ข่าว

‘ปชป.’ ยันข้อบังคับพรรคไม่ขัดกม.- 6 ส.ค. ลุยเลือก ‘หัวหน้า-กก.บห.’ ชุดใหม่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นายทะเบียนพรรคประชาธิปัตย์ ประสานเสียง โฆษกพรรค ยืนยัน ข้อบังคับปชป.ไม่ขัดหรือแย้งต่อกฏหมาย ยันทุกกระบวนการของพรรค ยึดกฎหมายเคร่งครัด เดินหน้าประชุมใหญ่ ลุยเลือก 'หัวหน้า-กก.บห.' ชุดใหม่ 6 ส.ค. ตามกำหนดเดิม

นายวิรัช ร่มเย็น รักษาการนายทะเบียนสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์และประธานคณะกรรมการกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำหนังสือเพื่อชี้แจงสมาชิกพรรคที่เป็นองค์ประชุมใหญ่วิสามัญ หลังจากที่มีข่าวว่า นายไชยวัฒน์ ไตรยสุนันท์ อดีต สส.ประชาธิปัตย์ นำรายชื่อสมาชิกพรรคกว่า 100 คน ยื่นเรื่องต่อ กกต. เพื่อให้เพิกถอนมติการประชุมใหญ่วิสามัญเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2566 และมติกรรมการบริหารพรรคที่เกี่ยวข้อง

โดยนายวิรัช ระบุว่า ข้อบังคับพรรคฉบับที่ใช้ในปัจจุบัน ได้ถูกปรับปรุงและแก้ไขโดยคณะกรรมการฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีนายไชยวัฒน์ ไตรยสุนันท์ เป็นกรรมการในคณะนี้ด้วย ต่อมาเมื่อคณะกรรมการฝ่ายกฎหมายฯ ได้แก้ไขและพิจารณาข้อบังคับพรรคแล้วเสร็จ ได้ส่งข้อบังคับพรรคให้กรรมการบริหารพรรคพิจารณา เพื่ออนุมัติผ่านที่ประชุมใหญ่ของพรรค และที่ประชุมใหญ่ได้ให้การรับรองข้อบังคับฉบับดังกล่าวแล้วในวันที่ 23 ก.พ. 2566 ในขณะนั้น นายไชยวัฒน์ ก็เป็นหนึ่งในองค์ประชุมเช่นกัน แต่ก็มิได้ขึ้นมาโต้แย้งข้อบังคับพรรคแต่อย่างใด

 

 

ต่อมาภายหลังพรรคประชาธิปัตย์ได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ตนพร้อมด้วยคณะกรรมการกฎหมายพรรคจึงได้ไปประชุมหารือเรื่องข้อบังคับพรรคกับ นายโชคดี ด้วงแป้น รองผู้อำนวยการสำนักกิจการพรรคการเมือง พร้อมเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง และมีผลสรุปจากการประชุมว่า ข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมายแต่อย่างใด ดังนั้นตนยืนยันว่าได้มีการตรวจสอบข้อบังคับพรรคฉบับปัจจุบันร่วมกันระหว่างพรรคประชาธิปัตย์และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งแล้ว

 

 

“ผมยืนยันว่าข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ฉบับปัจจุบัน ได้ผ่านการตรวจสอบจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหลายครั้ง ก่อนที่จะประกาศใช้เป็นข้อบังคับพรรคที่ได้ผ่านการตรวจสอบและรับรองความถูกต้องตามกระบวนการของพรรคและตามกฎหมายทุกประการ และไม่เป็นไปตามที่นายไชยวัฒน์ กล่าวอ้างแต่ประการใด” นายวิรัช กล่าว

 

นายวิรัช ร่มเย็น

 

 

พร้อมกับได้แจ้งให้สมาชิกพรรคที่จะเป็นองค์ประชุมใหญ่วิสามัญ ในวันอาทิตย์ที่ 6 สิงหาคม 2566 นี้ ได้โปรดกรุณาเข้าร่วมประชุมตามกำหนดการเดิมทุกประการ

 

ปชป.ลุยเลือก ‘หัวหน้า-กก.บห.’ ชุดใหม่ 6 ส.ค.

ขณะที่ นายราเมศ รัตนะเชวง รักษาการโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวในเรื่องเดียวกันนี้ว่า กรณีที่มีสมาชิกพรรค ปชป.ไปยื่นร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทางพรรคยังไม่เห็นตัวคำร้องฉบับเต็มที่ไปยื่นต่อ กกต. แต่ในหลักการยืนยันว่าทุกการดำเนินกิจกรรมในทางการเมืองของพรรคยึดรัฐธรรมนูญ กฎหมายที่เกี่ยวข้องและข้อบังคับพรรคอย่างเคร่งครัด ซึ่งการประชุมเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา องค์ประชุมไม่ครบ ก็เป็นไปตามข้อบังคับที่มีความจำเป็นต้องยุติการประชุมเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย ถ้าประชุมต่อไปทั้งๆ ที่องค์ประชุมไม่ครบ 250 คนก็จะผิดกฎหมาย เมื่อปิดการประชุมเพื่อให้มีการประชุมใหม่ก็ถือว่าประธานในที่ประชุมได้ทำถูกต้องแล้วเป็นไปตามกฎหมายทุกประการ

 

 

ส่วนกรณีมติของคณะกรรมการบริหารพรรคที่ให้งดเว้นข้อบังคับในส่วนการหยั่งเสียงเบื้องต้นนั้น สามารถทำได้ ไม่มีประเด็นไหนที่ผิดกฎหมาย หลักการในเรื่องนี้คือในสมัยที่มีการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายวรงค์ เดชกิจวิกรม นายอลงกรณ์ พลบุตร ร่วมลงสมัครแข่งขันกัน ได้มีการดำเนินการให้สมาชิกลงคะแนนเสียงเบื้องต้น เมื่อได้ผลอย่างไรแล้วให้มีการเลือกกันอีกรอบในที่ประชุมใหญ่ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ สมัยที่มีการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคที่มี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ นายกรณ์ จาติกวณิช นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เนื่องจากมีเวลาที่จำกัดและต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมากในการจัดการหยั่งเสียงเบื้องต้น คณะกรรมการบริหารพรรคขณะนั้นได้ให้มีการงดเว้นไม่ให้มีการหยั่งเสียงเบื้องต้นจากสมาชิก ในครั้งนี้ก็เช่นกันที่ได้มีการงดเว้น

 

 

“การเลือกตั้งหัวหน้าพรรคยังอยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญ กฎหมายและข้อบังคับ แม้รัฐธรรมนูญและกฎหมายไม่ได้บังคับ ให้ต้องทำ แต่พรรคได้รับฟังเสียงสมาชิกพรรคให้เข้ามามีส่วนร่วมโดยผ่านกระบวนการของตัวแทนพรรคและสาขา ทุกอย่างดำเนินการอย่างเคร่งครัดไม่ได้ลิดรอนสิทธิสมาชิกพรรคแต่อย่างใด” นายราเมศ ระบุ

 

 

นายราเมศ ยังอธิบายว่า การใช้สัดส่วนการคำนวณคะแนนเสียงในการเลือกกรรมการบริหารพรรค ในสัดส่วนร้อยละ 70 ต่อ 30 ซึ่งการลงคะแนนของ สส. อยู่ในสัดส่วนร้อยละ 70 และในส่วนขององค์ประชุมอื่นๆ อยู่ในสัดส่วนร้อยละ 30 ก็เป็นการดำเนินการที่เป็นไปตามข้อบังคับพรรคเป็นการดำเนินการกิจการทางการเมืองภายในของพรรค มีกรณีที่ไม่เห็นด้วยก็มีสมาชิกที่เป็นองค์ประชุมเสนอเป็นญัตติเพื่อทำการงดเว้นและแก้ไขแต่ญัตติดังกล่าว ซึ่งได้มีมติทั้งสองจากที่ประชุมคือที่ประชุมใหญ่ไม่อนุญาตให้มีการงดเว้น และที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคยังไม่รับญัตติการขอแก้ข้อบังคับพรรคดังกล่าว จึงขอย้ำว่าเป็นการดำเนินการตามขั้นตอน ไม่มีกรณีใดที่กระทำขัดต่อกฎหมาย

 

 

รักษาการโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เมื่อกระบวนการถูกต้อง วันที่ 6 สิงหาคมที่จะถึงนี้ ก็ยังคงมีการประชุมใหญ่ไม่มีการเลื่อนแต่อย่างใด ทุกคนมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบเพื่อให้พรรคดำเนินการประชุมต่อไปได้ การเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นเรื่องที่สำคัญ การต่อสู้แข่งขันกันเป็นเรื่องปกติเพราะพรรคเป็นสถาบันทางการเมืองที่มีความเป็นประชาธิปไตย ไม่มีใครเป็นเจ้าของพรรคที่จะมาสั่งการได้ แต่ในการแข่งขันนั้นก็เชื่อว่าทุกฝ่ายต้องตระหนักว่า ความเป็นประชาธิปัตย์ มีความสำคัญกว่าการแข่งขันเพียงเพื่อให้ได้รับชัยชนะ สมาชิกพรรคที่เป็นองค์ประชุมมีหลักคิดในการเลือกผู้นำอย่างแน่นอน

 

นายราเมศ รัตนะเชวง

 

ส่วนที่พรรคถูกสมาชิกพรรคร้องต่อ กกต. นั้น ก็ว่ากันตามกระบวนการ และพรรคพร้อมที่จะชี้แจง เพราะไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ทุกคนก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน หากเกิดอะไรขึ้นกับพรรค เชื่อว่าจะไม่มีใครชนะแม้แต่คนเดียว

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ