ข่าว

สว.สมชาย แนะ 5 ขั้นตอน 'กกต.' ตรวจสอบหุ้นสื่อ 'พิธา'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

แนะ 5 ขั้นตอนที่ 'กกต.' ควรดำเนินการ กรณีหุ้นสื่อของ 'พิธา' ลิ้มเจริญรัตน์ สมชาย แสวงการ ชี้ คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ผูกพันทุกองค์กร

สมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา เสนอ 5 ขั้นตอน ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.เร่งดำเนินการ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ  ว่าด้วยการเลือกตั้งสส. มาตรา 151

 

โดยความเห็นที่สว.สมชาย เสนอให้กกต.พิจารณาดำเนินการตามที่เห็นสมควรในขั้นตอนต่างๆประกอบไปด้วย

1.รับรองผลการเลือกตั้งสส.ของนายพิธา โดยเร็วหรือภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไม่เกิน60วันนับแต่วันเลือกตั้ง

 

2.หลังการรับรอง สส.แล้ว กกต.ต้องเป็นผู้ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเองในฐานะความปรากฎแก่กกต โดยใช้ตามมาตรา 82 ของรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า

- นายพิธาขาดคุณสมบัติและขัดรัฐธรรมนูญตามลักษณะต้องห้ามการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรตามรัฐธรรมนูญมาตรา101 (6)ประกอบมาตรา98(3)

- ขาดคุณสมบัติแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา88 มาตรา89 และมาตรา160

กรณีนี้จึงไม่จำเป็นต้องให้สส.เข้าชื่อ1ใน10 ร้องต่อประธานสภา
เพื่อขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญตามรัฐธรรมนูญมาตรา82 อีกเพราะความปรากฎตามที่กกต.รับไว้เอง

 

และกกต.ต้องสอบสวนจนมีพยานหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า นายพิธาน่ามีลักษณะต้องห้ามอันเป็นการขาดคุณสมบัติสสและแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีแล้ว จึงร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย

 

3. กกต.ร้องขอต่อศาลรัฐธรรมนูญให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ เช่นเดียวกับคดีอื่นๆที่ผ่านมา เช่นคดีที่กกต ร้องคดีนายธนาธร หรือ คดีที่ สส.พรรคร่วมฝ่ายค้านเข้าชื่อร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญคดีวาระ8ปี ของพลเอกประยุทธ์ ฯลฯ

 

โดยขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคําสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคําวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง
และขอให้มีคําสั่งกําหนดมาตรการหรือวิธีการใด ๆ เป็นการชั่วคราว

 

ก่อนการวินิจฉัยตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561มาตรา 71

 

4.กกต.ยื่นดำเนินคดีอาญาต่อเจ้าพนักงาน ตำรวจ อัยการ ในความผิดตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสส มาตรา 151  ประกอบมาตรา 42 (3)ในข้อหารู้อยู่แล้วว่า ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม

 

มิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อของตนเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ กรณีถือหุ้นสื่อITV  คดีนี้มีบทลงโทษจำคุก 1-10 ปี โทษปรับ 20,000-200,000 บาท และตัดสิทธิการเมือง 20 ปี



5. อัยการพิจารณาคำสั่งฟ้องตามความผิดฐานดังกล่าวต่อนายพิธาหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นกรณีที่กกต.ควรต้องสอบสวนและมีพยานหลักฐานให้หนักแน่นชัดเจนอย่างยิ่งเพราะอัยการสูงสุดเคยมีคำสั่งชี้ขาดไม่ฟ้องนาย ธนาธร มาแล้ว 

โดยคดีดังกล่าว อัยการระบุว่า พยานหลักฐานไม่เพียงพอที่จะสั่งฟ้องและดูเจตนาจากพยานหลักฐานแล้ว น่าจะไม่มีความผิดกฎหมายอาญา 

 

ถึงแม้ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยเรื่องคุณสมบัติของการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ของนายธนาธร ให้พ้นสมาชิกภาพความเป็นสส.ไปแล้วก็ตามแต่อัยการสูงสุดก็ยืนยันมีคำสั่งชี้ขาดไม่ฟ้องนายธนาธรมาแล้วโดยถือว่าเป็นการพิจารณากฎหมายคนละฉบับกัน  #คำวินิจศาลรัฐธรรมนูญเป็นที่สุดและผูกพันทุกองค์กร

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ