'โหวตนายกฯ' 'เพื่อไทย' บนเงื่อนไข ใจบันดาลแรง

การโหวตนายกฯ ถูกกำหนดไว้อีกครั้ง วันที่ 22 ส.ค. 2566 เวลา 10.00 น.  มีเวลาให้สมาชิกรัฐสภา อภิปราย แคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทย 5 ชั่วโมง ระหว่างนี้ ข่าวเรื่องการแย่งเก้าอี้รัฐมนตรี  จะดำเนินไปอย่างเข้มข้น อาจมีผลต่อการโหวตนายกรัฐมนตรี จนวินาทีสุดท้าย   และยังต้องจับตาอดีตนายกฯทักษิณ กลับมาก่อนการประชุมรัฐสภา เพียงหนึ่งชั่วโมง จะส่งผลอย่างไร

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา การเดินเกมเจรจา ของพรรคเพื่อไทย ใช้ภูมิธรรม เวชยชัย อดีตรองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย  ถือได้ว่าเป็นสายตรง บ้านจันทร์ส่องหล้า และร่วมก่อตั้งพรรคไทยรักไทยมากับทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ทำหน้าที่เจราจากับพรรคของสองลุงเป็นหลัก

ภูมิธรรมเป็นคนเดือนตุลา เคยหนีเข้าป่าสมัยเหตุการณ์เดือนตุลา 2519  หากยังจำกันได้ พรรคไทยรักไทย เคยชนะการเลือกตั้ง เป็นรัฐบาลพรรคเดียว 377 เสียง  แม้เวลาจะผ่านมาเกือบ 20 ปี แต่คนหนุ่มในยุคนั้น ปัจจุบันยังเป็นแกนหลักขับเคลื่อนการเมืองในหลายพรรค

การเลือกตั้งประธานสภาเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ก็เป็น ภูมิธรรม เวชยชัย ที่จัดการให้ มีคนกลาง มานั่งเก้าอี้ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ชื่อ วันมูหะหมัดนอร์ มะทา ซึ่งเป็น อดีตรองหัวหน้า พรรคไทยรักไทยจนพรรคก้าวไกล กลืนไม่เข้าคายไม่ออกมาแล้ว

การชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อปี 2548  มีข้อกล่าวหา ทักษิณ เรื่องปฏิญญาฟินแลนด์ ว่าเป็นทฤษฎีสมคบคิด ที่อ้างว่ามีเป้าหมายในการยึดครองประเทศ  และหากยังจำกันได้

ภูมิธรรมเคยตอบคำถามเรื่องการโอนอำนาจจัดตั้งรัฐบาลให้พรรคเพื่อไทย จะเปิดโอกาสให้มีการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้วหรือไม่ว่า เขาจะต้องทำอย่างสุดความสามารถเพื่อให้บรรลุการจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ท่ามกลางคำปรามาสว่า

พรรคเพื่อไทย ยอมทุกอย่าง ถูกบีบทุกทางจากทุกพรรคที่ไปทาบทามมาร่วมรัฐบาล  จนไม่มีอำนาจต่อรองเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีมากนัก  แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าหากต้องแลกกับเป้าหมายให้คนของตัวได้ตำแหน่ง ประมุขฝ่ายบริหาร  

แน่นอนว่าเมื่อ2 ใน 3 อำนาจอธิปไตย อยู่ในมือ ที่กินรวบก็คงไม่ใช่พรรคก้าวไกล  แต่เป็นพรรคเพื่อไทย และอยู่บนเงื่อนไขที่ต้องใช้ใจบันดาลแรง