ข่าว

'ก้าวไกล' ประเมินโหวตนายกฯรอบ2 ก่อนแก้ ม.272 ติงฝ่ายเดียวกันแต่กลับวิจารณ์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'ณัฐชา' เผยพรรคร่วมวิจารณ์โรดแมปดัน 'พิธา' เป็นนายกฯ ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ชี้รอประเมินโหวตรอบ 2 ไม่ผ่านเดินหน้าแก้ ม.272 แต่ยังยืนยันไม่มีสลับขั้วแน่นอน

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล เปิดเผยกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ค้านแก้ไข ม.272 และบอกพรรคก้าวไกลทำนอก MOU เนื่องจาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ออกมาแถลงถึงการต่อสู้เพื่อจัดตั้งรัฐบาลว่า หากเสียงสนับสนุนครั้งที่ 2 ไม่ผ่าน ก็มี 2 ทาง คือ เสียงเพิ่มขึ้นโดยมีนัยยะสำคัญ ก็จะเสนอชื่อนายพิธา ในครั้งที่ 3 ต่อ แต่หากเสียงเท่าเดิมหรือน้อยลงจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.272 ตัดอำนาจ สว. โหวตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นไทม์ไลน์ที่สื่อสารให้ประชาชนทราบ 

 

ส่วนที่พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลดูเหมือนจะไม่เห็นด้วยกับการแก้ไข ม.272 นายณัฐชา กล่าวว่า ขณะนี้เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นพูดคุย และคงต้องหารือกันต่อ ส่วนพรรคฝ่ายค้านในอดีตเคยเห็นพ้องมาแล้วว่า ม.272 มีปัญหา ส่วนใครที่บอกว่า ม.272 มีปัญหาแล้วจะไม่โหวตให้ ก็ต้องตอบคำถามสังคมให้ได้ว่าเพราะอะไร และพรรคก้าวไกลก็ยืนยันมาตลอดว่า กฎหมายนี้มีปัญหาและวันนี้ก็แค่เสนอแก้ตามระบบรัฐสภา

นายณัฐชา กล่าวต่อว่า วันนี้เพิ่งจะผ่านการโหวตไปเพียงครั้งแรก มีเสียงวุฒิสภามาถึง 13 เสียง มีเสียงพรรคร่วมฯ 8 พรรคผนึกกำลังอย่างเข้มแข็ง เชื่อว่าการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยเป็นไปไม่ได้เลย การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงพรรคก้าวไกลผลักดันประเด็นต่างๆ แต่เป็นเพราะเราหลังพิงพี่น้องประชาชน เราถอยไม่รู้จะถอยอย่างไรแล้ว หันหลังไปเจอพี่น้องประชาชนบอกว่าการเลือกนายกฯครั้งที่ 1 ผ่านไปแล้ว พี่น้องประชาชนเฝ้ารอการโหวตเลือกนายกฯครั้งที่ 2 อยู่  ซึ่งกำลังจะถึง แต่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาจากพรรคการเมืองฝั่งเดียวกัน จึงมองว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง

 

ส่วนที่พรรคเพื่อไทยอยากให้จบในวงประชุมก่อนที่จะเปิดเผยต่อสาธารณชน นายณัฐชา กล่าวว่า เป็นเพียงสิ่งที่อยากสื่อสารให้ประชาชนเท่านั้น เป็นกระบวนการธรรมดาทั่วไป สามารถเข้าใจได้ตามปกติ แต่หากวันนี้ไม่เปิดแผนภูมิออกมา ประชาชนก็จะเข้าใจไปว่าอาจจะสู้ไป 5 ครั้ง 10 ครั้ง หรือจนกว่า สว.จะหมดวาระ แต่การที่ก้าวไกลออกมาบอก เพื่อย้ำในเส้นทางการต่อสู้ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่จะคุยกับประชาชนและ 8 พรรคร่วมก็พูดคุยตกลงกันแบบนี้อยู่แล้ว และในการลง MOU ก่อนเลือกประธานสภา ก็ระบุไว้ว่า เราจะผลักดันนายกฯ ที่ชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อย่างสุดความสามารถ 

 

ส่วนกรณี นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. ระบุว่า หากเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย ในการโหวตครั้งที่ 3 แต่ยังมีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลด้วยก็จะไม่ยอมโหวตให้ นายณัฐชา มองว่าเป็นความคิดของนายเสรีเพียงคนเดียว ไม่ใช่ของ สว. 250 คน ซึ่ง สว. ก็มีความคิดเห็นหลากหลายที่แสดงออกมาได้ เมื่อผ่านการโหวตครั้งแรกไปแล้ว ก็มี สว.ที่หลังพิงประชาชน โหวตเลือกนายพิธามาแล้ว 13 คน โดยผลเป็นอย่างไรประชาชนได้เห็นแล้ว ส่วนคนที่ไม่ได้โหวต ผลกระทบเป็นอย่างไร ประชาชนก็เห็นแล้วเช่นกัน จึงเชื่อว่าการโหวตในครั้งต่อไป ก็เชื่อว่า สว. มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป

 

เมื่อเสียงครั้งที่ 2 ยังไม่ออกมา เราจึงยังไม่พูดคุยถึงเสียงครั้งที่ 3 เพราะตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 19 ก.ค. จะเป็นการพูดคุยถึงความแน่วแน่ ในการเสนอชื่อนายพิธาเป็นครั้งที่ 2 และเรายังหวังเสียงสนับสนุนเพิ่มขึ้นจากทั้ง 2 สภา

 

ส่วนการพูดคุยที่ไม่ลงตัว รวมถึงการไม่เห็นด้วยในการแก้ไข ม.272 จะเป็นสัญญาณการแตกหักระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายณัฐชา กล่าวว่า การแก้ไข ม.272 จะเกิดขึ้นหลังจากการเลือกนายกฯครั้งที่ 2 วันนี้อยากทุกคนใน 8 พรรคร่วม โฟกัสที่การโหวตนายกฯครั้งที่ 2 ก่อน และให้ช่วยดันหาหนทางดึง 2 สภามาช่วยกันให้โหวตผ่านครั้งที่ 2 ไปได้ แล้วจะไม่มีการพูดคุยเรื่องอื่นๆต่อ 

 

นายณัฐชา ยืนยัน วันนี้ยังไม่มีสัญญาณสลับขั้วจาก 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ผนึกกำลังกันเข้มแข็ง ไม่มีทางพลิกไปทางไหนได้เลย หากพลิกต้องพลิกทั้งก้อน 312เสียง รวมถึง 188 คือ เสียงข้างน้อยในสภา และ สว. บางส่วนก็ประกาศงดออกเสียงไปตลอดก็ไม่ได้หมายความว่าจะโหวตให้ฝั่ง 188 เสียง อีกฝ่ายก็ไม่มีความชัดเจนจะให้ใครเป็นนายกฯ

 

ส่วนเรื่องที่คนวิจารณ์ว่าพรรคก้าวไกลต้องการดึงพรรคเพื่อไทยเอาไว้จากท่าทีของแกนนำ เช่น นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ที่โพสต์รูปข้าวต้มมัด นายณัฐชา กล่าวว่า ตนคิดว่าไม่ได้เป็นความพยายามของใคร และรูปข้าวต้มมัดก็ไม่ได้เป็นการพูดออกมาจากพรรคใดพรรคหนึ่ง ยืนยันการจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปตามมติของประชาชน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ