ข่าว

จดหมายถึงสังคมไทย เตือนสติ คดี 'พิธา' ถือ 'หุ้นสื่อ'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นักวิชาการด้านประวัติ เขียนจดหมายถึงสังคมไทย คดี'หุ้นสื่อ' 'พิธา' ลิ้มเจริญรัตน์ หยุดโศกนาฏกรรมได้ด้วยความยุติธรรม

อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ เขียนบทความลงในเฟซบุ๊ก เตือน หลีกเลี่ยงโศกนาฏกรรมของสังคมไทย ด้วยการยืนอยู่บนความยุติธรรม หัวข้อ กกต. กับการ หาทาง ลงโทษที่เน้นสำนึกส่วนบุคคล

เนื้อหาในเฟซบุ๊ก ระบุว่า เป็นเรื่องน่าเศร้าใจที่กระบวนการเคลื่อนเข้าสู่ประชาธิปไตยของสังคมไทยกำลังถูกทำให้ชะงักงันและอาจจะนำไปสู่วิกฤติทางการเมืองครั้งใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

 

เกมการเมืองของ กกต. ออกมาในรูปของการเน้นให้ความผิดของพิธา กลายเป็นความผิดที่เกิดขึ้นจากสำนึกส่วนบุคคล ตามมาตรา 151

 

การเลือกเน้นการพิจารณาข้อกล่าวหาพิธา ในลักษณะเช่นนี้จะทำให้ดูเสมือนว่า กกต. มีความชอบธรรมในการที่จะลงโทษคุณพิธา ซึ่. กกต. คงจะประเมินว่าหากออกมาในลักษณะที่เป็นความผิดส่วนบุคคลและเป็นสำนึกของพิธาเพียงคนเดียว

 

น่าจะลดกระแสต่อต้านของมวลชนลงเพราะเป็นความผิดที่ขึ้นอยู่กับคุณลักษณะส่วนตัวของบุคคลโดยแท้

การประกาศจะใช้มาตรา 151 และเป็นการ รับเรื่องไว้พิจารณาเป็นความปรากฏ ซี่งหมายความว่า กกต. จะใช้อำนาจพิจารณาเรื่องนี้ก่อนส่งต่อไปยังศาลยุติธรรม อำนาจของการพิจารณาคดีพิธานี้สังคมไทยจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

 

เพราะมาตรา 151 นี้กำหนดบทลงโทษไว้สูงลิ่ว คือมีทั้งโทษจำคุก ปรับ และเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งนานถึง 20 ปี

 

การเลือกมาตรา 151 นี้ ก็เพราะต้องการเลี่ยงการเปรียบเทียบกับคดีการถือหุ้นสื่ออื่น ๆ ที่จะทำให้ผลการตัดสินเป็นคุณแก่กรณีพิธา การใช้มาตรา 151 ก็เพราะหวังว่าจะใช้คดีของสิระเป็นตัวตั้งเพื่อเปรียบเทียบลงโทษ

 

แต่อยากจะบอกสังคมไทยว่าคดีของสิระกับพิธามันคนละเรื่องกัน หาก กกต. เทียบเคียงเช่นนี้ก็หมายความว่าต้องการเอาเรื่องพิธาให้ได้นั้นเอง

 

การจะพิสูจน์ว่าพิธารับรู้หรือไม่รับรู้ว่าตนเองมีคุณสมบัติหรือไม่ ก็ต้องดูที่การดำรงอยู่ของ ITV ด้วยว่าในสังคมขณะนั้น ITV มีสถานะอย่างไร  หาก กกต. ไม่พิสูจน์ในจุดนี้ให้ชัดเจนและสังคมยอมรับได้เสียก่อน และกระโดดไปสู่การตัดสินการรับรู้หรือไม่รับรู้ของพิธาโดยเทียบเคียงกับคดีสิระ 

 

ซึ่งเชื่อว่า กกต. ตัดสินใจผิดและต้องขอบอกว่า กกต.จะต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้น การเมืองของความหวังเรื่อง “ความเสมอภาคและยุติธรรม” ได้ถูกจุดและลามไปทุกมิติของสังคมแล้ว  จะดับไฟแห่งความหวังของสังคมนี้อย่างมักง่ายไม่ได้

 

ขอช่วยกันจับตามองเพทุบายทั้งหลายของบรรดา น้ำน้อย ในสังคมไทย ที่พยายามดับไฟแห่งความหวังของพวกเรา และต้องช่วยกันเตือนสติพวกเขา (ที่คงเหลือน้อยนิด) ว่าพวกเขากำลังก่อให้เกิดวิกฤติทั้งสังคม

 

โศกนาฏกรรมของสังคมไทยหลีกเลี่ยงได้ หากยืนอยู่บนความยุติธรรม ที่แท้จริง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ