ชูวิทย์ ไม่แผ่ว ขยี้ต่อ ทักษิณ ล้มแผนกลับไทย - เมิน'แพทองธาร'แซะ เพ้อเจ้อ
"ชูวิทย์" ออกตัวมองขาด แผนเดินทางกลับไทยของ "ทักษิณ" ที่ประกาศหมุดหมายเอาไว้ วันพฤหัสที่ 10 ส.ค. ถึงนาทีนี้มีอันล้มโต๊ะไม่เป็นท่า โดยตัวแปรสำคัญอยู่ที่การโหวตนายกรัฐมนตรี และจัดตั้งรัฐบาลยังไม่สะเด็ดน้ำ การันตีการข่าวของตัวเองแม่น ระบุชัดกำลังมีวงเจรจารอบใหม่
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ซึ่งเคลื่อนไหวอย่าต่อเนื่อง ในการแสดงทัศนะทางการเมือง นับจากการจัดตั้งรัฐบาล โดย ประเมินว่าที่สุดแล้วพรรคก้าวไกล จะถูกลอยแพจากการรวจจัดตั้งรัฐบาล ตามข้อตกลงของ 8 พรรคร่วมจัดตังรัฐบาล รวมถึงการออกมาเปิดเผยข้อมูล ในการเจรจาที่ฮ่องกง ระหว่าง นายทักษิณ ชินวัตร กับผู้เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับแผนเดินทางกลับมาประเทศไทย โดยคาดว่าจะเกิดขึ้นหลังการจัดตั้งรัฐบาล ที่มีพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำลุล่วง ล่าสุด แม้ว่าจะมีการกำหนดช่วงเวลาที่ชัดเจนในการกลับมาไทยคือ วันพฤหัสที 10 ส.ค.
อย่างไรก็ตามล่าสุด นายชูวิทย์ ได้แสดงทัศนะ ผ่านพื้นที่สื่อสังคมออนไลน์ โดยเชื่อว่าที่สุดแล้ว แผนการเดินทางมาไทย ของนายทักษิณ ยกเลิก หรือเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยการแสดงความเห็นของนายชูวิทย์ ที่ทำให้นายทักษิณ ระงับการเดินทางกลับประเทศไทย เนื่องจากการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลที่ไม่ลงตัว และระบุว่า การแสดงความเห็นดังกล่าว อาจจะไม่เป็นที่พอใจของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวนายทักษิณ ซึ่งเข้าใจในเหตุผลของความรักจากลูกที่มีต่อบิดา
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ให้สัมภาษณ์ว่า มีข้อมูลว่าวันที่ 10 ส.ค.นี้ นายทักษิณ จะยังไม่กลับมาประเทศไทย เพราะเกมการเมืองยังคงพลิกไปมาตลอด นายทักษิณ จะไม่กลับมา จนกกว่า การจัดตั้งรัฐบาลจะแล้วเสร็จ ส่วนตัวเชื่อว่า วันศุกร์ที่ 4 ส.ค.ในการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งที่สอง ก็จะยังไม่ได้นายกรัฐมนตรีดังนั้นการเดินทางกลับไทยของนายทักษิณ จะถูกเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด จนกว่าจะได้รับสัญญาณไฟเขียว ที่มีเจรจากันอยู่ในกรุงเทพฯ โดยไม่ขอบอกว่าเป็นอำนาจแบบไหน
มั่นใจ ณ นาทีนี้ แผนกลับไทยวืด
นายชูวิทย์ กล่าวว่า จากการแถลงข่าวที่ผ่านมา ระบุเพียงว่า นายทักษิณ มีโอกาสกลับประเทศ 60 - 70% ไม่เคยยืนยันกว่ากลับ 100% เพราะเกมการเมืองเปลี่ยนไปตลอดเวลา ยืนยันว่าการแถลงข่าวทุกครั้งไม่ใช่ข่าวลวง แต่พูดตามข้อเท็จจริง ตามเวลานั้น ๆ และมีการตรวจสอบ เแหล่งข่าวตลอด ย้ำว่าถ้าจากการประเมินวันนี้ นายทักษิณจะยังไม่กลับประเทศไทยแน่ แต่ถ้าหลังจากนี้มีการดีล หรือได้ไฟเขียว ก็ต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
"การกลับเข้าประเทศของนายทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรี จะต้องเป็นช่องทางพิเศษ ไม่ใช่กรมราชทัณฑ์นำหมายศาลไปรับตัวถึงสนามบิน และพาเข้าคุก รอขอยื่นอภัยโทษส่วนบุคคล อีกทั้งจากประสบการณ์ การขอยื่นอภัยโทษส่วนบุคคล จะต้องเป็นนักโทษเด็ดขาด คดีเป็นที่สิ้นสุด และมีการรับสารภาพแล้ว และคดี ลัก จี้ ชิง ปล้น ทุจริต ไม่เคยมีให้อภัยโทษลักษณะนี้มาก่อน"
เขา กล่าวว่า การที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ "อุ๊งอิ๊งค์" แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ตัวเขา "เพ้อเจอ" ไม่ได้โกรธ เพราะเข้าใจในบทบาทของลูกสาว อีกทั้งนายทักษิณก็ต้องการกลับประเทศแล้ว ติดปัญหาซึ่ง น.ส.แพทองธาร อาจจะไม่รู้เงื่อนไขทั้งหมด ตนพูดในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ที่อ่านเกมการเมืองออก และอยากให้รอดูว่า หลังจากนี้ใครกันแน่ที่เพ้อเจ้อ
ส่วนกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อเรื่องการเปลี่ยนแปลงการกลับประเทศของนายทักษิณ นายจตุพรก็รู้เรื่องมาจากแหล่งข่าวสายเดียวกับตน
ส่วนภาพนายธนาธรไปหานายทักษิณ ตัวเองรู้มาว่า นายธนาธรเสนอจะเป็นฝ่ายค้าน โหวตสนับสนุนพรรคเพื่อไทย แลกกลับการที่ต้องไม่มีพรรคของสองลุง ซึ่งเชื่อว่านาย ทักษิณไม่เอาด้วย เพราะเสี่ยงจะไม่ได้กลับบ้าน
.
ผิดแผน! ทักษิณยกเลิกกลับไทย
.
หากใครคิดว่าทักษิณจะกลับมาไทย วันที่ 10 ส.ค. แล้วมี ตำรวจ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไปรับตัว และนำหมายศาลพาตัวเข้าเรือนจำเพื่อรับโทษ 3 คดี รวม 10 ปี ตามปกติ
.
ต้องถือว่าคิดผิด ไม่รู้ใจทักษิณ หากจะทำแบบนั้นจริงคงคิดได้ไปนานแล้ว ไม่ต้องรอถึง 15 - 16 ปี
.
ทักษิณออกจากไทยในสมัยอดีตนายกฯ สมัคร สุนทรเวช เมื่อปี พ.ศ. 2551 แล้วไม่กลับมาอีกเลย
.
ยิ่งจะมากลับเอาช่วงเดือนสิงหาคม 2566 ที่กำลังร้อนแรงเรื่องการโหวตหานายกฯ และจัดตั้งศูนย์อำนาจใหม่บริหารประเทศ
.
กำหนดการวัน 10 สิงหาคม จึงต้องมี “วาระพิเศษ” แน่นอน
.
ปกติในวันแรกเมื่อก้าวเท้าเข้าคุกทำประวัติ สามารถยื่นขอ “พระราชทานอภัยโทษส่วนบุคคล” ได้เลย ถือเป็นสิทธิของนักโทษทุกคน
.
แต่นี่เป็นเรื่องของ “คนธรรมดาที่กระทำผิดกฎหมาย”
.
ส่วนคนระดับ “นายกรัฐมนตรี” ที่กระทำผิดกฎหมาย หากใครคิดว่าจะเหมือนกันก็บ้าเต็มที
.
เอาเป็นว่าแม้แต่คนใหญ่คนโตไปทำผิดกฎหมายแล้วสู้ผิด กรมคุกยังต้องดูแลกันเป็นพิเศษ
.
อันเนื่องมาจากความปลอดภัยในคุก จะให้ไปปะปนกับนักโทษคนอื่นๆ ไม่ได้
.
เกิดมีนักโทษอยากดัง หรือพวกหมั่นไส้อยากทำร้าย กรมคุกก็ต้องรับผิดชอบ เพราะอยู่ในความควบคุมของตนเอง
.
แต่ “การขอพระราชทานอภัยโทษส่วนบุคคล” เป็นพระราชอำนาจของในหลวง
.
แม้นักโทษเด็ดขาดชายในคุกมีสิทธิ์ยื่นขอ แต่ไม่มีใครได้ ยกเว้นโทษที่เป็นความผิดต่อตัวพระองค์ท่าน คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หรือ ม.112 นั่นเอง
.
เมื่อมีการพระราชทานอภัยโทษส่วนบุคคลให้ มีธงนำเปิดทางไปที่คุก ได้รับอิสรภาพ
.
ถือเป็นพระกรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่ในหลวงมีให้ต่อผู้ที่กระทำผิดต่อพระองค์ท่านเท่านั้น
.
คนทำผิดคดีทุจริต ปล้น ฉ้อโกง ทุกคดี แม้ยื่นขอได้ แต่ไม่เคยได้รับพระราชทานอภัยโทษส่วนบุคคล
.
หากมีใครไปบอกทักษิณว่าทำได้ ก็ต้องเป็นแผนหลอกให้ทักษิณเคลิ้ม
.
ในช่วงนี้พรรคเพื่อไทยเป็น “ตัวแปร”
.
หากเทไปข้างไหน ขั้วเก่า ขั้วใหม่ ก็ย่อมได้อำนาจ
.
คนระดับอดีตนายกฯ จากบ้านไป 16 ปี ย่อมต้องการกลับมาบ้านเกิดเป็นเรื่องปกติ แต่ครั้นจะกลับมาโดยไม่มีอำนาจคงกลับมานานแล้ว ไม่ต้องมากลับเอาช่วงนี้
.
เกมแห่งอำนาจ แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ หากไม่มั่นใจทักษิณไม่กลับแน่นอน
.
จึงบอกได้ว่า 4 สิงหาคมนี้ ต้อง “ยื้อ” ดึงเช็งสุดฤทธิ์
.
ตอนนี้ขอถอยไปตั้งหลักก่อน ยกเลิกแผนกลับไทยไม่มีกำหนด จนกว่าจะตั้งรัฐบาลลงตัว
.
ส่วนใครว่าผม “เพ้อเจ้อ” ผมไม่โกรธหรอกครับ เข้าใจดีว่าคุณอุ๊งอิ๊งอยากให้คุณพ่อกลับบ้าน เป็นเรื่องของความกตัญญู
.
ส่วนผมพูดในฐานะคนไทยคนหนึ่งเท่านั้น
.