‘พิธา’ แจงปม ‘ถือหุ้นสื่อ’ กกต.ยังไม่เรียกเข้าชี้แจง
‘พิธา’ แจงปม ‘ถือหุ้นสื่อ’ กกต.ยังไม่เรียกเข้าชี้แจง ย้ำหากตัดสินอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ทั้งเรื่องหลักฐาน-กฎหมาย คิดว่าไม่มีอะไรน่ากังวล
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล กล่าวถึงความคืบหน้าในกรณีถูกร้องให้ตรวจสอบในเรื่องการถือหุ้นสื่อไอทีวี ว่า ได้ตรวจสอบกับทางพรรคแล้ว ขณะนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่มีการเรียกเข้าชี้แจง พร้อมย้ำว่า หากตัดสินกันอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ทั้งเรื่องหลักฐาน และเรื่องทางกฎหมาย คิดว่าไม่มีอะไรน่ากังวล
ส่วนที่คาดการณ์ว่า กกต.จะรับรอง สส.ได้ ในกลางเดือนมิถุนายนนี้ หาก กกต.ไม่สามารถรับรอง สส.ของพรรคก้าวไกลทั้ง 151 คนได้ จะส่งผลกระทบต่อการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า เข้าใจว่าตามกฎหมายจะรับรองได้ช้าสุดในวันที่ 13 ก.ค. 2566 หากช้าไป ก็ติดกระดุมเม็ดแรกไม่ได้ ไม่สามารถเปิดสภาฯ และเลือกประธานและรองประธานสภาฯได้ ก็จะตั้งรัฐบาลไม่ได้ ทำให้ประชาชนเรียกร้องให้กกต. ทำให้เร็วมากขึ้น ก็จะยิ่งเป็นประโยชน์กับประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกรณี ว่าที่สส.ของพรรคก้าวไกลถูกร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ที่อาจส่งผลให้ กกต.ไม่ประกาศรับรองบ้างหรือไม่ ซึ่งอาจทำให้ตัวเลข สส. ไม่ถึง 151 คน นายพิธา กล่าวว่า เท่าที่เห็นมีเรื่องของ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว ว่าที่ สส.ปทุมธานี แต่น่าจะเป็นคดีเกี่ยวกับกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งตนยังไม่ได้ดูรายละเอียดกับทีมกฎหมาย ว่ามีประเด็นอะไรบ้าง แต่ก็ต้องให้กำลังใจกับ น.ส.ชลธิชา ที่ต้องขึ้นศาล โดยไม่มีทนายในเรื่องมาตรา 112 และหวังว่าจะผ่านไปได้ด้วยดี ได้เข้าไปทำงานรับใช้ชาวปทุมธานี ร่วมกับเพื่อน สส.คนอื่นๆ ที่ได้รับเลือกตั้งมา
ส่วนกรณี พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา สมาชิกวุฒิสภา (สว.) และอดีตเลขาธิการกกต. โพสต์กรณีตัวอย่างว่า หากเป็นหัวหน้าพรรค แต่พ้นสมาชิกภาพความเป็น สส.จะไม่มีผลสืบเนื่องต่อการรับรองการส่ง สส.ของพรรค นายพิธา กล่าวว่า ยังไม่เห็นรายละเอียดเรื่องนี้ อาจจะยังให้ความเห็นไม่ได้ แต่ฟังจากความเห็นของนักวิชาการ และอดีต กกต. บอกว่ามีกฎหมายที่สามารถพูดได้ ไม่ได้เกี่ยวข้องว่าใครผิดพลาดอะไร แล้วที่เหลือจะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ แต่ยังมั่นใจในรายละเอียดของตัวเอง และมั่นใจจะตั้งรัฐบาลได้ ทุกอย่างมีความสม่ำเสมอ และมีแนวโน้มที่ดี หาก กกต. รับรองได้เมื่อไหร่คาดว่าจะประชุมสภาได้โดยเร็ว และตามเวลาก็จะตั้งรัฐบาลได้
สำหรับกระแสข่าวว่า มีการพูดคุยในเรื่องประธานสภาผู้แทนราษฏร ได้ข้อสรุปแล้วว่าเป็น น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) นายพิธา กล่าวว่า น.พ.ชลน่าน ได้ออกมาบอกผ่านทวิตเตอร์แล้วว่า คำว่าจบแล้วมีนิยามของมันอยู่ ไม่ได้หมายความว่าจบที่ตัวบุคคล แต่ในความขัดแย้งมีกระบวนการในการแก้ไขปัญหาว่าจะทำอย่างไร ให้เป็นประธานสภาฯของประชาชน
ดังนั้น คงมีการพูดคุยกัน โดยยังคงยืนยันการให้สัมภาษณ์ของนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ที่เป็นทีมเจรจาบอกไว้ว่าจะมีความชัดเจนในช่วงกลางเดือน มิ.ย.2566 และสิ่งที่นายมงคลกิตต์ สุขสินธารานนท์ อดีตหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์เอาไว้ ไม่เป็นความจริง