'ศรีสุวรรณ' - 'สนธิญา' โร่เข้าร้อง ป.ป.ช.สอบ ส.ส. 'ก้าวไกล' ทำร้ายร่างกายแฟนสาว ผิดจริยธรรมร้ายแรง ด้านสนธิญา เตือนแฟนสาวสส. อาจเข้าข่ายแจ้งความเท็จ จ่อตรวจสอบอดีตของพิธากรณีเดียวกัน
นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เดินทางมาที่สำนักงาน ป.ป.ช.นนทบุรี เพื่อยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ขอให้ไต่สวนสอบสวนเอาผิด สส.พรรคก้าวไกล กรณีทำร้ายร่างกายแฟนสาว จนมีการแจ้งความดำเนินคดีกันที่ สภ.บ่อวิน ชลบุรี เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.66 ที่ผ่านมา ในข้อหาทำร้ายร่างกายและทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีความผิดทางอาญา และผู้กระทำมีตำแหน่งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แม้ว่าในทางกฎหมายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 เป็นความผิดอาญาไปแล้ว แต่ในเรื่องของจริยธรรม หน่วยงานที่มีหน้าที่ในการรับผิดชอบ ก็คือป.ป.ช ซึ่งจะต้องดำเนินการไต่สวนสอบสวนและวินิจฉัยว่า การกระทำดังกล่าว เข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ทางป.ป.ชจะต้องดำเนินการไปสอบสวนเนื่องจากว่ามีการแจ้งความร้องทุกข์ กล่าวโทษไว้แล้ว
แม้ว่าทางพรรคการเมืองต้นสังกัดคือพรคก้าวไกล จะออกบอกว่าจะดำเนินการตรวจสอบและเรียกผู้กระทำการมาไต่สวนเพื่อพิจารณาความผิดตามข้อบังคับของพรรคก้าวไกล แต่เรื่องนี้เกิดเหตุมาน่าจะเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว พรรคก้าวไกล ยังไม่ขยับเรื่องนี้แต่อย่างใดไม่เหมือนกับเรื่องอื่นที่เคยปรากฏมาก่อนหน้านี้ ที่พรรคก้าวไกลก็มักจะออกมาดำเนินการลงโทษผู้กระทำความผิดอย่างรวดเร็วแต่กรณีนี้กลับยังเพิกเฉย
แต่ในส่วนของจริยธรรม เป็นอีกเรื่อง ที่ป.ป.ชจะต้องดำเนินการไต่สวนสอบสวน หากพบว่าข้อมูลเป็นข้อเท็จจริงตามที่ผู้ร้องคือองค์กรรักชาติ รักแผ่นดินได้ร้องเรียน ก็สามารถสรุปประมวลผลวินิจฉัย เพื่อให้ศาลอาญาได้พิจารณาลงโทษต่อไปได้
นายศรีสุวรรณ กล่าวด้วยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ทราบข่าวว่าทางผู้เสียหายคือแฟนสาวของส.ส คนดังกล่าวได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่าไม่ติดใจเอาความต่อเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของความผิดอาญาแผ่นดิน ความผิดได้สำเร็จไปแล้ว และเป็นความผิดที่ไม่สามารถจะยอมความได้ ตามกฎหมาย แม้ว่าเจ้าตัวผู้เสียหายจะบอกว่าไม่ติดใจเอาความแล้วก็ตาม แต่เรื่องนี้ได้แจ้งความไปที่สภ.บ่อวิน การออกมาปฏิเสธหรือโพสต์ข้อความว่า ไม่ได้เป็นไปตามที่สื่อรายงาน ผู้เสียหายอาจจะเข้าข่ายความผิด ฐานแจ้งความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ฝากให้ระมัดระวังในเรื่องนี้ไว้ด้วย
ขณะที่นายสนธยา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่ได้เดินทาง มาร้องต่อป.ป.ช ในเรื่องเดียวกันเพื่อให้สอบสส.ก้าวไกลที่มีเรื่องทำร้ายร่างกายแฟนสาว อันเป็นการกระทำที่ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญและจริยธรรมร้ายแรงจำนวน 2 ฉบับ เมื่อเดินทางมาถึง พบว่านายศรีสุวรรณได้ทำการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวไปแล้ว จึงไม่ได้ทำยื่นร้อง โดยกล่าวกับสื่อมวลชนว่า ตนเองได้เตรียมเอกสารไว้ครบเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อนายศรีสุวรรณยื่นแล้วซึ่งเป็นประเด็นเดียวกัน ก็ไม่อยากจะยื่นเพื่อไปทับซ้อนกัน
นายสนธิญากล่าวด้วยว่า การกระทำของสส.พรรคก้าวไกลขัดต่อจริยธรรม ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ปี 2560 มาตรา 4 มาตรา 234 ขัดต่อจริยธรรมโดยเฉพาะจริยธรรมข้อที่ 13 สมาชิกฯ และกรรมาธิการต้องไม่แสดงอาการข่มขู่อาฆาตมาดร้าย หรือใช้กำลังประทุษร้ายต่อบุคคลอื่นในที่ประชุม บริเวณ หรืออื่นๆใด ซึ่งจริยธรรมมี 2 ฉบับ ฉบับที่ 1 ปี 2563 ว่าด้วยจริยธรรมของสส.และกรรมาธิการ กับจริยธรรมอีกฉบับหนึ่ง เป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 219 ว่าด้วยจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ทั้งนี้นายสนธิญา ยังได้กล่าวอีกว่า จะแยกประเด็นจากนายศรีสุวรรณ โดยจะพิจารณาในกรณีที่มีข่าวว่าการทำร้ายร่างกายของสส.พรรคก้าวไกล เป็นเพียงเหตุแย่งโทรศัพท์มือถือ แล้วโทรศัพท์โดนที่หน้า และขอเตือนไปยังหญิงสาวรายผู้เสียหายว่า กรณีที่ไปแจ้งความ ที่สภ.บ่อวิน แจ้งความไว้ชัดเจนว่าถูกชก 1 ที จิกหัวลงจากรถ ขว้างด้วยโทรศัพท์ถูกขว้างด้วยโทรศัพท์ และได้มีความแจ้งไว้ 2 ข้อหาคือทำร้ายร่างกายและทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งการออกข่าวว่าเป็นการแย่งชิงโทรศัพท์ในรถแล้วทำให้เกิดการบาดเจ็บ ต้องให้ตรงกับที่ไปแจ้งความไว้ ถ้าไม่ตรงกันจะถือว่า ให้เอกสารเป็นเท็จต่อราชการ
ทั้งนี้ตนเองกำลังตรวจสอบว่า กรณีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรครก้าวไกล ที่เคยมีปัญหาคล้ายกับกรณีดังกล่าว เกิดขึ้นในปีไหน เกิดขึ้นในช่วงที่นายพิธารับตำแหน่งผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้วหรือไม่ เพื่อให้เห็นว่ากรณีเรื่องของจริยธรรมและคุณธรรมนั้นไม่ว่าหัวหน้าพรรคหรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จะต้องปฏิบัติตาม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง