ข่าว

‘เศรษฐา-สุทิน’ แจง ‘ผบ.เหล่าทัพชุดใหม่’ ถึงปมเลือก ‘รมว.กลาโหม’

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

‘เศรษฐา-สุทิน’ ส่งเทียบเชิญ ‘ผบ.เหล่าทัพชุดใหม่’ ทานข้าวเที่ยงแบบส่วนตัว เพื่อแนะนำตัว-กระชับสัมพันธ์ พร้อมแจงเหตุผล ทำไมเลือกสุทิน คลังแสงเป็น ‘รมว.กลาโหม’

มีรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม(รมว.กลาโหม) ได้เชิญว่าที่ ‘ผบ.เหล่าทัพชุดใหม่’ อาทิ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี รอง ผบ.ทสส. ในฐานะว่าที่ ผบ.ทสส. , พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ รอง ผบ.ทบ. ในฐานะว่าที่ ผบ.ทบ., พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ (ผบ.กร.) ในฐานะว่าที่ ผบ.ทร. และ พล.อ.อ.พันธ์ภักดิ์ พัฒนกุล ผู้ช่วย ผบ.ทอ. ในฐานะว่าที่ ผบ.ทอ. มาร่วมรับประทานอาหารกลางวันในวันนี้ เพื่อแนะนำตัวและทำความรู้จัก กระชับความสัมพันธ์ 

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

 

นอกจากนี้ คาดว่า นายเศรษฐา  ทีวีสิน นายกรัฐมนตรี จะชี้แจงเหตุผลที่เลือก นายสุทิน มาทำหน้าที่ รมว.กลาโหม

 

นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม

ขณะเดียวกัน ตามรายงานการนัดหารือ จะเน้นการรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะกับทางกองทัพบกให้มากที่สุด เพื่อให้เกิดการประสานความร่วมมือการขับเคลื่อนงานของรัฐบาล และกองทัพ 

 

 

โดยเฉพาะสอดคล้องกับสถานการณ์บ้านเมือง ก่อนนำมาบรรจุไว้ในนโยบาย ร่วมกับนโยบายของ 11 พรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลเพื่อไทย และตามหมุดหมายรัฐบาลจะแถลงนโยบายในวันที่ 11 กันยายน 2566

 

 

สำหรับสถานที่นัดทานอาหาร คือโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร(กทม.) และไม่ได้มีการแจ้งต่อสื่อมวลชน เนื่องจาก นายกฯอยากจะทานข้าวกับว่าที่ผบ.เหล่าทัพชุดใหม่ เป็นการส่วนตัว และพูดคุยอย่างเป็นกันเอง ไม่อยากให้เอิกเกริก ไม่อยากให้มีสื่อมวลชนมาทำข่าว

 

อย่างไรก็ตาม นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ยังเตรียมที่จะเข้าพบนักวิชาการด้านความมั่นคง อาทิ ศ.สุรชาติ บำรุงสุข อาจารย์ประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยก่อนหน้านี้ได้หารือกับนายไพศาล พืชมงคล ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

 

 

ส่วนตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสม ซึ่งตามรายงานมีชื่อของ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ด้วย

 

พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม

มีรายงานข่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ได้เคยมีการพูดคุยกันในเรื่องการทำงานระหว่างรัฐบาลและกองทัพมาบ้าง โดยนายเศรษฐามีนโยบาย พร้อมจะทำงานกับกองทัพในฐานะรัฐบาลพลเรือน ที่พร้อมรับฟังคำแนะนำต่างๆ

 

 

อีกทั้งในเรื่องการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ รัฐบาลก็พร้อมสนับสนุน จะไม่ตัดงบประมาณดังกล่าว หากมีความจำเป็น เพราะเข้าใจดีว่าอาวุธยุทโธปกรณ์ถือเป็นสิ่งสำคัญในการที่จะปกป้องประเทศ โดยเฉพาะตามแนวชายแดนต่างๆที่จำเป็นต้องมีทัดเทียมกับประเทศเพื่อนบ้านและหากมีการเจรจาในเรื่องนี้ จะขอให้ทางกองทัพนำเสนอยุทโธปกรณ์ภายในประเทศไทยที่มี เพื่อแลกเปลี่ยนหรือไปจำหน่ายกับประเทศนั้นๆ ในลักษณะการแลกเปลี่ยน หรือ บราเธอร์ (barter) ระหว่างกัน ซึ่งจะทำให้สินค้าที่เรามีอยู่สามารถมีช่องทางเพิ่มในทางการตลาดกับต่างประเทศได้อีกทางหนึ่ง

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ