ข่าว

'ชูวิทย์' จับโป๊ะ รปภ. นอมินี จ่อส่งเอกสารถึง สส.-สว. สกัด เศรษฐา นั่งนายกฯ

20 ส.ค. 2566

'ชูวิทย์' ตอกฝาโลง จับโป๊ะ รปภ. นอมินี เป็นเจ้าของถนนในโครงการ จ่อส่งเอกสารถึงมือ สส.-สว. สกัด 'เศรษฐา' นั่งนายกฯ

เปิดการ “แฉเพื่อชาติ” อย่างต่อเนื่อง สำหรับ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ล่าสุด เปิดแถลงข่าวอีกครั้ง หลังข่าวการเดินทางกลับไทยของ “ทักษิณ ชินวัตร” ในวันที่ 22 ส.ค. 2566 ว่ามีเงื่อนงำเชื่อมโยงกับดีล ที่พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นแคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรี

ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์

นายชูวิทย์ ระบุว่า การแถลงข่าววันนี้ถือเป็นน้ำจิ้ม และจะให้โอกาสนายเศรษฐา ถอนตัวจากการเป็นแคนดิเดต นายกรัฐมนตรี เพราะถ้ายังดึงดัน ในวันพรุ่งนี้ จะแถลงข่าวตอกฝาโลงเป็นครั้งสุดท้าย โดยกล่าวอ้างว่า พฤติการณ์พยายามแยกผู้ขาย ผู้ซื้อ ออกจากกัน ซึ่งพฤติการณ์ทั้งหมด เกิดมาจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังทั้งสิ้น โดยจะนำโฉนดที่ดิน มาให้นายเศรษฐาดูว่า ที่ดินของตนเองไม่มีหนี้แม้แต่บาทเดียว และยังติดสัญญาที่ทำไว้กับคนอื่นอยู่ เพราะฉะนั้นการที่มาหาว่าตนเองโกรธ เพราะนายเศรษฐาไม่ยอมซื้อที่ดิน ถือเป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น

 

 

ส่วนการเดินทางกลับประเทศไทยของนายทักษิณ ชินวัตร จะเป็นไปตามกำหนดเดิมหรือไม่นั้น ทุกอย่างขึ้นอยู่กับวันพรุ่งนี้ และตอนนี้นายทักษิณ รออยู่ที่สิงคโปร์แล้ว ซึ่งการแฉในครั้งนี้ ตนตรวจสอบข้อมูลและพิสูจน์ข้อมูลต่างๆ จนพบว่ามีการย้ายเงินออกไปที่ต่างประเทศด้วย

 

 

นายชูวิทย์ ระบุว่า การที่นายเศรษฐา แก้ตัว กรณีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ที่ชื่อ “สมศักดิ์” ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง เป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น เพราะนายสมศักดิ์ มีอำนาจในการลงนามเอกสารของบริษัท N (เอ็นแอนด์เอ็น) และนายสมศักดิ์ ก็ไปขอ EIA (รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมซึ่ง ทุกคอนโดมิเนียมต้องขอ)

ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์

โดยในการแถลงข่าว นายชูวิทย์ได้แสดงเอกสารมาให้สื่อดูว่า มีนายสมศักดิ์เป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัท อ. (อ่อนนุชพร็อพเพอร์ตี้ หรืออ่อนนุชแลนด์) เจ้าของถนนทั้งหมดในโครงการของอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง หมายความว่า นายสมศักดิ์ เป็น เป็นนอมินีของนายเศรษฐา และยังเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทนี้อีก 1 หุ้น

 

 

“ที่ดินดังกล่าว และถนนในโครงการของอสังหาริมทรัพย์ เดิมเป็นของเจ้าของท่านหนึ่ง (สุระ จันทร์ศรีชวาลา) ต่อมา ขายให้กับบริษัท ม. (บ.เมจิกโมเดิร์น )ราคา 800 ล้านบาท แต่บริษัท ม. ไปกู้เงินมาได้ทั้งหมด 2,000 ล้านบาท แต่ไม่เคยชำระหนี้เลย หลังจากนั้นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไปทยอยซื้อที่ดินต่อในราคาตารางวาละ 350,000 บาท รวม 3,500 ล้านบาท จากราคา 800 ล้านบาท หมายความว่าทั้งหมดเป็นการวางแผนเพื่อนำเงินส่วนต่างเข้ากระเป๋าตัวเอง”

 

 

นายชูวิทย์ ชี้ หลักฐานคืองบดุลของบัญชีบริษัท ม. ที่แสดงกำไร 2,000 ล้านบาท และไม่ส่งงบดุลมาเป็นระยะเวลานานจนทำให้กลายเป็นบริษัทร้าง นั่นหมายความว่า นายเศรษฐา พยายามจงใจให้มีบริษัทนอมินี เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว

 

 

"พรุ่งนี้จะออกมาพูดข้อมูลเพิ่มเติม เป็นตอนสุดท้ายในชื่อว่า "ตอกฝาโลง" โดยจะมีหลักฐานเด็ดเกี่ยวกับการนำเงินออกนอกประเทศ" นายชูวิทย์ ระบุ

 

 

นายชูวิทย์ ยังบอกอีกว่า ควักเงินกว่า 20,000 บาท ส่งเอกสารหลักฐานทั้งหมดนี้ได้ส่งไปรษณีย์ แบบ EMS ไปให้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 500 คน และสมาชิกวุฒิสภา 250 คน ทั้งหมด 750 คน ในการตรวจสอบโดยหลักฐานทั้งหมดจะถึงมือทุกคนวันที่ 21 ส.ค.นี้ เพื่อให้ใช้พิจารณาการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี โดยไม่สนใจว่าเอกสารทั้งหมดนี้ สส.จะอ่านหรือไม่ แต่เมื่อ นายเศรษฐา ได้รับการโหวตให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรีจริง นั่นหมายความว่า เมื่อเรื่องทั้งหมดถูกเปิดโปง สส.คนที่โหวตก็จะมีส่วนผิดด้วย

 

 

ดังนั้น การที่นายทักษิณ ผูกโยงกับเรื่องของการโหวตนายกฯ หมายความว่า ต้องมีเรื่องของการแลกเปลี่ยน ส่วนตัวเชื่อว่านายทักษิณ ยังลังเล เปลี่ยนใจอยู่ทุกวินาที แม้ว่าจะมีการเตรียมความพร้อมด้วยการเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าไว้แล้วก็ตาม

 

 

ส่วนที่มีการอ้างเรื่องป่วยดวงตานั้น นายชูวิทย์ เผยว่า มีการเตรียมสถานที่รองรับไว้ 2 ที่ คือ โรงพยาบาลตำรวจ และ โรงเรียนพลตำรวจบางเขน โดยมีการเก็บกวาด จัดเตรียมไว้ โดยในวันพรุ่งนี้ เวลา 13:00 น. นายชูวิทย์ จะแถลงข่าว Ep. 3 “ตอกฝาโลง” พฤติกรรมนิติกรรมอำพราง ของว่าที่นายกฯ ตัวสูงๆ นอมินีของใคร? ซื้อที่ราคาสมเหตุสมผลหรือไม่? เปิดตัว นายขงเบ้ง ผู้มีอุปการคุณของว่าที่นายกฯ ตัวสูงๆ