'วันชัย' เชื่อแถลงนโยบาย 'เศรษฐา 1' โดนถล่มและใช้เวลาหนักกว่าสมัย 'ประยุทธ์' รัฐบาลต้องยืนยันนโยบายทำได้หรือไม่ ชี้ สว. กระตือรือร้น หนัก เป็นช่วงวาระสุดท้าย เตือนเข้ามาหาผล ปย. เท่ากับฆ่าตัวตาย
จะมีการแถลงนโยบายของรัฐบาล "เศรษฐา 1" ในสัปดาห์หน้า ในส่วนของการเตรียมความพร้อมของ สว. ดูจะดุเดือดอีกครั้ง เมื่อนายวันชัย สอนศิริ สว. ระบุว่า คงจะไม่ปล่อยให้รัฐบาลแถลงนโยบายแล้วกลับไปเฉยๆ รัฐบาลจะต้องหาคำมั่นยืนยันให้ชัดเจนว่า สิ่งที่หาเสียงไว้แต่ละเรื่องของทำได้จริงหรือไม่และทำได้เมื่อไหร่
"ไม่ใช่เหมือนรัฐบาลอื่นๆที่แถลงนโยบายเรียบร้อย ทำได้หรือไม่ได้ก็ ไม่รับผิดชอบอะไร เพราะฉะนั้นรัฐบาลนายเศรษฐา จะต้องถูก สว. จี้ และขอคำมั่นให้ชัดเจนแต่ละนโยบาย"
นายวันชัยยังบอกอีกว่า อาจจะใช้เวลามากกว่า 1 วัน เพราะในสมัยของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้เวลา 30 ชั่วโมง คราวนี้อาจจะใช้เวลามากกว่านั้น เพราะทั้ง สว. และพรรคก้าวไกลน่าจะใช้เวลาอภิปรายพอสมควร ส่วนสาเหตุที่ใช้เวลามากเพราะอะไร น่าจะเดากันเองได้
โดยในวันที่ 6 ก.ย. นี้ จะมีการประชุมวิปวุฒิสภา เพื่อหารือตกลงในหลักการและรายละเอียด ก่อนจะส่งตัวแทนเข้าพูดคุยในวิป 3 ฝ่ายต่อไป ตามหลักปฏิบัติ คือ เมื่อได้รับรายละเอียดนโยบายของรัฐบาลแล้ว จะนำมาแยกแยะจัดแจง แล้วให้สมาชิกแจ้งความประสงค์ว่าจะอภิปรายในประเด็นใด
นายวันชัย เชื่อว่า การแถลงนโยบายครั้งนี้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันแทบทุกนโยบายของรัฐบาล ทั้งดิจิทัลวอลเล็ต นโยบายความปรองดอง และการทหาร จะต้องมีการซักถามกันมาก เพราะสว.ทุกคนมีความกะตือรือร้นกันอย่างมาก ในการประชุมหารือครั้งสุดท้ายในวาระของวุฒิสภาชุดนี้ โดยเฉพาะ สว. จากต่างจังหวัด ที่ต้องการให้นโยบายมาสร้างความให้เกษตรกรตามที่หาเสียงไว้
นายวันชัย กล่าวว่า รัฐบาลจะอยู่ได้ยาวหรือไม่ คือ มีผลงานหรือไม่ เป็นเรื่องสำคัญที่สุด พรรคร่วมรัฐบาลทะเลาะเบาะแว้งแตกแยก จะทำให้รัฐบาลอายุสั้น ในสถานการณ์นี้หากผนึกกำลังกันได้และมีผลงานจะอยู่ได้ยาว โดยเฉพาะการไม่โกงกินทุจริตคอร์รัปชั่น หากเข้ามาเป็นรัฐบาลแล้วมาทำมาหากินเอื้อเฟื้อพวกพ้อง ถือว่าเป็นรัฐบาลฆ่าตัวตาย บทเรียนอดีตที่ผ่านมา จะช่วยให้รัฐบาลแก้ไขสิ่งที่บกพร่องต่างๆ
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลนั้น ยังมีความกังวลจะไปแตะต้องแก้ไขหมวดสำคัญ โดยเฉพาะหมวดที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ ที่ผ่านมารัฐบาลได้แถลงนอกสภา แต่ในการแถลงต่อรัฐสภาจะขอคำมั่นจริงๆ ว่าจะแตะต้องหมวดเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์หรือไม่ รวมถึงเนื้อหาสาระที่จะแก้ โดยเฉพาะที่มาของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.)
แต่บางทีถ้า สสร. มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด อิทธิพลจากพรรคการเมืองต่างๆ ก็จะครอบงำไปหมด ทำให้รัฐธรรมนูญนั้น ไม่ได้มาจากความต้องการของประชาชนจริงๆ อาจจะเป็นความต้องการของพรรคการเมือง เราจะหาความพอดี หรือข้อตกลงให้ชัดเจน ว่าคนที่จะมาร่างรัฐธรรมนูญนั้นควรจะมีภาคส่วนใดบ้าง
ส่วนเรื่องความไม่เหมาะสมของรัฐมนตรีในบางกระทรวง นายวันชัย มองว่า บางคนอาจมีข้อตำหนิเรื่องความไม่เหมาะสม แต่ส่วนตัวมอง การจัดคณะรัฐมนตรีในสถานการณ์การเมืองแบบนี้ถือว่าดีแล้ว แต่ลำพังแค่หน้าตารัฐมนตรีอาจจะไม่พอ เรื่องสำคัญคือผลงาน จะลบข้อครหาของรัฐมนตรีได้
หากผลงานดีเชื่อว่า จะลบข้อตำหนิไปได้หมด แต่หากไม่มีผลงานเลยจะยิ่งกว่าถูกตำหนิอีก จะเหมือนการซ้ำเติมหน้าตาของรัฐมนตรีคนนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง