ข่าว

ปูมหลัง 3 ประธานสภา 'วันนอร์' หมออ๋อง พิเชษฐ์ นักสร้างตำนานในสนามการเมือง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดปูมหลัง 3 ประธานสภา 'วันนอร์' -หมออ๋อง-พิเชษฐ์ ที่ไปที่มาไม่ธรรมดา เป็นนักสร้างตำนานในสนามการเมืองทุกคน ยึดมั่น ยืนหยัด ฝ่ายประชาธิปไตย

 

จบไปแล้วกับการเปิด ประชุมสภา เพื่อเลือก ประธานสภา ที่จะเข้ามาทำหน้าที่เป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ และเป็นไปตามที่คาดการณ์สำหรับ 3 คนที่จะเข้ามานั่งทำหน้าที่คุมบัลลังก์ในสภาสัปปายะสภาสถานตลอดเวลา 4 ปีหลังจากนี้ โดยประธานสภาตกเป็นของ "วันนอร์" หรือ วันมูหะมัดนอร์ มะทา จากพรรคประชาชาติ ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกเสนอเชื่อเพียงหนึ่งเดียว ส่วนเก้าอี้รองประธานสภาคนที่ 1 ตกเป็นของ  "หมออ๋อง" ปดิพัทธ์ สันติภาดา จากพรรคก้าวไกล และ พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน จากพรรคเพื่อไทย เป็นประธานสภาคนที่ 2 ทั้ง 3 คนนี้มีบทบาทสำคัญสำหรับทิศทางการเมืองหลังจากนี้อย่างเข้มข้น "คมชัดลึก" สรุปมาให้  

1. "วันนอร์" หรือ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาคนล่าสุด จากพรรคประชาชาติ  เข้าสู่การเมืองตั้งแต่ปี 2522 ผ่านการเป็นรัฐมนตรี 2 กระทรวงคือคมนาคมและมหาดไทย รวมไปถึงเคยรับตำแหน่งประธานสภาในปี 2539  

 

 

ก่อนที่จะเปลี่ยนเข้าสู่เส้นทางการเมือง "วันนอร์"  เคยรับราชการครูในพื้นที่จังหวัดภาคใต้มาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็น ตำแหน่งเป็นครูใหญ่ อาจารย์ประจำวิทยาลัย และ รองอธิการบดี วิทยาลัยครูสงขลา หลังจากนั้นในปี 2522 เริ่มทำงานการเมือง โดยเริ่มในสังกัดพรรคกิจสังคม เป็นผู้ร่วมก่อตั้งและแกนนำกลุ่มวาดะห์ 

วันมูหะมัดนอร์ มะทา

 

 

วันมูหะมัดนอร์ มะทา หรือ "วันนอร์" เคยดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีในสมัยที่ นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีในปี 2547 ก่อนถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี จากคำวินิจฉัยในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2549 แต่ยังคงมีบทบาทให้คำแนะนำ ส.ส.กลุ่มวาดะห์  

 

 

ตลอดระยะเวลา 40 ในเส้นทางการเมือง วันมูหะมัดนอร์ มะทา แสดงจุดยืนในการสนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตยและต่อต้านระบบเผด็จการมาโดยตลอด ที่ผ่านมา "วันนอร์" ไม่เคยเห็นด้วยกับการมีอยู่ของ กอ.รมน. และการใช้กฏอัยการศึกในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใตเ โดยเขาเคยระบุว่า "กอ.รมน. ควรถูกยกเลิกไปนานแล้ว แต่มันมีการรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ในช่วงรัฐประหาร 2549 เมื่อก่อนที่ไทยยังมีภัยคอมมิวนิสต์"  

 

 

อย่างไรก็ตามในปี 2562  "วันนอร์" เคยถูกฝ่ายความมั่นคงฟ้องในข้อหายุยง ปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง เนื่องจากจัดเวทีเสวนา "พลวัตแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่นับหนึ่งรัฐธรรมนูญใหม่" โดยเข้าได้บอกเพียงว่าติดคุกเพราะทำเพื่อประชาชน ดีกว่าติดคุกเพราะโกงประชาชน 

 

 

 

2. หมออ๋อง ปดิพัทธ์ สันติภาดา อายุ 42 ปี จากสัตวแพทย์ สู่สนามการเมือง  คู่ปรับ หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม หลังขึ้นเวทีดีเบตดุเดือดโชว์วิสัยทัศน์ก่อนเลือกตั้ง 2566 พบเคยดวลชิงชัยสนามเลือกตั้ง สส.เขต 1 พิษณุโลก เมื่อปี 2562 มาแล้ว พร้อมกับคว้าอันดับ 1  ล้ม นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม จากพรรคประชาธิปัตย์ อดีต สส. 3 สมัย 

 

 

สำหรับ หมออ๋อง ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาเรียกได้ว่าเป็นนักการเมืองปฏิบัติหน้าที่ฝ่านค้านที่โดดเด่น โดยเฉพาะการอภิปรายในสภา  เกี่ยวกับการการชุมนุมเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ เมื่อ 27 ต.ค. 2563 โดยหมออ๋องได้อภิปรายว่า

 

 

"การพูดคุยเรื่องข้อเรียกร้องจากการชุมนุมนั้น รัฐสภาต้องเป็นคำตอบเพื่อให้การพูดคุยเรื่องนี้ปลอดภัยและตรงตามเจตนารมณ์ที่สุด นี่เป็นคำถามแห่งยุคสมัย ปฏิเสธความจริงไม่ได้ว่า จากบทสนทนาที่เราคุยกันในโต๊ะอาหาร วงเหล้า หรือในกลุ่มเพื่อนสนิท ตอนนี้กลับมาเป็นประเด็นทางสาธารณะ มันหมายความว่านี่คือคำถามแห่งยุคสมัย แทนที่ผู้ใหญ่จะใช้วิธีปิดปากปิดตา ปิดหู ทำไมเราไม่ทำหน้าที่ในการตอบ ในการถามกลับ หรือการทำให้ผู้ชุมนุมที่เป็นเยาวชนมีโอกาสได้พูดมากขึ้น เรื่องนี้ถ้ารัฐสภาของเราไม่ตัดสินใจให้ดี เราอาจจะเสียใจในภายในหลัง เพราะความรุนแรงรออยู่ที่ถนน"

 

 

แต่ประเด็นที่ทำให้ หมออ๋อง กลายเป็นดาวเด่นในสภา และถูกจับตามองจากสังคมมากที่สุด คือการอภิปรายเปิดโปงการทุจริตกองทัพ เส้นทางหักหัวคิวกู้บ้านพักทหาร ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เชื่อมโยงมาจากเหตุกราดยิงโคราช โดยเขาระบุว่าพบเงิน ไหลเวียนในบัญชี  "เสธ."  จำนวนกว่า 181 ล้านบาท ภายในเวลาแค่ 38 วัน 

 

หมออ๋อง ปดิพัทธ์ สันติภาดา

 

 

3. พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส. เชียงราย พรรคเพื่อไทย ดีกรี สส. 5 สมัย  กับลีลาการอภิปรายในสภาที่มีมีปฏิภาณไหวพริบตลอดเวลา โดยช่วงที่สร้างความฮือฮามากที่สุด คือการอภิปรายในสภาช่วงปี 2565 โดยนายพิเชษฐ์ ได้มีการสาปแช่งคนโกงกินในสภา กลังอภิปรายในประเด็นผูกขาดกิจการพลังงาน  ซึ่งเขาได้อภิปรายว่า "ผมขอสาปแช่งใครกินคำโต ฉลาดแยลยล ขอให้ 7 ชั่วโคตรมีอันเป็นไปมนทางที่เสื่อมเสียเลวร้าย หากคิดในทางที่ไม่มีต่อแผ่นดิน"

 

 

ปัจจุบัน พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน อายุ 60 ปี  การทำงานที่ผ่านมาเคน นายกองค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทยภาคเหนือ และมีบทบาทในการนำผู้ชุมนุมเข้ากรุงเทพ เพื่อออกมาต้าน นายสนธิ ลิ้มทองกุล 

 

 

ส่วนผลงานด้านการเมือง พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน เคยดำรงตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี 2 สมัย และเคยเป็นที่ปรึกษา รมช. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นอกจากนี้คุณพิเชษฐ์ยังเคยดำรงตำแหน่งกรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคาร และสถาบันการเงิน 

 

 

พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ