ที่สุดของที่สุด ฟอร์มรัฐบาลรวบรวมเสียง "โหวตนายกรัฐมนตรี " ภายใต้การถือธงนำของ "เพื่อไทย" หมอชลน่าน นำทีม 8 พรรคร่วมรัฐบาล ประกาศความพร้อม วาง 3 สูตร แนวทางที่หนึ่งดึงเสียงจาก สว. เติมให้พรรคร่วม แนวทางที่สองดึงพรรคอื่นเข้าร่วม และทางเลือกสุดท้าย สลายขั้ว 8 พรรคเดิม
ที่พรรคเพื่อไทย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นำ 8 พรรคร่วมรัฐบาล
แถลงผลการหารือถึงทิศทางการจัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้หลังจากที่พรรคก้าวไกล ในฐานะแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ได้ส่งมอบภารกิจให้พรรคอันดับที่ 2 คือพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อให้ได้รัฐบาลของฝ่ายเสรีประชาธิปไตย ในที่ประชุมมีมติ ดังนี้ ในการประชุมรัฐสภา วันที่ 27 ก.ค. ประธานรัฐสภา ได้บรรจุระเบียบวาระในการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ที่ประชุมมีมติให้ เพื่อไทย ส่งผู้ซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อ
กระบวนการ พรรคก้าวไกลจะเป็นผู้เสนอชื่อให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐบาลที่มีความมุ่งมั่นร่วมกัน ให้เป็นไปตามความคาดหวังของประชาชน 27 ล้านเสียงที่เลือกมา ส่วนวิธีการที่จะได้มาซึ่งเสียงสนับสนุน ที่ประชุมได้เสนอแนวทาง ทั้งหมด 3 แนวทาง คือ 1 ) 8 พรรคร่วม ซึ่งประกอบด้วย 312 เสียง จะดำเนินการแสวงหาเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา ( สว. )ให้ได้ครบจำนวนที่ต้องเติมให้ถึง 375 เสียง หรือ อีก 63 เสียง โดยอาจจะมีเงื่อนไขที่ สว. ได้ตั้งไว้ ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเป็นสิ่งที่ เพื่อไทย จะต้องไปพูดคุย ในกรณีที่ สว. ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลดเงื่อนไขในมาตรา 112 ทางพรรคเพื่อไทยจะรับฟัง แล้วนำมาพูดคุยกับพรรคก้าวไกล และในที่ประชุมพรรคร่วมต่อไป
สิทธิขาดทุกอย่างอยู่ที่ "เพื่อไทย"
.
2.) กรณีที่ไม่สามารถหาเสียงสนับสนุนจากสว. ได้เพียงพอ จะให้สิทธิพรรคเพื่อไทย ดำเนินการพูดคุยกับพรรคการเมืองอื่น ตามที่พรรคเพื่อไทยเห็นควร เพื่อให้ได้มาซึ่งเสียงสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในฝ่ายของสภาผู้แทนราษฎร โดยพรรคการเมืองที่จะไปพูดคุยนั้น ที่ประชุมให้เป็นเสรีภาพของพรรคเพื่อไทยในการพิจารณาดำเนินการ 3) แนวทางอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ ที่ประชุมได้ให้สิทธิพรรคเพื่อไทย ในการพิจารณาดำเนินการ " ส่วนข้อเสนอให้พรรคก้าวไกลพิจารณาลดเพดาน มาตรา 112 ข้อเสนอของที่ประชุมร่วมให้แนวทางว่าพรรคก้าวไกลอยากทราบรายละเอียดถึงการลดเงื่อนไขว่าคืออะไร จึงได้มอบหมายพรรคเพื่อไทย ไปหารือกับสว.เพื่อให้พรรคก้าวไกลนำกลับไปพิจารณา"
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า แนวทางของเพื่อไทย ให้ความสำคัญหลักอยู่ที่เสียงขอ สว. มากกว่า สส. และยังดำเนินตามทางเลือกที่ 1 คือมีเพียง 8 พรรคร่วมรัฐบาล โดยไม่มีพรรคการเมืองอื่น ๆ มาเพิ่มเติม พร้อมหาคะแนนเสียงจาก สว.ควบคู่กันไป และหากมีพรรคการเมืองใด ให้ความเห็นชอบแคนดิเดตของ 8 พรรคร่วม โดยไม่ขอร่วมรัฐบาล จะถือเป็นมิติใหม่ของพรรคการเมือง ทั้งนี้ ยังอยู่ที่การพูดคุย " 26 ก.ค. จะทราบชื่อแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยที่จะเสนอเพียงชื่อเดียว แต่ต้องมีกระบวนการสร้างความมั่นใจก่อนการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ว่าแคนดิเดตคนดังกล่าว ต้องได้เสียงสนับสนุนเกิน 375 ขึ้นไป"
นายแพทย์ชลน่าน ยังกล่าวถึง ทางเลือกอื่นๆ ( แนวทางที่ 3 ) ซึ่งอาจไม่มีพรรคใดพรรคหนึ่งอยู่ในสมการนี้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้รับสิทธิ จากที่ประชุมร่วม ให้ไปดำเนินการและนำกลับมาปรึกษาหารือ และเมื่อถามว่าปัจจัยที่จะทำให้ไปสู่ทางเลือกที่ 3 คืออะไร นายแพทย์ชลน่าน ตอบว่า ก็ต่อเมื่อทางเลือกที่ 1 ( รวมเสียง สว. ) และ 2 ( หาพรรคการเมือง เข้าร่วมไม่สำเร็จ ) โดยกรอบเวลาช้าสุดคือภายในวันที่ 25 ก.ค. ที่จะทราบรายละเอียดของแนวทาง
"เรื่องของการเจรจา กับทางสว. เป็นภารกิจของคุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ที่จะเป็นผู้ประสานพูดคุย และในส่วนของส.ส. ผมและแกนนำพรรค ก็จะประสานต่อสายแล้วเดินทางไปพบพูดคุยกับพรรคการเมือง โดยเป็นการส่งเทียบเชิญ ซึ่งพรรคที่มีแนวโน้มคุยง่ายสุดคือพรรคชาติไทยพัฒนา ก็จะได้ประสานพูดคุยกัน" นพ. ชลน่าน กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง