ด่วน พท.-ภท. รวม 212 เสียง 'จัดตั้งรัฐบาล' เดินหน้าหาเสียง สส.-สว. เพิ่มเติม
‘เพื่อไทย-ภูมิใจไทย’ รวม 212 เสียง 'จัดตั้งรัฐบาล' เดินหน้าหาเสียง สส.-สว. เพิ่มเติม หลังพรรคเพื่อไทยตอบรับข้อเสนอ 3 ประการ ไม่มีแก้ม.112 -ไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล-ไม่เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย พร้อมเปิดแถลงการณ์ 5 ข้อ ชูธงแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายอนุทิน ชาญวีกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ร่วมกันแถลงข่าว "จัดตั้งรัฐบาล"
นายอนุทิน กล่าวว่า ตนขอขอบคุณผู้บริหารพรรคเพื่อไทยที่ได้ให้เกียรติและประสานงานให้มาพบ เพื่อมาหารือการ "จัดตั้งรัฐบาล" โดยพรรคภูมิใจไทยตอบรับคำเชิญของพรรคเพื่อไทย ในการจัดตั้งรัฐบาล โดยพรรคภูมิใจไทยเคยมาหารือและยืนยันว่าไม่ขัดข้องในการจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย โดยมีหลักการ 3 ประการ
1.ไม่แตะต้องม.112
2.ไม่จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย
3.หากไม่มีพรรคก้าวไกลเป็นพรรคร่วมรัฐบาล
“วันนี้ได้รับทราบจากพรรคเพื่อไทยว่าแนวทางทั้ง 3 พรรคเพื่อไทยเห็นพ้องในทิศทางเดียวกัน ดังนั้นนับจากวันนี้เพื่อให้การขับเคลื่อนประเทศให้เดินหน้า พรรคภูมิใจไทยได้ให้คำยืนยันกับพรรคเพื่อไทยว่า หากยังไม่เชิญพรรคอื่นมาหารือ ก็ให้ถือว่ามี 212 เสียง มาจากพรรคเพื่อไทย 141 เสียง และพรรคภูมิใจไทย 71 เสียง เมื่อมีการเชิญพรรคอื่นตามดุลยพินิจของพรรคเพื่อไทย การพูดคุยหารือจะได้มีความมั่นใจว่าในขั้วนี้เราจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยพรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ พรรคร่วมรัฐบาลมี สส. เกินกึ่งหนึ่งแล้วอย่างแน่นอน”
นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว เราจะร่วมกันหาเสียงสนุบสนุนจาก สส. แล สว. เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการตามรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง เรื่องการเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคภูมิใจไทยจะปฏิบัติตามข้อเสนอของพรรคเพื่อไทย เพื่อให้ผ่านการคัดเลือกของสมาชิกรัฐสภา
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า วันนี้ต้องขอบคุณพรรคภูมิใจไทยที่รับคำเชิญของพรรคเพื่อไทย อาจจะผิดธรรมเนียมบ้าง เพราะปกติเราจะส่งเทียบเชิญไปที่พรรคภูมิใจไทย ซึ่งพรรคภูมิใจไทยก็ให้เกียรติเรา พรรคเพื่อไทยขอบคุณที่ตอบรับคำเชิญ เพื่อร่วมกันแก้ไขภาวะวิกฤตให้ประชาชน โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญที่เป็นเดดล็อก
“เงื่อนไขของพรรคภูมิใจไทย 3 ประการ เรารับได้ ซึ่งเป็นแนวทางที่เราเสนอไปก่อนแล้ว โดย 212 เสียง จะเป็นเสียงตั้งต้นในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งถือเป็นเสียงค่อนข้างมาก ไม่มีคำว่า 188 เสียง” นพ.ชลน่าน กล่าว
คำแถลง"จัดตั้งรัฐบาล"ของพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย
พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทยจะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยการสนับสนุนจากพรรคการเมืองต่างๆ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากหลายพรรคการเมือง ซึ่งขณะนี้มีเสียงเกินกึ่งหนึ่งแล้ว แต่เรายังคงต้องการเสียงสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาเพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ สามารถบริหารประเทศ และเร่งแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้โดยเร็วรัฐบาลที่จะจัดตั้งขึ้นในครั้งนี้ แม้จะมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งแล้ว แต่เรายังต้องการการสนับสนุนจากทุกฝ่าย เนื่องจากปัญหาของประเทศชาติ และพี่น้องประชาชนที่กำลังเผชิญอยู่นี้ มีความเดือดร้อนรุนแรง การประวิงเวลาออกไปยิ่งทำให้เกิดความเสียหายยิ่งขึ้น การจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วเท่าไรจะยิ่งแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วมากขึ้นเท่านั้นเรามีความประสงค์จะทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ โดยเฉพาะในสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความพิเศษ ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมือง ความขัดแย้งในสังคม และวิกฤตรัฐธรรมนูญก่อตัวเป็นปัญหาของประเทศ และประชาชนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง เราจึงต้องการเสียงสนับสนุนจากทุกพรรคการเมืองให้มาสนับสนุนนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย โดยยึดถือประโยชน์ของประเทศ และประชาชนเป็นหลัก อาทิ เมื่อฝ่ายค้านเสนอกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม รัฐบาลพร้อมจะให้การสนับสนุน นอกจากนี้จะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลได้อย่างเต็มที่
พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ร่วมกับพรรคภูมิใจไทย เห็นว่าทุกฝ่ายสามารถทำงานร่วมกันได้ จึงกำหนดแนวทางในการจัดตั้งรัฐบาล ดังนี้
1. ยึดวาระของประเทศ และประชาชนเป็นที่ตั้ง โดยเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ และประชาธิปไตย นำความปรองดอง สมานฉันท์กลับคืนสู่ประเทศ
2. จะเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยการประชุมคณะรัฐมนตรีในวาระแรก จะมีมติให้ทำประชามติขอจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยกระบวนการจัดตั้ง สสร.
3. ดำเนินงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาลสามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ สิ่งใดที่เป็นประโยชน์จะร่วมกันผลักดันให้สำเร็จ สิ่งใดที่เป็นปัญหาจะต้องถูกตรวจสอบและเร่งแก้ไขให้ถูกต้อง
4. จัดตั้งรัฐบาลที่มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้
5. การจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้เปิดกว้างให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภามีส่วนร่วมอย่างสำคัญในการเลือกนายกรัฐมนตรี เพื่อผ่าทางตันระบบการเมืองของประเทศ และฝ่าวิกฤตรัฐธรรมนูญที่สร้างปัญหาอยู่ในปัจจุบัน
หลังจากนี้ เราจะเดินหน้าทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วนในสังคม รวมทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา เพื่อแสวงหาความร่วมมือ และกำหนดเจตนารมณ์ในการบริหารประเทศ จึงร้องขอการสนับสนุนจากทุกพรรคการเมือง ทุกฝ่าย ทุกคน มาร่วมกันกอบกู้วิกฤตของประเทศในครั้งนี้
7 สิงหาคม 2566