สุดทน ‘เชาว์ มีขวด’ อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ถึง 16 สส. แหกมติพรรค หมดความชอบธรรม เห็นแก่ประโยชน์เฉพาะหน้าหวังร่วมรัฐบาล ทำพรรคตกต่ำ อาจถึงขั้นสูญพันธุ์ “ปล่อยมือเถอะครับ แล้วจากกันด้วยดี”
23 ส.ค. 2566 นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นต่อ 16 สส.ปชป.โหวตนายกรอบ3 แหกมติพรรค ในหัวข้อว่า "ปล่อยมือเถอะครับ แล้วจากกันด้วยดี"
ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นกับพรรคประชาธิปัตย์ในการโหวตให้ความเห็นชอบนายเศรษฐา ทวีสิน จากพรรคเพื่อไทย ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสนุกปากว่าประชาธิปัตย์เละเป็นโจ๊ก เนื่องจากมี สส.กลุ่มของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตเลขาธิการพรรค จำนวน 16 คน ได้โหวตสวนมติพรรคที่ให้ งดออกเสียง เป็นเห็นชอบ
ที่ผมโฟกัสเฉพาะ สส.16 คน ไม่พูดถึง 2 อดีตหัวหน้าพรรคฯ ที่โหวตสวนมติเหมือนกัน แต่เป็นการลงคะแนนไม่เห็นชอบนั้น ก็เพราะทั้งคู่ได้แจ้งต่อที่ประชุมแล้ว ถึงจุดยืนที่ขอใช้เอกสิทธิ์ สส.ในกรณีนี้ แต่ สส. 16 คน ซึ่งเป็นจำนวนเดียวกับที่เคยตกเป็นข่าวว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา ใช้ต่อรองกับนายทักษิณ ชินวัตร ดีลร่วมรัฐบาลที่ฮ่องกง
เหตุการณ์ประหลาดเช่นนี้ ไม่เคยเกิดขึ้นกับพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นสถาบันหลักในทางการเมืองมายาวนานกว่า 78 ปี และยังมีจุดยืนทางการเมืองคนละขั้วกับพรรคเพื่อไทยอย่างชัดเจน ในการต่อต้านระบอบทักษิณ ต่อสู้ห้ำหั่นกันมากว่าสองทศวรรษ ถึงขนาดนายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค กล่าวภายหลังการประชุมรัฐสภาว่า ไม่น่าเชื่อว่า สส.ของพรรคจะโหวตออกมาอย่างนี้ ซึ่งก็ไม่ต่างไปจากสมาชิกพรรคที่มีความห่วงใย ในอนาคตของพรรคว่าถึงคราวจะสูญพันธุ์ตามที่หลายคนได้พูดถึงหรือไม่
จนถึงเวลานี้ ยังไม่มีคำชี้แจงจากกลุ่ม สส. ทั้ง 16 คน ถึงเหตุผลใดที่ให้พวกท่านตัดสินใจทำเช่นนั้น แต่ผมคิดว่าการฝ่าฝืนมติพรรคที่ตัวเองเป็นผู้กำหนดขึ้นเองคล้อยหลังเพียงหนึ่งวัน จากงดออกเสียงเป็นเห็นชอบ จะชี้แจงแก้ตัวอย่างไรคงฟังไม่ขึ้น เพราะการกระทำของพวกท่านหมดความชอบธรรม ที่จะยกเหตุผลใดมาอธิบาย นอกจากเห็นแก่ประโยชน์เฉพาะหน้าจากการเข้าร่วมรัฐบาล
โดยที่พวกท่านลืมหลักการไปว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือในการแสวงหาอำนาจ โดยไม่คำนึงถึงอุดมการณ์และความรู้สึกของประชาชนที่เป็นผู้สนับสนุนพรรคมาอย่างยาวนาน ผมเข้าใจดีว่าในวันที่พรรคอ่อนแอ หลายคนคิดแค่กอบโกยให้ได้มากที่สุด ทิ้งไว้เพียงซากปรักหักพัง เพราะไม่คิดที่จะอยู่ต่อแล้วในอนาคต แต่อยากให้ตระหนักสักนิดว่ายังมีคนอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่คิดทิ้งพรรค หวังที่จะกอบกู้ สู้ไปด้วยกันแม้ในวันที่พรรคอ่อนล้าโรยแรง มีใมเดลที่พรรคพลังประชารัฐเคยทำ เมื่อครั้งมีความเห็นต่างจนไม่อาจหาข้อยุติได้ สุดท้ายร้อยเอกธรรมนัส เดินจากไป
"ปล่อยมือเถอะครับ แล้วจากกันด้วยดี”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง