พิธา โต้ แทน 'ก้าวไกล' เหตุถูกวิจารณ์ถอยหลังลงคลอง ชนวนเก้าอี้รองประธานสภาฯ
ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค "ก้าวไกล " พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ออกโรงชี้แจง หลังเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ถอยหลังลงคลอง จากประเด็นขับ สส.พิษณุโลก ออกจากพรรค เพื่อให้ไปทำหน้าที่รองประธานสภา ระบุชัดเรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรมาก ต่างคนต่างมีภารกิจ เมื่อกติกาไม่เอื้อก็แยกทาง
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า การที่บางพรรคการเมืองวิจารณ์ว่า พรรค "ก้าวไกล" กำลังถอยหลังลงคลอง เนื่องจากแสดงวิสัยทัศน์ว่าจะเล่นการเมืองใหม่ แต่กลับไปเล่นการเมืองแบบเก่า จากประเด็นพรรคก้าวไกล ให้นายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก ออกจากพรรค เพื่อไปทำหน้าที่ รองประธานสภาผู้แทนราษฏร ในขณะที่พรรคก้าวไกล โดยนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฏร
ประเด็นข้างต้นขอชี้แจงว่า ไม่ได้เป็นการเมืองเก่าหรือใหม่ แต่ตั้งใจเดินหน้าตามเป้าหมายตามที่รัฐธรรมนูญบังคับไว้ ว่าเป็นไปในลักษณะแบบไหน ทาง "ก้าวไกล" ต้องการเป็นฝ่ายค้านเชิงรุกอย่างที่เคยพูดไว้ ส่วนนายปดิพัทธ์ ก็มีความต้องการจะเป็นรองประธานสภาฯ ที่ต้องการทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในรัฐสภา และให้มีประชาชนส่วนร่วมมากขึ้น
ส่วนที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน จะเตรียมยื่นเรื่องตรวจสอบกรณีพรรคก้าวไกล มีมติขับนายปดิพัทธ์ ออกจากพรรคเพื่อต้องการรักษาตำแหน่ง โดยระบุว่าอาจเข้าข่ายฉ้อฉลหรือนิติกรรมอำพราง
ไม่น่าเป็นเรื่องที่ต้องกังวลใจอะไร ความจำเป็นก็เป็นไปตามที่พรรคก้าวไกลได้มีแถลงการณ์ออกไปแล้ว เพราะพรรคต้องการทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ และต้องการที่จะมีผู้นำฝ่ายค้าน แต่ขณะเดียวกันนายปดิพัทธ์ ก็มีความต้องการที่จะทำรัฐสภาให้โปร่งใส และเมื่อเป็นอย่างนั้นก็คงต้องแยกกันเดิน เพื่อให้ต่างคนต่างบรรลุเป้าหมายให้ได้ แต่ในที่สุดก็คือการคิดถึงการทำงานของรัฐสภา รวมถึงสส.ของพรรคการเมืองเป็นหลัก
"การใช้คำว่า"นิติกรรมอำพราง" เรื่องนี้คิดว่าเป็นสิทธิที่จะวิจารณ์อะไรก็ได้ ทางพรรคก็น้อมรับไว้ แต่ขณะเดียวกันยืนยันตรงไปตรงมาพร้อมทั้งมีการอธิบายเป็นขั้นเป็นตอนไปแล้ว ว่าพรรคก้าวไกลต้องการที่จะเป็นฝ่ายค้าน ขณะเดียวกันรัฐธรรมนูญก็ไม่อนุญาตให้มีรองประธานอยู่ในพรรคที่มีผู้นำฝ่ายค้าน ส่วนนายปดิพัทธ์ก็ตัดสินใจอยากจะทำภารกิจ เรื่องรัฐสภาให้มีความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพต่อ ฉะนั้นจึงมีความจำเป็นที่พรรคก้าวไกลต้องขับนายปดิพัทธ์ออก และนายปดิพัทธ์ก็ต้องหาพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งมันก็ตรงไปตรงมาแค่นี้ไม่ได้มีอะไรอำพรางแม้แต่เล็กน้อย
เขา กล่าวว่า สำหรับการทำแบบนี้ จะเป็นการกั๊กทั้งตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 1 และตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน ยืนยันไม่ใช่เป็นการกั๊ก เพราะถ้าเป็นการกั๊กก็ต้องเป็นในลักษณะที่ว่า ทำให้มันพร้อมกัน แต่เรื่องนี้เป็นเหตุผลของพรรคก้าวไกลและส่วนตัวของนายปดิพัทธ์ ซึ่งแยกออกจากกัน พร้อมย้ำว่าเรื่องขับออกจากพรรคไม่ใช่วิธีการที่ง่ายเกินไป เพราะเป็นไปตามกระบวนการ เมื่อพรรคตัดสินใจเช่นนี้ จึงไม่สามารถให้นายปดิพัทธ์ตัดสินใจเป็นอย่างอื่นได้ แต่เมื่อนายปดิพัทธ์ตัดสินใจเป็นอย่างอื่นก็ต้องออก ย้ำว่าเป็นกระบวนการที่ตรงไปตรงมา
ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล