'ไทยสร้างไทย' เชื่อ 'เงินดิจิทัล' ไม่ใช่ทางออก 'ปัญหาเศรษฐกิจ'
'ไทยสร้างไทย' ไอเดียเยอะ ไม่หนุน 'เงินดิจิทัล' ที่แก้ 'ปัญหาเศรษฐกิจ' ไม่ได้ ดันนโยบายกองทุนเพื่อคนตัวเล็ก เปิดโอกาสให้หายใจอีกครั้ง
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ย้ำว่า เงินดิจิทัลไม่ใช่ยาวิเศษ ที่จะทำให้เศรษฐกิจโตอย่างยั่งยืน จะทำให้เกิดกำลังซื้อระยะสั้นเท่านั้น แต่จะกลับไปเจอปัญหาความยากจนเหมือนเดิม ประชาชนยังต้องแบกรับความเสี่ยงจากการกู้เงินมหาศาลถึง 5 แสนล้านบาท จึงต้องมีเป้าหมายที่ชัดและจำกัดจำนวนลง
ส่วนการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ต้องเริ่มจากการแก้ไขปัญหาที่ใหญ่ที่สุดนั่นคือภาระหนี้สินของคนตัวเล็ก และ SMEs เพราะคนกลุ่มนี้คือฟันเฟืองที่สำคัญ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะ SMEs รหัส21 ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเป็นลูกหนี้ที่จ่ายเงินได้ตามปกติ ไม่มีประวัติผิดนัดชำระ
แต่จากเหตุการณ์โควิดส่งผลให้ไม่สามารถใช้หนี้ได้ ตัวเลขจนถึงเดือนสิงหาคม 2566 มีลูกหนี้ในกลุ่มนี้สูงถึง 5.04ล้านบัญชี ยอดหนี้รวมกว่า 3.82 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2566 กว่า 7 พันล้านบาท
พรรคไทยสร้างไทย จึงเสนอมาตรการในการพักหนี้ ให้ SMEs 2-3 ปี ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย โดยกองทุนฟื้นฟูหนี้เสีย SMEs จะช่วยพี่น้องผู้ประกอบการรายเล็กรายย่อย ที่ได้รับผลกระทบ จากคำสั่ง ล็อคดาวน์โควิด สามารถฟื้นตัวกลับมา ประกอบกิจการได้อีกครั้ง
กองทุนดังกล่าว จะทำหน้าที่ในการปรับโครงสร้างหนี้แล้วปล่อยกู้ใหม่ เป็นสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ชำระคืนแบบขั้นบันได โดยมีดอกเบี้ยไม่เกิน 4% ต่อปี
ขณะที่ปัญหาหนี้นอกระบบ ต้องมีกองทุนเครดิตประชาชน หรือกองทุนคนตัวเล็ก ซึ่งรัฐบาลสามารถจัดสรรงบประมาณ โดยแบ่งจากเงินกู้ 5 แสนล้านบาท มาใช้ใน กองทุนดังกล่าวประมาณ 2แสนล้านบาท เพื่อให้เครดิตกับประชาชน ได้มีทุนตั้งตัว ในอัตราดอกเบี้ยต่ำโดยกู้ได้ตั้งแต่ 10,000 บาท
หากรักษาเครดิตได้ดี ภายในระยะเวลา 6 เดือนสามารถกู้เพิ่มเติมได้ เป็น 50,000 บาท และสูงสุดถึง 1 แสนบาท ซึ่งจะเป็นการให้โอกาส คนตัวเล็กในการสร้างเนื้อสร้างตัว สามารถทำมาหากินได้ สร้างงานสร้างอาชีพในระยะยาวได้จึงจะทำให้หลุดพ้นจากวงจรของหนี้นอกระบบ ที่ดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 20 ต่อเดือนหรือ 240% ต่อปี ได้