ข่าว

ส่อง ความรวย 'ทักษิณ' กว่า 10 ปี ลี้ภัย ทรัพย์สิน เพิ่มพูน ระดับ มหาเศรษฐีโลก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ส่อง ความร่ำรวย 'ทักษิณ ชินวัตร' กว่า 10 ปี ลี้ภัย ในต่างแดน 'ทรัพย์สิน' เพิ่มพูนมหาศาล ระดับ 'มหาเศรษฐีโลก' อยู่อย่างสบาย

การเลื่อนเดินทางกลับประเทศไทยอีกครั้ง ของ “ทักษิณ ชินวัตร” ภายใต้เงื่อนไขการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ แล้วเสร็จ เรียกได้ว่า ต้นทุนชีวิตของ “ทักษิณ” กว่าจะได้กลับแผ่นดินเกิด ดูไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การใช้ชีวิตอยู่ในต่างแดน ของ ทักษิณ หรือ “โทนี่ วู้ดซัม” ก็ไม่ได้ตกระกำลำบาก

 

 

 

 

 

ด้วยเพราะต้นทุนในเรื่องของ ทรัพย์สิน เงินทอง ไม่ได้หดหายไป ถึงแม้ในวันที่เขาต้องลี้ภัยไปต่างแดน และทางการไทย ประกาศยึดทรัพย์ ผ่านกระบวนการของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ความรวย ของเขาก็ยังคงอยู่ และเป็นถึงระดับ มหาเศรษฐีโลก

 

ทักษิณ ชินวัตร

ถูกยึดทรัพย์ ทรัพย์ไม่หาย

 

 

 

หลังจาก “ทักษิณ ชินวัตร” ถูกยึดทรัพย์ ทำรัฐประหาร ในปี 2549 จากนั้นในปี 2550 หลังพ้นจากตำแหน่ง 1 ปี เขาแจ้งบัญชีทรัพย์สิน ระบุว่า มีทรัพย์สินและงินฝาก ที่ดิน บ้าน หุ้น ฯลฯ รวมกันทั้งสิ้น 614 ล้านบาท ส่วนของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร (นามสกุลในขณะนั้น) คู่สมรส มีทรัพย์สินรวมกัน 8,484 ล้านบาท

 

 

 

 

สำหรับรายการทรัพย์สิน ที่ตกเป็นของแผ่นดิน ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 24 มี.ค. 2553 ส่วนใหญ่เป็นบัญชีเงินฝาก และหน่วยลงทุนในธนาคารพาณิชย์ 6 แห่ง เป็นชื่อของคุณหญิงพจมาน, นายพานทองแท้ ชินวัตร, น.ส.พินทองทา ชินวัตร, น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ รวม 36 บัญชี รวมเงินทั้งสิ้น 46,373 ล้าน

 

ทักษิณ ชินวัตร

คำพิพากษายึดทรัพย์

 

 

 

  1. ใช้อำนาจเอื้อประโยชน์ให้บริษัท เอไอเอส หลังแปลงสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต ทำให้รัฐเสียหายกว่า 60,000 ล้านบาท
  2. ใช้อำนาจเอื้อประโยชน์ให้บริษัท เอไอเอส หลังปรับลดส่วนแบ่งค่าสัมปทานโทรศัพท์ระบบเติมเงิน
  3. ได้รับประโยชน์จากการแก้สัญญาให้รัฐร่วมรับผิดชอบค่าใช้เครือข่ายร่วมกับเอไอเอส ทำให้องค์การโทรศัพท์ฯ (ทศท.) และการสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) ได้รับความเสียหาย
  4. การสนับสนุนธุรกิจดาวเทียมไอพีสตาร์ เอื้อประโยชน์บริษัท ชินคอร์ปฯ และไทยคม
  5. สั่งให้เอ็กซิมแบงก์อนุมัติเงินกู้ให้พม่า 4,000 ล้านบาท เอื้อประโยชน์บริษัทไทยคม และชินคอร์ปฯ

 

 

 

หลังจากนั้น ในปี 2552 เขาบอกกับสื่อในอังกฤษว่า เขามีทรัพย์สินอยู่นอกประเทศไทยราว 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ไม่รวมถึงเงินที่นำไปลงทุนในเหมืองทอง เหมืองเพชร และการลงทุนอื่นๆ ในหลายประเทศ (ที่ปรากฎในสื่อ) ประกอบด้วย

 

 

 

  • บ้านในลอนดอน ประเทศอังกฤษ มูลค่า 264 ล้านบาท
  • วิลล่าหรู ย่านเอมิเรตส์ฮิลส์ของนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี)
  • เครื่องบินส่วนตัว Bombardier Global Express XRS มูลค่า 45.5 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • รถยนต์หรู 2 คัน ได้แก่ Lexus รุ่น LS 600h L และ Jaguar สีดำ
  • ลงทุนในบริษัท Startup ด้านเทคโนโลยีสุขภาพของประเทศอังกฤษ 2 แห่ง คือ DNANudge และ Owlstone Medical
  • ลงทุนในเหมืองทอง เหมืองเพชร และการลงทุนอื่นๆ ในแอฟริกาใต้

 

บ้านทักษิณในอังกฤษ

 

 

ตอกย้ำความร่ำรวย

 

 

 

กว่า 10 ปี ที่ “ทักษิณ” อยู่ต่างประเทศ เขาก็ยังคงเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐี ที่หลายคนจับตามอง จากการจัดอันดับมหาเศรษฐีทั่วโลกประจำปี 2023 ของนิตยสาร Forbes แถมในปีนี้ค่อนข้างเซอร์ไพรส์พอสมควร เนื่องจากเขามีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นจากปีก่อนมากถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

 

 

 

ข้อมูลจาก Forbes รายงานว่า “ทักษิณ ชินวัตร” มีทรัพย์สินรวมมูลค่า 2,100 ล้านดอลลาร์ (คิดเป็นเงินไทย 71,348,550,000.00 บาท) และถูกให้เป็นมหาเศรษฐีในอันดับที่ 1,434 ของโลก จากจำนวนมหาเศรษฐีทั้งหมดทั่วโลก 2,540 คน

 

 

 

 

ทั้งนี้ Forbes ยังได้เปิดเผยข้อมูลทรัพย์สินของ ทักษิณ ชินวัตร ย้อนหลังไปตั้งแต่ปี 2013 จนถึงปัจจุบัน พบว่าที่ผ่านมามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

 

 

 

  • 2556 มีทรัพย์สินมูลค่า 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • 2557 มีทรัพย์สินมูลค่า 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • 2558 มีทรัพย์สินมูลค่า 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • 2559 มีทรัพย์สินมูลค่า 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • 2560 มีทรัพย์สินมูลค่า 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • 2561 มีทรัพย์สินมูลค่า 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • 2562 มีทรัพย์สินมูลค่า 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • 2563 มีทรัพย์สินมูลค่า 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • 2564 มีทรัพย์สินมูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • 2565 มีทรัพย์สินมูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • 2566 มีทรัพย์สินมูลค่า 2,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

 

 

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ