ข่าว

3 สูตรจัดตั้งรัฐบาล 'เพื่อไทย' จาก "เลือกทุกพรรครักทุกคน" สู่ 'นายกฯ คนนอก'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิด 3 สูตรตั้งรัฐบาล 'เพื่อไทย' ผสานขั้วรวมพลังจาก "สูตรเลือกทุกพรรครักทุกคน" ไปสู่แผนสุดท้าย 'นายกฯ คนนอก'

แม้ว่าวันนี้ MOU 8 พรรคร่วม 312 เสียง ที่เคยทำกันมาจะยังอยู่ในฐานะที่ 'พรรคเพื่อไทย' รับไม้ต่อเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่กระแสข่าวลือเรื่องการฉีก MOU ดังกล่าวก็หนาหูมากขึ้นเรื่อยๆ

 

กระทั่งล่าสุดพรรคเพื่อไทยได้แจ้งกับสื่อมวลชนว่า การนัดหมายประชุม 8 พรรคร่วม ต้องเป็นเหตุยกเลิกไปก่อนนั่นถือว่าเป็นสัญญาณรอยร้าวบางอย่างที่คาดว่าการเจรจากันอาจจะไม่ลงตัว

 

รวมไปถึงช่วงที่ผ่านมา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ก็ออกมาแอคทีฟเรื่องการฉีกMOU 8 พรรคร่วมและกดดันให้ 'พรรคก้าวไกล' ถอยไปเป็นฝ่ายค้านเป็นพิเศษ เพื่อให้ไม่เป็นอุปสรรคให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ และ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านเจ้าตัวก็พูดผ่านรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอว่า หากมีการตั้งรัฐบาลข้ามขั้วและก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้านก็ต้องโหวตสนับสนุนนายกฯ เพื่อไทยด้วย!!

อย่างไรก็ตาม 'ทีมข่าวคมชัดลึก' อยากจะวิเคราะห์ถึง 3 สูตร ที่คาดว่าเป็นไปได้ในการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อไทยในครั้งนี้

 

สูตร 1 เลือกทุกพรรครักทุกคน มีกระแสข่าวออกมาเหมือนกันว่าสูตรนี้ คือทางออกที่ทำให้เพื่อไทย-ก้าวไกลอยู่่ด้วยกันได้ คือ 8 พรรครวมเสียงกันเหมือนเดิม 312 เสียง แต่มีการยื่นข้อเสนอให้พรรคอื่นว่าใครที่นำกลุ่ม สส.ในพรรคอื่นมาโหวตให้นายกฯ เพื่อไทยได้จะมีการยกเก้าอี้รัฐมนตรีให้ไปเลย 1 เก้าอี้

 

สูตร 2 ฉีก MOU เพื่อข้ามขั้ว สมการนี้มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง เพราะเมื่อจับท่าทีของ 'ชลน่าน' เมื่อวานนี้ที่ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ว่า พรรคก้าวไกลไม่ใช่พรรคอันดับ 1 แต่พรรคขั้วรัฐบาลเดิมที่รวมเสียงกันได้ 188 เสียงต่างหากคืออันดับ 1 รวมไปถึงการสงวนท่าทีในการตอบคำถามสื่อเรื่องการข้ามขั้วก็ไม่เสียงแข็งหนักแน่นเหมือนตอนก่อนเลือกตั้ง อาจจะชี้ได้มีเปอร์เซ็นสูงที่จะรวมเสียงกับขั้วอำนาจเดิมแล้วตั้งรัฐบาลเพราะได้เสียงสนับสนุนจาก สว.แน่นอน บวกกับท่าทีของ 'ลุงป้อม พล.อ.ประวิตร' ที่ยืนยันเมื่อช่วงเช้าว่ายังไม่วางมือทางการเมืองแน่นอน และเมื่อสื่อถามไปต่อว่าจะจัดตั้งรัฐบาลกับเพื่อไทยไหมพล.อ.ประวิตร ก็ตอบทิ้งท้ายไว้ว่า "ขอให้รอดู" แต่แน่นอนสูตรนี้มีราคาที่ต้องจ่ายค่อนข้างสูงทั้งแรงเสียดทานจากมวลชนด้อมส้มและกลุ่มสนับสนุน รวมไปถึงการหาเหตุผลมาชี้แจงในการข้ามขั้วให้ได้ และหาก 'เพื่อไทย' เลือกที่ข้ามขั้วตามสูตร 2 จริงๆ ก็ถือว่าเป็นเปลี่ยนที่ 'เพื่อไทย' กำลังเปลี่ยนผ่านเป็น 'พรรคขวากลาง' หรือประชาธิปไตยแบบพอดี เป็นอนุรักษ์นิยมและเสรีนิยมแบบพอดี อิงผู้มีอำนาจ และได้ใจคนรากหญ้าจากนโยบายโดยสมบูรณ์ 

ซึ่งแน่นอนในการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคฝ่ายขวาเดิมจะเสื่อมความนิยมลงและเสียงจะมาอยู่ที่ 'เพื่อไทย' และจะกลายเป็นคู่แข่งกับ 'ก้าวไกล' ที่ขับเคี่ยวแข่งขันกันอยู่ 2 พรรค

 

สูตร 3 'นายกฯ คนนอก' กลไกถูกกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ปี 2560 มาตรา 272 กำหนดว่า หากหลังการเลือกตั้งรัฐสภาไม่สามารถเลือกนายกฯ จากรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ที่พรรคการเมืองเสนอไว้ได้ ให้สมาชิกรัฐสภาไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 หรือ 500 คน (จากจำนวนเต็ม 750 คน) ลงมติเพื่อเปิดทางให้เสนอชื่อบุคคลอื่นที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อของแคนดิเดตนายกฯ มารับตำแหน่งนายกฯ ได้ ถือเป็นทางออกทางสุดท้ายของบ้านเมืองหากสุดท้ายสภาฯ หาโหวตเลือกนายกฯกันมาไม่ได้

 

ซึ่งจากแหล่งข่าวในแวดวงทหารก็มีการลือกันมาว่า มีการเตรียมบุคคลดังกล่าวไว้แล้ว ซึ่งบุคคลนี้จะเป็นบุคคลที่ทุกขั้วยอมรับได้ ยกเว้น 'ก้าวไกล' ที่ยอมรับในหลักการนี้ไม่ได้อยู่แล้ว และ แม้ว่าด้านวัยวุฒิ อาจจะมากกว่า'พิธา' แต่ดีกรี ความรู้ความสามารถไม่แพ้กันแน่นอน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ