการเปิดกว้าง ระบุหากชนะเลือกตั้ง พร้อมดึงอีกฝ่ายมาร่วมงานด้วย
นายนราพัฒน์ แก้วทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้เสนอตัวลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า การที่ น.ส.วทันยา บุนนาค ( มาดาเดียร์) ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศตัวลงชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่าเป็นเรื่องดีที่มีผู้มาสมัครแข่งขัน เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ไม่มีเจ้าของ และเปิดโอกาสให้กับทุกคน
การที่น.ส. วทันยา มาลงชิงตำแหน่งจะทำให้ภาพดีขึ้น เพราะเท่ากับว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องการการเปลี่ยนแปลง และมีคนรุ่นใหม่ๆสนใจเข้ามาร่วมบริหารและปรับปรุงพรรค และผสมผสานกับคนรุ่นเดิม ถือเป็นภาพที่ดีและเป็นจุดแข็งของพรรค ที่จะสามารถอธิบายกับประชาชน และสมาชิกพรรคได้ ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะกลับมาสร้างบทบาท สำหรับตนเองยืนยันลงชิงหัวหน้าพรรคเช่นเดิม
สำหรับข้อเสนอที่ให้ลดสัดส่วนองค์ประชุมสส.ที่จะใช้ในการโหวต 70:30 นั้น เห็นว่าเรื่องนั้นผ่านถือว่าผ่านไป ตั้งแต่การประชุมครั้งที่แล้ว ที่กำหนดสัดส่วนองค์ประชุม 70 ต่อ 30 ซึ่งถูกใช้มาทุกครั้ง หากจะมายกเว้นในครั้งนี้ ก็จะเหมือนการยกเว้นเฉพาะกิจแล้วเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มบางกลุ่ม จึงเห็นว่าควรต้องเป็นไปตามครรลองเดิม และหากเสียงส่วนใหญ่คิดว่าน่าจะยกเลิก เป็น 40 หรือเท่าเทียมกันหมด ก็น่าจะเป็นการเลือกตั้งในครั้งหน้าคือครั้งถัดไป เพราะยังมีเวลาในการที่จะปรับโครงสร้าง หรือแก้ไขข้อบังคับ หรือเขียนกฎกติกาอะไรเพื่อให้เหมาะสมกับยุคสมัย ก็ขอเป็นครั้งต่อๆไปที่จะทำ
เพราะเรื่องนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมาในการประชุมครั้งที่แล้วค่อนข้างมากว่า ในอดีตที่เคยทำมา ให้สัดส่วนในการโหวตสส. 70% แล้วเหตุใดครั้งนี้สส.ที่ได้มา 30 คน ไม่มีความหมายหรืออย่างไรแล้วจะไปลดทอนสิทธิสส. เหล่านั้นเพื่ออะไร ในเมื่อการเลือกครั้งที่แล้วยังให้สิทธิสส. 70 ต่อ 30 แล้วเหตุใดครั้งนี้สส. ใหม่ไม่มีสิทธิ์ที่จะขับเคลื่อนพรรค ดังนั้นจึงเห็นว่าหากจะปรับหรือแก้ไขก็สามารถทำได้ แต่คงไม่ได้หมายความว่า มีกำหนดการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคออกมาแล้ว จะแก้กันเฉพาะกิจเฉพาะหน้า เพื่อประโยชน์ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งตนคิดว่าไม่เหมาะสม
"หากเราคิดว่าเราเป็นประชาธิปไตยจริง และพรรคเป็นประชาธิปไตยจริง เราก็ควรต้องยอมรับเสียงข้างมาก ซึ่งหากผมชนะการเลือกตั้ง น.ส. วทันยา ก็เป็นหนึ่งในคนที่อยู่ในแผนที่ผมจะดึงมาร่วมงาน ให้ช่วยในเรื่องของการสื่อสารองค์กร แต่หากน.ส.วทันยา ชนะเลือกตั้ง ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้ผม หรือไม่ หรือจะมีทีมอย่างไรก็แล้วแต่ เพราะถือเป็นสิทธิและอำนาจ ของคนที่ได้รับฉันทามติจากสมาชิก พรรคจะเดินหน้าได้ต้องมีเอกภาพ เพราะฉะนั้นต้องมาร่วมกันสร้างเอกภาพ แพ้หรือชนะนั่นคือประชาธิปไตย " เขา กล่าว
นราพัฒน์ แก้วทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้เสนอตัวลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์