ข่าว

'ปดิพัทธ์" แจง ขาดผู้นำฝ่ายค้าน กระทบขั้นตอนเอาผิด สส.ก้าวไกล คุกคามทางเพศ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุ กระบวนการทางสภา  ยังไม่สามารถตรวจสอบพฤติกรรม 'สส ปราจีนบุรี' ก้าวไกล ที่มีประเด็นถูกร้องเรียนคุกคามทางเพศ อ้างเป็นเพราะยังไม่มีผู้นำฝ่ายค้าน ส่วนกลไกของสภาฯก็ไม่เอื้อเทาที่ควร ด้านประธานคณะกรรมการวินัยก้าวไกล ขอให้อดใจรอการตรวจสอบ

นายปดิพัทธ์  สันติภาดา  รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1  เปิดเผยว่า   การดำเนินการกับ  สส.ปราจีนบุรี พรรคก้าวไกล  จากพฤติกรรมคุกคามทางเพศ    กระบวนการทางรัฐสภา  ที่ยังไม่สามารถดำเนินการตรวจสอบพฤติกรรม สส.ต่อกรณีดังกล่าว  เนื่องจากยังไม่มีผู้ร้องเรียน กระบวนการส่วนหนึ่งที่จะขับเคลื่อนการทำงานยังรวมไปถึง  การที่ต้องมีผู้นำฝ่ายค้านโดยเร็วที่สุด เพราะเรื่องคณะกรรมการจริยธรรม และคณะกรรมการสรรหาตำแหน่งต่างๆ ทางการเมือง  ถ้าไม่มีผู้นำฝ่ายค้านก็จะดำเนินการไม่ได้

 

 

 

 

ไม่ใช่กลไกเดียวที่จะทำให้เกิดการตรวจสอบ ซึ่งตอนนี้เห็นหลักฐานที่ปรากฏ ที่เกี่ยวพันกับ  สส.ปราจีนบุรี พรรคก้าวไกล  แต่ต้องมีคำชี้แจงและหลักฐานเพิ่มเติ่มจากทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้องด้วย ทั้งนี้คาดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะนาน  รอทาง กกต. รับรองสถานะของหัวหน้าพรรคก้าวไกล   ก็จะมีผู้นำฝ่ายค้าน  กระบวนการต่าง ๆ ก็จะทำงานได้   อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่ได้พูดคุยกับพรรคก้าวไกลเพราะเรื่องนี้ยังไม่มีการร้องถึงสภาผู้แทนราษฏร 

 

แต่ร้องเรียนไปที่พรรคการเมือง   ซึ่งพรรคการเมืองก็มีคณะกรรมการจริยธรรมของตัวเอง  และมีข้อบังคับของตนเอง   ที่ไม่สามารถก้าวล่วงได้   ทางผู้ร้องมีสิทธิที่จะร้องทุกข์ทาง  ทั้งต่อพรรค หรือสภาฯก็ได้  แต่ก็ต้องยอมรับว่ากลไกของสภายังไม่พร้อม    ซึ่งสภาไม่สามารถหยิบยกเรื่องขึ้นมาพิจารณาเองได้  จะต้องมีผู้ร้อง  เพราะไม่สามารถไปเก็บหลักฐานด้วยตัวเองได้ 

 

 

.

การตัดสินเรื่องนี้ขึ้นกับคณะกรรมการบริหารพรรค

.


นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการวินัยของพรรค เปิดเผยว่าประเด็น  สส.ปราจีนบุรี  พรรคก้าวไกล เขต 2 ถูกร้องเรียนว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมทางเพศ  พรรคก้าวไกลได้รับเรื่องร้องเรียนเรื่องนี้มาระยะหนึ่งแล้ว ได้มีกระบวนการในการตั้งกรรมการสอบวินัยเฉพาะกิจเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ  ซึ่งได้สอบข้อเท็จจริงทั้งผู้ถูกกล่าวหา  และผู้กล่าวหาที่อ้างว่าได้รับความเสียหาย รวมถึงพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง 

 

 

 


ในการสืบหาข้อเท็จจริง ทั้ง 2 ฝ่ายต่างกล่าวอ้าง ถึงตัวบุคคล เอกสาร และหลักฐานจำนวนมาก ถือว่ากระบวนการยังไม่สิ้นสุด  และมีกระบวนการมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ คงยังไม่สามารถระบุวัน เวลาได้ แต่พรรคได้สื่อสารกับผู้เสียหายเป็นระยะ และท้ายที่สุดเมื่อกระบวนการทางวินัยเสร็จสิ้นลง ตามข้อบังคับการประชุมของพรรคก้าวไกล  ที่มีการแก้ไขใหม่ ต้องมีการเสนอเรื่องให้คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณา ซึ่งท้ายที่สุดจะอยู่ที่กรรมการบริหารพรรคว่าจะพิจารณาวินิจฉัยอย่างไร 

 

 

\'ปดิพัทธ์\" แจง ขาดผู้นำฝ่ายค้าน  กระทบขั้นตอนเอาผิด สส.ก้าวไกล คุกคามทางเพศ

ณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการวินัยพรรคก้าวไกล

 

.

เข้าใจท่าทีสังคม คาดหวังสูงต่อ "ก้าวไกล"

.

"เพียงแต่ด้านหนึ่งเป็นเรื่องภายในของเรา แต่อีกด้านเป็นเรื่องที่ต้องสื่อสารให้สังคม ซึ่งคาดหวังกับพวกเราสูง ในการให้คุณค่ากับเรื่องเหล่านี้ มีความเข้าใจ ขออนุญาตว่าทุกขั้นตอน มีการใช้กระบวนการหลักฐานกันอย่างรอบด้าน เมื่อพิจารณาหลักฐานใดแล้ว ไม่ใช่ว่าจะตัดสินว่าใครถูกใครผิดเพียงอย่างเดียว"

 

 

 

 

นายณัฐวุฒิ  กล่าวว่า  การที่มีผู้เสียหายมาร้องเรียน  ย่อมต้องรวบรวมความกล้า และมีข้อมูลพยานหลักฐาน    การตัดสินใจที่จะร้องเรียนต่อพรรค ก็ต้องถือว่าเรื่องเหล่านี้มีมูล แต่จะเป็นลักษณะความผิดแบบใด เข้าข่ายไปถึงขนาดไหน และจะตัดสินว่ามีความความผิดหรือไม่ มีระเบียบที่แตกต่างกัน เช่นกรณีกระทบชื่อเสียงพรรค ก็จะเป็นแบบหนึ่ง คุกคามทางเพศก็จะเป็นแบบหนึ่ง

 

.

ผิดจริงบทลงโทษ ตัดสิทธิที่พึงมี -ไม่ส่งลงสมัครสส.

.

โทษของกรณีนี้ หากผิดจริงก็ต้องถือว่าผิดวินัยร้ายแรง มีโทษสองสถานเท่านั้นคือตัดสิทธิที่พึงมี ซึ่งรวมไปถึงการตัดสิทธิไม่ส่งลงสมัครลงเลือกตั้งครั้งหน้า และการให้พ้นสมาชิกภาพของพรรค แต่ตอนนี้ยังเร็วไปที่จะตอบ ว่าผลการพิจารณาเป็นอย่างไร แต่รับเรื่องมาจริงและมีกระบวนการสอบหลายครั้ง ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับคณะกรรมการวินัย และเสียงส่วนใหญ่ของคณะกรรมการวินัยมองว่า ยังขาดพยานหลักฐานในหลายประเด็น ซึ่งต้องทำให้รอบคอบที่สุด   โดยเรื่องดังกล่าวร้องเรียนมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา 

 

 

 

 

.

กรรมการเห็นตรงกันต้องสอบเพิ่ม

.


เขากล่าวว่า  ที่มีการเปรียบเทียบกับพรรคอื่นว่าเหตุใดพรรคก้าวไกลมีท่าทีกับพรรคอื่นเร็ว แต่พรรคตัวเองค่อนข้างช้า   เรื่องนี้เมื่อข้อเท็จจริงของแต่ละรายไม่เหมือนกัน พยานหลักฐานไม่เหมือนกัน บางเรื่องสามารถใช้ผู้เสียหายมาสอบตัดสินได้เลย บางเรื่องเรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบและยอมรับความเป็นจริงก็สามารถตัดสินได้เลย แต่บางเรื่องเป็นกรณีที่สองฝ่ายต่างอ้างพยานหลักฐานเป็นจำนวนมาก  กรรมการวินัยทั้ง 7 คน มีมติตรงกันว่ายังจำเป็นที่ต้องสอบข้อเท็จจริงบางประเด็นเพิ่มเติม และมีการแจ้งให้กรรมการบริหารพรรคทราบเป็นระยะ 

 

 

 

 

"มีการตั้งคณะกรรมการวินัยเพิ่มเติมซึ่งเป็นสัดส่วนผู้หญิง 2 คน คือ ทนายแจม “ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์" ที่จะไม่ปล่อยเรื่องแค่นี้แน่นอน อีกคนคือทนายก้อย "นิตยา มีศรี" ที่ทำงานในประเด็นเหล่านี้ร่วมกับคณะกรรมการวินัยชุดเดิม ก่อนจะทิ้งท้ายว่าจะพยามสื่อสารอย่างเป็นระยะความคืบหน้า ยืนยันไม่ได้ดึงเวลาให้ล่าช้าแต่ขอเวลาเพื่อดูพยานหลักฐานที่รอบด้านและครบถ้วนก่อนที่จะพิจารณาและตัดสิน  ตัวยังไม่สามารถระบุเวลาที่ชัดเจนได้" นายณัฐวุฒิกล่าว

 

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ