ผู้ร้อง พิธา 'ถือหุ้นสื่อไอทีวี' บี้ กกต.เรียกอดีตผู้สมัครสส.สอบในฐานะพยาน
ดราม่าว่าเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของหัวหน้าพรรคก้าวไกล "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" จากปม "ถือหุ้นสื่อไอทีวี" กลายป็นขวากหนามสำคัญ ที่ทำให้เส้นทางไปสู่ตำแหน่งผู้นำสูงสุด เจอเส้นทางทางวิบาก โดยล่าสุด อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 เสนอให้กกต. เรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำเพิ่ม
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 ยื่นคำร้องเพิ่มเติมต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) ขอให้เชิญนายนิกม์ แสงศิรินาวิน ผู้สมัคร สส.พรรคภูมิใจไทย เขต 17 คลองสามวา กรุงเทพมหานคร เป็นพยานกรณีที่ตนได้ยื่นให้ตรวจสอบการ "ถือหุ้นสื่อไอทีวี" ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี การร้องให้ตรวจสอบการถือหุ้นสื่อไอทีวีของนายพิธา เกิดจากนายนิกส์ เป็นผู้ให้สัมภาษณ์คนแรกเมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยนายนิกม์เคยเป็นผู้สมัครสส.ของพรรคอนาคตใหม่ ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 และได้ถือหุ้นไอทีวีเช่นเดียวกับนายพิธา ซึ่งตอนนั้นพรรคอนาคตใหม่มีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
แต่ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตัดสิทธินายธนาธร ส่วน นายนิกม์ ไม่ได้รับเลือกตั้งเป็น สส. แต่นายพิธา ได้รับการเลือกตั้งเป็น สส. โดยที่ขณะนั้น นายพิธายังไม่ได้มีการขายหุ้น จึงจำเป็นที่ต้องเอานายนิกม์เข้ามาเป็นพยานบุคคล เรื่องการ "ถือหุ้นสื่อไอทีวี" เพราะถือเป็นพยานปากเอก ซึ่งตนมั่นใจว่า นายนิกม์พร้อมที่จะมาให้ข้อมูลต่อ กกต.ในฐานะพยาน หรือหากไม่สะดวก กกต.สามารถเชิญสื่อมวลชนที่นายนิกม์ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว มาให้ถ้อยคำได้ อย่างไรก็ตาม หากมีกกต.มีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งสส.อย่างเป็นทางการ ซึ่งรวมถึงการรับรองนายพิธา ด้วยนั้น ก็ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขาดคุณสมบัติการเป็นแคนดิเดตนายกฯ และสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที
นพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 ยื่นคำร้องต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) ขอให้เชิญ นิกม์ แสงศิรินาวิน ผู้สมัคร สส.พรรคภูมิใจไทย เขต 17 คลองสามวา กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นพยานกรณีที่ตนได้ยื่นให้ตรวจสอบการ "ถือหุ้นสื่อไอทีวี" ของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี