ข่าว

'โหวตนายกรอบ 2' ชลน่าน ยัน ไม่มีแผนสำรอง หาก 'พิธา' ได้เสียงไม่ถึงครึ่ง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'ชลน่าน' ย้ำ ไม่มีแผนสำรอง 'โหวตนายกรอบ 2' พิธา ได้เสียงไม่ถึงครึ่ง รอ ก้าวไกล แถลงให้ เพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

นพ. ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผย ก่อนการประชุมสภา เพื่อ “โหวตนายกรอบ 2” ซึ่งมีการยื่นเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นญัตติซ้ำ ว่า 8 พรรคร่วมได้คุยกันชัดเจนแล้ว มีมติว่า ไม่ใช่ญัตติตามข้อบังคับที่ 41 เชื่อว่ายังเสนอได้ตามเดิม

 

 

 

 

ส่วนคะแนนโหวตนายพิธารอบนี้ได้เท่าไร ถึงจะเปลี่ยนให้เพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลนั้น ก็ไม่ได้คิด แต่ตามถ้อยแถลงของนายพิธา ระบุว่า หากได้มากกว่า 10% ของคะแนนเดิม คือ 356 หรือตีกลมๆ 360 คะแนน เราจะยังสนับสนุนนายพิธาเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นญัตติใด พร้อมย้ำว่า 141 เสียงของพรรคเพื่อไทย จะยังคงเห็นชอบ และไม่ได้มีแผน 2

 

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย

นพ.ชลน่าน กล่าวถึงกรณีที่วันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ จะมีการพิจารณาคุณสมบัตินายพิธา ปม “หุ้นไอทีวี” ว่า ทางสมาชิกพรรคก็ได้สอบถามในที่ประชุมเหมือนกัน ว่าจะมีผลต่อการโหวตหรือไม่ ซึ่งตนได้ตอบชัดแล้วว่า ในกรณีถ้าศาลรับคำร้อง ยังไม่มีการวินิจฉัยเป็นที่สุด ก็ถือว่านายพิธา ไม่มีลักษณะต้องห้าม ยังเสนอชื่อ และให้ความเห็นชอบได้

 

 

 

ส่วนกรณี สว.ให้ความมั่นใจว่า จะไม่มีการโหวตนายกรอบ 2 นั้น นพ.ชลน่าน ไม่ขอโต้แย้ง มองว่า เป็นสิทธิของแต่ละคน หากประธานรัฐสภา ให้ญัตติเข้า ก็ยึดถือตามนั้น ถ้าเสียงข้างมากบอกเป็นญัตติซ้ำ ถ้าการวินิจฉัยของสภาเป็นอย่างนั้น ญัตติที่เสนอในวันนี้ ก็ไม่ได้รับการโหวต ก็ต้องยอมรับ แต่ขณะนี้เพื่อไทยยังไม่มีแผน เสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในวันนี้

 

 

 

ส่วนที่ สว. บอกว่า แม้เพื่อไทยจะพลิกมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ยังมีก้าวไกลอยู่ด้วย ก็จะไม่โหวตให้นั้น นพ.ชลน่าน บอกว่า ตนยังไม่คิดล่วงหน้า เป็นเพียงความคิดเห็นของ สว. บางคน ซึ่งทั้งหมดหรือเปล่าก็ไม่รู้ ก็ได้เพียงแต่รับฟัง

 

เมื่อถามย้ำว่า พรรคเพื่อไทย สามารถดีลเสียง สว. เองได้ แม้จะมีพรรคก้าวไกลรวมอยู่ด้วยใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน บอกว่า เป็นกระบวนการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ต้องรอข้อเท็จจริง และความเห็นพ้องจาก 8 พรรคร่วม โดยเฉพาะก้าวไกลว่า มีความเห็นอย่างไร ถ้าทำตามที่นายพิธาแถลงไว้ ก็จะตอบได้ว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมหรือไม่ ที่จะหาเสียงกับ สว.

 

 

 

 

เมื่อถามว่า การเติมเสียงพรรคที่ 9 กับ 10 เข้ามา จำเป็นต้องรู้แน่ชัดก่อนหรือไม่ ว่า พรรคเพื่อไทยหาเสียง สว. ได้เท่าไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นคำถามที่ตอบสื่อไป เพราะถูกถามว่า หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในนาม 8 พรรคร่วมตาม MOU เดิม ที่ให้พรรคอันดับ 2 เป็นแกนนำ จะมีการเปลี่ยนแปลง MOU หรือไม่ ซึ่งที่จริงตนไม่ควรตอบ แต่ว่าด้วยความที่มันตรงไปตรงมา เลยตอบไปว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ใน MOU ที่ทุกอย่างเขียนขึ้นต้นด้วยก้าวไกล ก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง และสิทธิของพรรคแกนนำ ก็ต้องไปหารือกับ 8 พรรคร่วมว่า มีสิทธิจะไปหาเสียงเพิ่มได้มากน้อยแค่ไหน หากมีสิทธิ ก็ต้องเปลี่ยน MOU ซึ่งตนก็ตอบในทำนองนี้ ไม่ได้ไปรื้อ MOU ใดๆ พร้อมยอมรับว่า สมมติฐานในการเพิ่มเสียงของพรรคที่ 9 พรรคที่ 10 ก็จำเป็นต้องรู้เสียง สว.ที่แน่ชัดก่อน และขอไม่ตอบประเด็นโอกาสเกิดรัฐบาลข้ามขั้ว ขอให้ข้อเท็จจริงในวันนี้ปรากฏก่อน ไม่มีคำว่า "ถ้า" และไม่มีแผนสำรอง

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ