บทพิสูจน์ 'ก้าวไกล' จัดการอย่างไรเรื่อง 'ล่วงละเมิดทางเพศ'

มติขับ 2 สส. ที่ถูกกล่าวหา ว่ามีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศ ของพรรคก้าวไกล  กลายเป็นบ่วงเวลาที่นับวันจะยิ่งหดสั้นรัดคอพรรคก้าวไกลเข้าไปทุกขณะ  ภาพลักษณ์การสร้างความเท่าเทียมและยุติธรรม ซึ่งเป็นธงนำทางการเมืองกำลังถูกทลายลง จากความฝันถึงสามัญสำนึกของมนุษย์

แจ้ สส.ปราจีน ถูกมติขับพ้นพรรค ตามข้อบังคับ ด้วยเสียง 3 ใน 4   ส่วน สส.ปูอัด แม้มติไม่ถึงตามเกณฑ์ แต่ก็ชัดเจนว่ามีการพิสูจน์ทราบถึงการกระทำความผิด   สังคมกำลังกดดัน ด้อมส้มพากันเรียกร้อง  สส.ก้าวไกลทั้งหญิงและชาย ออกมาแอคชั่นกันอย่างอย่างถึงพริกถึงขิง ทั้งหมดนั้นเป็นปฏิกิริยาที่ผ่านมาสองวันแล้ว

สส.แจ้ออกมาพร่ำรำพันถึงความเป็นธรรมจากมติพรรค พร้อมถามหาความรับผิดชอบ หากกระบวนยุติธรรมมีคำตอบว่าไม่ผิด ขณะที่ สส.ปูอัด ยืนหยัดที่จะสู้หัวชนฝา จากข้อกล่าวหาที่พรรคลงมติและหวังว่า ให้เรื่องนี้ จะมีคนกลางมาตัดสิน แม้มติของพรรคจะชัดเจน อย่างยิ่ง ก็ตาม

พรรคก้าวไกลวางบทบาททางการเมืองไว้ เหนือกว่าพรรคการเมือง อื่นๆ  มีภาพลักษณ์คนรุ่นใหม่ ที่ใส่ใจเรื่อง  sexsual harassment ประเด็นกลับกลายเป็นเสมือน ดาบนั้นคืนสนอง สิ่งที่เรียกร้องต้องการ เป็นบูมเมอแรง ย้อนกลับมาหาตัวเอง หนักกหนากว่าที่เคยกล่าวหาคนอื่นไว้ เวลาของพรรคก้าวไกลจึงเหลือไม่มากนัก

sexsual harassment ไม่ได้เพิ่งมาเกิดขึ้นในยุคของพรรคก้าวไกล แต่มีเสียงซุบซิบนินทามาตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่แล้ว จึงไม่น่าแปลกใจที่แกนนำคณะก้าวหน้าทั้งอดีตหัวหน้า เลขาธิการพรรค รวมถึง ช่อ พรรณิการ์ จะออกมาส่งสัญญาณให้เร่งจัดการปัญหา

ก่อนจะก้าวเข้าสู่สัปดาห์หน้า จึงเป็นห้วงเวลาสำคัญที่พรรคก้าวไกลจะพิสูจน์ว่าแตกต่างอย่างไรจากพรรคการเมืองอื่น  หมายความว่า จะต้องแปรจุดยืนให้เป็นรูปธรรมมากกว่านี้ ทำอย่างไรไม่ให้เกิดกรณีมากเกินกว่า 5 คดีที่ถูกจารึกไว้    

แจ้ สส.ปราจีนบุรี  ถูกศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นคำร้องให้ ป.ป.ช.ไต่สวนไปก่อนหน้านี้แล้ว และในวันจันทร์ ที่ 6 พฤศจิกายน ก็จะลาก ปูอัด เข้าไปสู่กระบวนการที่มีคนกลางอย่าง ป.ป.ช.ช่วยชี้มูลให้  ส่วนพรรคก้าวไกล ขณะนี้ทำได้แค่รอเวลา ให้สามัญสำนึกของผู้ถูกกล่าวหาทำงาน