ข่าว

'จตุพร' จี้ 'เพื่อไทย' อย่าเนียนเคยพูดแก้ ม.112 ชี้ผิดพลาดตีจาก 'ก้าวไกล'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'จตุพร' จี้ 'เพื่อไทย' ยอมรับเคยหาเสียงพูดแก้ ม.112 เตือน สว.-สส.ข้างน้อย โหวตนายกฯ ใช้มาตรฐานเดียวกับ 'พิธา' แฉดีลล่มแถลงพรรคร่วมรัฐบาลใหม่ ตกลงกับ พปชร. ไม่ได้

เมื่อ 4 ส.ค. 2566 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ไลฟ์ผ่านรายการประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "จบไม่สวย" โดยเชื่อว่า พรรคเพื่อไทยตัดขาด MOU กับพรรคก้าวไกล และแยกทางไปตั้งรัฐบาลข้ามขั้วเป็น "ความผิดพลาดครั้งใหญ่" ทำให้สูญสิ้นอำนาจต่อรอง แล้วยังไร้ความชอบธรรมจนสะท้อนถึงการจบไม่สวยทั้งพรรค แกนนำชี้นำ และแคนดิเดตนายกฯที่ชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน ด้วย

 

ส่วนการแก้ ม.112 นั้น นายจตุพร กล่าวว่า หากเพื่อไทยมองเป็นปัญหาและเขียนไว้ในคำแถลงแยกตัวจากพรรคก้าวไกล แต่ในเรื่องนี้เพื่อไทยเคยพูดในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง อีกทั้ง สว.กับพรรคฝ่าย 188 เสียงได้กำหนดไว้เป็นมาตรฐานไม่โหวตให้นายพิธา ดังนั้น แคนดิเดตนายกฯ ของเพื่อไทยต้องไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน เพราะมาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญจึงต้องเท่าเทียมกัน

 

ถ้าเพื่อไทยทั้งอุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร หมอมิ้ง-นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช และนายเศรษฐา แม้ไม่ตอบคำถามในการแก้ ม.112 แต่ช่วงจะเป็นรัฐบาลกลับละเลยลืมเรื่องที่ตัวเองเคยพูดเป็นสัญญาประชาคมเสียสิ้น ดังนั้นก่อนเพื่อไทยเป็นรัฐบาลและนายเศรษฐาจะเป็นนายกฯ ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วย ไม่ใช่เงียบเฉย

นายจตุพร กล่าวต่อว่า เพื่อไทยทำเนียนทำให้ดูเหมือนมีเพียงก้าวไกลพรรคเดียวพูดเรื่องนี้ ทั้งที่ความจริงเพื่อไทยก็พูดไม่แตกต่างกัน เหตุผลบอกเลิกกับก้าวไกลโดยไม่ได้พูดถึงการแก้ ม.112 เป็นปัญหาด้วยซ้ำไป เพราะกลัวจะถอยในเรื่องนี้ จึงต้องตัดบทอ้างถึงผู้มีอำนาจไม่เอาก้าวไกล แสดงถึงคนจะมาเป็นผู้นำประเทศไม่ได้ตรงไปตรงมาเลย มุ่งหาแต่ประโยชน์ส่วนตนเหมือนเดิม ถ้า สว. กับ พรรคฝ่าย 188 เสียงไม่ยอมรับ ไม่โหวตให้คุณพิธาในเรื่องนี้ ก็ต้องใช้กติกาเดียวกัน เพราะถ้าไม่เช่นนั้นเราก็ยอมรับว่า ไม่มีมาตรฐาน และกรณีนี้ของพรรคเพื่อไทยสะท้อนถึงการไร้มาตรฐานได้ชัดเจน

 

ขณะนี้สถานการณ์ของเพื่อไทยไม่เหมือนเดิม การแสดงอำนาจเหนือกว่าโดยเชิญพรรคฝ่าย 188 มาเพิ่มความกดดันและตั้งรัฐบาลมิ้นช็อคที่พรรคเพื่อไทย ซึ่งไม่มีใครทำกันเพราะยังมี MOU กับก้าวไกลอยู่ ดังนั้น เมื่อเพื่อไทยหย่ามใจมีความเชื่อมั่นในการตั้งรัฐบาลได้ จึงประกาศแยกทาง ตัดขาดพรรคก้าวไกลสำเร็จ ขณะที่อำนาจการต่อรองก็สูญสิ้นไปด้วย เพื่อไทยต้องไปพึ่งเขา ต้องเดินหาเขาอย่างเดียว  ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลใหม่นอกจากจะมีภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์แล้ว ยังต้องมีพรรคสองลุง คือ พลังประชารัฐ (พปชร.) กับรวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มาร่วมด้วย แต่สภาเลื่อนโหวตนายกฯ ออกไปก่อน

 

"แรงกดดันที่ พปชร.กระทำต่อเพื่อไทยจนต้องเลิกประกาศพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อ 3 ส.ค.ที่ผ่านนั้น เริ่มจากเพื่อไทยต้องการดึง สส. บางส่วนจากกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการ พปชร.มาร่วมด้วย แต่ด้วยความเขี้ยวของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต่อสายคุยกับคนสนิทต่างประเทศว่า ถ้าร่วมรัฐบาลต้องไปกันทั้งพรรค ไม่ใช่ไปกันเป็นกลุ่ม จึงสะท้อนถึงอำนาจต่อรองของเพื่อไทยสูญสิ้นไปแล้ว" นายจตุพรกล่าว 

นายจตุพร มั่นใจว่า ถ้าเพื่อไทยตั้งรัฐบาลไม่มีพรรคสองลุงแล้ว ย่อมทำให้ สว.ไม่โหวตให้นายเศรษฐาเป็นนายกฯ เช่นกัน ดังนั้นจึงหนีไม่พ้นพรรคสองลุงมาร่วม และนายเศรษฐาก็ต้องคิดมากเช่นกัน เพราะประกาศไม่จับมือกับ พปชร.กับ รทสช. ซึ่งเป็นคำประกาศที่ใหญ่กว่า “มีลุง ไม่มีเรา” ของก้าวไกล จึงทำให้ดิ้นหนีจากปัญหาตระบัตสัตย์ไม่ได้ง่ายๆ

 

เมื่ออำนาจต่อรองสูญสิ้นแล้ว ย่อมเป็นปัญหาให้เพื่อไทยตั้งรัฐบาลยาก ไม่มีพรรคใดจะร่วมหัวจมท้ายมาประกาศร่วมรัฐบาลได้ง่ายๆ ถ้าตั้งรัฐบาลไม่ได้ก็จะเสียหาย ดังนั้นเพื่อไทยจึงตกอยู่มุมอับ ทางตัน เพราะอ่านกระดานการเมืองผิดพลาดตั้งแต่ทอดทิ้งก้าวไกล เพราะไปคิดแต่สิ่งที่ดีของตัวเองและยังคิดแทนพรรคอื่นไปด้วย จนนำมาสู่สถานการณ์เพื่อไทยจบไม่สวย

 

นายจตุพร ขอให้ประชาชนอดทนรอได้ผู้นำประเทศและรัฐบาลที่ดี หลังการโหวตนายกฯต้องเลื่อนออกไป โดยอย่าเร่งรีบเหมือนนำมะม่วงบ่มแก๊สให้สุกเร็วแต่อมเปรียว ไม่หวาน ดังนั้น ตำแหน่งนายกฯ ก็เช่นกัน ถ้ารีบรวบรัดอาจไม่ได้คนดี มีความสุจริตมาทำหน้าที่ ปล่อยให้ทุกอย่างเดินไปตามธรรมชาติย่อมดีที่สุด ส่วนบุคคลจะมาเป็นนายกฯ ต้องมีความสุจริตทั้งด้านลับและเปิดอย่างแท้จริง เมื่อสังคมตรวจสอบนายพิธา อย่างไรในการเป็นนายกฯ กรณีของนายเศรษฐาและคนอื่นก็ต้องไม่ยกเว้น 

 

นอกจากนี้นายจุตพร ยังเสนอว่า นายเศรษฐากับนายชูวิทย์ควรมาเผชิญหน้ากัน ตอบโต้ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสื่อมวลชนพร้อมๆ กัน ให้กระจ่างแจ้ง ถ้าข้อมูลนายชูวิทย์เป็นจริง นายเศรษฐาต้องถอยจากตำแหน่งนายกฯ และถ้าไม่จริงย่อมเป็นโอกาสให้ตำแหน่งนายกฯ สง่างามขึ้นอีก

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ