ข่าว

เดินหน้าไม่ถอย เรืองไกร ยื่นเอกสารเพิ่ม มาตรา 151 บี้ 'พิธา' ว่าด้วยคุณสมบัติ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หัวหอกการเคลื่อนไหวว่าด้วยคุณสมบัติ ของว่าที่นายกฯ 'พิธา' กรณี ถือหุ้นสื่อไอทีวี "เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ " รุกมอบเอกสารให้กกต. จี้ตรวจสอบความผิดที่ยอมให้เสนอชื่อตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี ย้ำ รัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3)   ต้องไม่ถือหุ้นสื่อ ครอบคลุม วุฒิสภา ครม. ตุลาการศาลฯ

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ  เปิดเผยว่า  ได้ส่งหลักฐานเพิ่มและขอให้  คณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต. )นำไปตรวจสอบเพิ่มเติม กรณีตั้งกรรมการสืบสวนสอบสวนนายพิธา  ลิ้มเจริญรัตน์  หัวหน้าพรรคก้าวไกลแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี   ที่ถูกพิจารณาในคดีอาญา มาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. 2561  รวมทั้งขอให้ กกต.ตรวจสอบตามแบบสส. 4/20  ซึ่งเป็นหนังสือยินยอมให้เสนอชื่อลงสมัครเป็น สส.แบบบัญชีรายชื่อ  และ 4/30 หนังสือยินยอมให้เสนอชื่อรับแต่งตั้งเป็นนายกฯ ว่าเข้าข่ายตามความในมาตรา 132 หรือไม่

 

 

 

ทั้งนี้ได้นำส่งทางไปรษณีย์ พร้อมสำเนาหน้าเฟซบุ๊กพรรคก้าวไกล ที่ได้โพสต์ข้อความหัวข้อ  "คนโกงวงแตก ก้าวไกลชำแหละเพิ่มขบวนการปลุกผีไอทีวี"   ที่มีเนื้อหา กรณีนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล   แถลงข่าวเปิดคลิปเสียงการประชุมผู้ถือหุ้นบริษัท ไอทีวี  จำกัด มหาชน  และสำเนาแบบส.ส.4/20 และ 4/30   โดยข้อความบางส่วนมีการกล่าวถึงตนแบบคลาดเคลื่อน   ไม่ตรงตามความจริง   ขอย้ำว่าการเดินทางมายื่นเรื่องร้องเรียนต่อ กกต.ที่ผ่านมาๆ ตนดำเนินการคนเดียว ไม่ได้ร่วมกับผู้อื่น    ส่วนที่นายชัยธวัช ระบุถึงกรณีที่กกต.จะดำเนินการ 151 กับ นายพิธา  ไม่มีหลักฐาน และน้ำหนักเพียงพอนั้น

 

 

เห็นว่าการดำเนินการของ กกต.ตามมาตรา 151 ควรหมายรวมถึงการกระทำตามแบบ ส.ส. 4/20 และ 4/30  จึงควรตรวจสอบตามมาตรา 151 ให้ครบถ้วน เพราะตามหนังสือยินยอมให้เสนอชื่อรับสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ  และหนังสือยืนยอมให้เสนอชื่อแต่งตั้งเป็นนายกฯ ซึ่งนายพิธาจะต้องลงนามรองรับไว้แล้ว 

 

 

.

ขยายความ รัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3)  จะต้องไม่ถือหุ้นสื่อ  

.

การส่งหนังสือนี้ เป็นการส่งเพิ่มเติมตามมาตรา 151  หลังจากเมื่อไม่กี่วัน  พรรคก้าวไกลมีการโพสต์ข้อความกล่าวอ้างถึงตนต่างๆ   ซึ่งยืนยันว่าทำคนเดียว   นอกจากส่งหลักฐานประกอบเพิ่มเติมแล้ว ยังอธิบายรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3)  จะต้องไม่ถือหุ้นสื่อ  ซึ่งใช้กับบังคับครอบคลุมไปถึงองค์กรอื่นๆ ด้วย เช่น วุฒิสภา คณะรัฐมนตรี รัฐมนตรี ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ  รวมถึงกรรมการองค์กรอิสระ และองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ต้องไม่ถือหุ้นสื่อ    

 

 

 

ส่วนที่พรรคก้าวไกลพยายามแก้ต่างว่าถือหุ้นเพียง 4.2 หมื่นหุ้น  ก็ขอยกรัฐธรรมนูญมาตรา 187 ให้เห็นว่า ถ้ารัฐธรรมนูญจะกำหนดจำนวนหุ้น  ก็จะต้องระบุว่าถ้ารัฐมนตรีจะถือหุ้น หรือเป็นหุ้นส่วนในบริษัทห้างหุ้นส่วนจำกัดเกินกว่าร้อยละ 5  หากเกินนี้ แต่ไม่แจ้งหรือฝาก ก็จะต้องพ้นจากตำแหน่ง แต่หากเป็นการจัดการหรือก้าวก่ายแทรกแซงการทำงานของสื่อก็จะเข้าตามมาตรา 184 วรรค 4     อีกทั้งการที่ กกต.จะดำเนินคดีอาญาตามมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ต้องดูในหนังสือยินยอมลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. และแคนดิเดต  ว่าต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม แต่เนื่องจากนายพิธา สมัคร 2 สถานะ ทั้ง สส.บัญชีรายชื่อ และสมัครแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งห้ามเหมือนกัน  ตนจึงขอให้กกต.ตรวจสอบประเด็นนี้เพิ่มเติมเข้าไปด้วย 

ส่วนที่พรรคก้าวไกลมีการโต้แย้งว่า คุณสมบัติต้องห้าม  ไม่ครอบคลุมถึงคุณสมบัติแคนดิเดตนายกฯ   ต้องถามว่า  อ่านรัฐธรรมนูญมาตรา 89 วรรคสองเป็นหรือไม่  ขอให้คนพูดไปอ่านรัฐธรรมนูญมาตรา 89 วรรคสองและ พ.ร.ป. สส. มาตรา 14 วรรคสองด้วย  ส่วนพรรคก้าวไกล มีข้อสงสัยเกี่ยวกับรายงานงบการเงินไอทีวีปี 2565 ที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.)  และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์   มีข้อความแตกต่างกัน เกี่ยวกับการทำกิจการสื่อและชี้พิรุธว่ารายงานงบฯ ที่ออกมาวันที่ 10 พ.ค. ตรงวันที่นายเรืองไกรนำมายื่นร้องนายพิธาที่ กกต.  เข้าข่ายว่าเป็นหนึ่งในขบวนการปลุกผีไอทีวี   

 

 

 


ตนให้ข่าวเรื่องหุ้นว่าจะมายื่น กกต.ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค.แล้ว  ว่าจะมายื่น กกต.วันที่ 10 พ.ค.  ซึ่งอยากให้ไปดูเฟซบุ๊กส่วนตัวของนายพิธา ที่โพสต์ข้อความชี้แจงเกี่ยวกับการร้องเรียนเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ว่าเจตนาสกัดพรรคก้าวไกล  เพราะพรรคกำลังทลายทุนผูกขาด  ไม่มีข้อความใดที่เขียนว่ามีการปลุกผีไอทีวี ส่วนถ้ามองว่ารายงานงบฯ ที่ส่ง กลต.และกรมพัฒนาธุรกิจการค้ามีพิรุธ  ก็เรียกให้สอบได้  แต่ตนไม่ได้ดูเอกสารฉบับนี้ของกลต. และตนสงสัยว่า ในเมื่อไอทีวีถูกถอดออกจากตลาดหลักทรัพย์แล้ว  เหตุใดยังต้องยื่นรายงานงบฯ ต่อ กลต.ด้วย  ซึ่งนายพิธาก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กในวันที่ 6 พ.ค.ว่าบริษัทไอทีวีถูกถอดออกจากตลาดหลักทรัพย์แล้ว

เดินหน้าไม่ถอย เรืองไกร   ยื่นเอกสารเพิ่ม มาตรา 151 บี้  'พิธา' ว่าด้วยคุณสมบัติ

เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ  

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ