ข่าว

เดือด ปม ‘หน.ปชป.คนใหม่’ ทนายเชาว์ จี้เลิกใช้สัดส่วน 70 % ของสส.ชี้ขาด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ทนายเชาว์ ชี้ปมเลือก ‘หน.ปชป.คนใหม่’ จี้เลิกใช้สัดส่วน 70 % ของ สส.ชี้ขาด เหตุุพรรคอยู่ในสภาวะไม่ปกติ ต้องให้องค์ประชุมใหญ่มีคะแนนเท่ากัน 1 เสียง 1 โหวต ทางออก ฟื้นประธาธิปัตย์

นับถอยหลังใกล้วันเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ใหม่ ‘หน.ปชป.คนใหม่’ ซึ่งในอดีตมีคนสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคมากกว่าหนึ่งราย แต่ครั้งนี้ไม่เป็นเช่นนั้น ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวจากคนในพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ถึงตำแหน่ง ‘หน.ปชป.คนใหม่’ เป็นเพราะอะไร ?

 

ทนายเชาว์ หรือ นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว “Chao Meekhuad” ใจความดังนี้ภายใต้ในหัวข้อว่า 1 เสียง 1 โหวต ทางออก ฟื้น ปชป.

 

9 ก.ค.นี้ พรรคประชาธิปัตย์ มีกำหนดประชุมใหญ่ วาระสำคัญคือการเลือกผู้บริหารชุดใหม่ มาแทนชุดเดิม ที่พ้นตำแหน่งไป จากการลาออกของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เพื่อรับผิดชอบต่อความพ่ายแพ้ในสนามเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา

 

จะเห็นได้ว่าการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคในคราวนี้ แตกต่างไปจากอดีตที่เคยมีมา แทบจะไม่มีใครเสนอตัวออกมาชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเลย ยกเว้น นายอลงกรณ์ พลบุตร 

 

สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะคนในพรรครู้ดีแก่ใจว่า ตำแหน่งหัวหน้าพรรค รวมถึงผู้บริหารทั้งหมด ในตอนนี้ อยู่ในอาณัติของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตเลขาธิการพรรคฯ ที่กุมเสียง สส.ในมือราว 20 คน จากทั้งหมด 25 คน สั่งให้ใครเป็นหัวหน้าพรรคคนนั้นก็จะได้เป็น 

 

เนื่องจากข้อบังคับพรรคให้น้ำหนัก สส.เป็นสัดส่วนถึง 70 % ขององค์ประชุมของที่ประชุมใหญ่ในการลงคะแนน ข้อบังคับพรรคไม่ได้ผิดอะไร ที่ให้ความสำคัญกับ สส.ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชน 

 

แต่ในอดีตก็มีการแก้ไขสัดส่วนคะแนนเสียงของ สส.มาตลอดเพื่อให้สมดุลย์เข้ากับสถานการณ์แต่ละยุค ซึ่งตอนแก้ข้อบังคับเมื่อปี 61 ก่อนหน้านี้พรรคมี สส.เกินหลักร้อยมาตลอด และใครก็ไม่เคยคาดคิดว่าจะตกต่ำเหลือแค่ 25 คนในยามนี้ 

 

จากพรรคขนาดใหญ่ กลายเป็นพรรคขนาดกลาง และกำลังเป็นพรรคขนาดเล็ก ถือเป็นสถานการณ์ไม่ปกติ ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้จึงไม่สมควรที่จะให้ สส. 25 คน มากุมชะตากรรมพรรคเพียงลำพัง 

 

การเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 9 ก.ค.นี้ ผมจึงขอเสนอให้ที่ประชุมใหญ่ลงมติสามในห้าขององค์ประชุมของที่ประชุมใหญ่ให้ยกเว้นข้อบังคับข้อ 87 (1),(2) ที่ให้ถือเกณฑ์คำนวณคะแนนเสียงในการเลือกตั้งสัดส่วน สส. 70 % และสมาชิกอื่นที่เป็นองค์ประชุม 30 % เสีย 

 

โดยให้ใช้เสียงข้างมากของผู้ลงคะแนนเสียง เพื่อให้ทุกคะแนนเสียงขององค์ประชุมที่ประชุมใหญ่ มีหนึ่งเสียง หนึ่งโหวตเท่ากันในการกำหนดชะตาครั้งสำคัญของพรรค

 

"ถ้ารักพรรคจริง ต้องเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมตัดสิน ไม่ใช่ใช้ข้อได้เปรียบจากข้อบังคับพรรคมาจ้องกินรวบพรรคอย่างที่เป็นอยู่ คนชอบพูดว่าผมเป็นคนของนายกฯอภิสิทธิ์ ผมไม่ปฏิเสธว่าเคารพรักท่าน แต่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคสำหรับผม จะชื่ออะไรก็ได้ สำคัญที่คน ๆ นั้น ต้องมีบารมี มีเจตจำนงค์ทำพรรคให้เป็นพรรค ไม่ใช่คิดแต่ใช้พรรคเป็นบันไดในการแสวงหาอำนาจ 

 

เรามีบทเรียนมามากพอแล้วกับการละทิ้งคำสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ในการเลือกตั้งปี 2562 ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่เปราะบาง ประชาธิป้ตย์ต้องเข้มแข็งเพื่อเป็นหลักให้กับบ้านเมือง 

 

ส่วนจะไปถึงจุดนั้นได้หรือไม่ ชี้วัดกันที่การเลือกหัวหน้าพรรควันที่ 9 ก.ค. ที่ผมยืนยันว่า ต้องยกเว้นข้อบังคับ เลิกสัดส่วน 70 % ของสส. เป็นให้ทุกคะแนนมีค่าเท่ากัน สมาชิกพรรคท่านไหนเห็นด้วยกับผม ขอให้ช่วยกันกระจายโพสต์นี้ไปทุกช่องทางสื่อสาร และเฟสบุ๊กพรรคด้วย เพื่อร่วมกันสร้างพรรคประชาธิปัตย์ให้กลับมาเป็นสถาบันทางการเมืองอีกครั้ง”

 

ที่มาข้อมูล: “Chao Meekhuad”

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ