ข่าว

'เศรษฐา' ย้ำ 'แสนสิริ' ทำธุรกรรมโปร่งใส เผย 'เสี่ยหนู' ต่อสายหนุนนั่งนายกฯ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'เศรษฐา' ย้ำ 30 ปี 'แสนสิริ' บริหารงานโปร่งใส เผย 'อนุทิน' ต่อสายตรงลั่น 71 เสียงพร้อมหนุนนั่งนายกฯ เชื่อถึงเวลาที่ต้องมีรัฐบาลแก้วิกฤต

วันที่ 18 ส.ค. นายเศรษฐา ทวีสิน  แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเผยแพร่คลิปชี้แจงการบริหารงานบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) รวมถึงยังได้แฉกลับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ด้วย โดยนายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนายชูวิทย์นี้ตนอยากจะกล่าวเป็นครั้งสุดท้าย ตนยืนยันว่าตลอดระยะเวลาที่ทำงาน ที่บริษัทแสนสิริ กว่า 30 ปีนั้น เรื่องความโปร่งใส ความมุ่งมั่น ในการนำพาบริษัทไปสู่ความเจริญ ยึดมั่นตามหลักธรรมาภิบาล ให้ถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง ทำให้แสนสิริฝ่าวิกฤต มาหลายครั้ง จนเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย เป็นที่ยอมรับของคนในหมู่มาก มีบริษัทตรวจสอบบัญชีระดับโลก ที่ปรึกษากฎหมายที่ดี มีคณะกรรมการการตรวจสอบที่มั่นคง ตอนยืนยันมาตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ได้ยึดมั่นทำตามกฎหมายทุกประการ 

 

จนกระทั่งเรื่องที่ถูกกล่าวหาจากนายชูวิทย์ ไม่ว่าจะเป็นที่ดินที่สารสิน และโครงการคุณบายยู หรือที่ซอยทองหล่อ ยืนยันว่าแสนสิริเป็นผู้ซื้อ ทั้งหมดนี้เราทำงานอย่างถูกต้อง ไม่มีเงินทอนให้กับใครทั้งสิ้น ไม่มีการให้กู้ยืม และไม่มีนอมินี เสียภาษีถูกต้องตามกฎหมาย ไม่มีส่วนร่วมกับผู้ขายในการบริหารจัดการภาษี เรื่องภาษีเป็นหน้าที่ของผู้ขายทั้งหมด ซึ่งตนก็ได้ยืนยันหลายครั้งแล้ว และตนก็ไม่ใช่นักการตลาดไม่ใช่นักแฉ ทำงานมาตลอดด้วยความซื่อสัตย์ บริสุทธิ์ใจ

ส่วนเรื่องของนายชูวิทย์ ไม่อยากพูดแต่ก็ต้องพูดว่าทั้งหมดเกิดขึ้นภายหลังจากที่ตนได้ถูกเสนอชื่อเป็น แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ประมาณเดือนกรกฎาคม 2565 ก็มีคนได้ติดต่อเข้ามา ผ่านนายชูวิทย์ ว่าอยากให้ซื้อที่ เคยคุยกันไว้คือที่ซอยสุขุมวิท 24 และเมื่อกันยายนปีที่แล้ว ได้มีการคุยกันเรื่องซื้อสาย ต่อรองราคากัน 2,000 ล้านบาท เหลือ 1,800 ล้านบาท มีข้อตกลงอย่างชัดเจน และนายชูวิทย์ได้พาลูกมาด้วยเป็นสักขีพยาน แต่ไปพบว่ามีการวางมัดจำไว้แล้ว โดยบริษัทอื่น บริษัทแสนสิริจึงไม่สามารถทำนิติกรรมซ้อนได้กระทั่งเดือนกรกฎาคมที่มีชื่อตนเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นายชูวิทย์ได้ติดต่อผ่านผู้ใหญ่มาหลายคนว่า ให้ตนกลับไปซื้อที่ดินแปลงนี้ราคา 2,000 ล้านบาท และข้อเท็จจริงคือตนได้ออกมาจากบริษัทแสนสิริตั้งแต่เดือนมีนาคมแล้ว ตนไม่มีอำนาจในการบริหารบริษัทแสนสิริ และไม่มีอำนาจสั่งการให้ใครไปซื้อที่ในนามบริษัทแสนสิริ และบอกว่าถ้าไปซื้อมาจะไม่มีการแฉ มองว่าเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรมบิดเบือนความจริง ตนได้รับความเสียหาย ซึ่งหากหลังจากนี้นายชูวิทย์มีการฟ้องร้องตนก็พร้อมต่อสู้ ดำเนินการต่อไป 

นายเศรษฐา กล่าวต่อด้วยอารมณ์ขึงขัง ว่าเรื่องเงินดิจิตอลวอลเล็ต ที่นายชูวิทย์ได้พูดถึง ที่กล่าวหาว่ามีการรับเงินทอน 5% ตนมองว่าเลอะเทอะ นี่คือโครงการที่ดี ไปถึงที่จ่ายเงินตรงจากรัฐบาลไปถึงพี่น้องประชาชน เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่จะกอบกู้เศรษฐกิจขึ้นมา ทำให้เกิดการจ้างงานการผลิต ประชาชนมีเงินเยอะขึ้นการที่นายชูวิทย์ เอามาพูดอย่างไม่มีหลักการ และที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทย ก็ได้แถลงข่าวอย่างชัดเจนมาโดยตลอด ว่าที่มาที่ไปของเงินนี้เป็นอย่างไร 

 

“ตอนที่ตนได้เดินเข้ามาในเวทีการเมือง เมื่อตอนต้นเดือนมีนาคมก็มีผู้ใหญ่หลายท่านเตือน ได้ข่าวหวังดีว่า ว่าจะเจอเรื่องอะไรเยอะๆ แต่ไม่มีความคาดคิดเลยว่าจะเจอเรื่องเลอะเทอะและบิดเบือนเกิดความจริงมากมายขนาดนี้ แต่ในเมื่ออาสาเข้ามาแล้วก็ต้องทำให้ได้ มุ่งมั่นเดินหน้าเป็นคดีเด็ดของพรรคเพื่อไทยต่อไป” นายเศรษฐา กล่าว 

 

นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ว่า คณะเจรจาได้คุยกับพรรคร่วมหลายพรรค และมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดี ซึ่งวันนี้หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล ก็โทรมาหาตนเองยืนยันทั้ง 71 เสียงพร้อมที่จะโหวตให้ ก็ต้องขอขอบคุณ และยังมีอีกหลายพรรคที่แสดงเจตจำนงมาแล้วหากพรรคเพื่อไทยเสนอชื่อตนในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ตนก็มีความพร้อม และขอวิงวอนว่า เราก็ต้องเสียงจากสว. ด้วย ซึ่งการกระทำของตนเองเป็นที่ประจักษ์ ว่าตนมีความตั้งใจจริง มีความปรารถนาดีกับประเทศชาติ หวังว่าจะได้รับการสนับสนุน สว.

 

เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย นายเศรษฐา กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเรามีความพร้อม และมั่นใจในคณะเจรจา ว่าจะตกลงได้กับพรรคร่วมมาเป็นรัฐบาล ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย เพื่อนำประเทศผ่านพ้นวิกฤต ที่เราเผชิญอยู่ในปัจจุบัน กว่า 3 เดือนแล้ว ตนคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องมีนายกรัฐมนตรี ที่มาช่วยเหลือต้องมีรัฐบาลที่มาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนและยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน  

 

จากนั้นนายเศรษฐา ได้ตัดบทขอบคุณสื่อมวลชนและเดินออกจากวงสัมภาษณ์ไปขึ้นลิฟต์ทันที

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ