ข่าว

หยุดส่วยราชการสีเทา ต้องหยุดวิ่งเต้นขอตำแหน่งให้ได้ก่อน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"รังสิมันต์ โรม" ตีแผ่ต้นตอ "สติ๊กเกอร์ส่วย" แลกเป็นใหญ่เป็นโตในสายงาน หยุดส่วยทางหลวง ต้องเริ่มจากหยุดระบบตั๋ว หยุดเส้นสายทางราชการ วิ่งเต้นตำแหน่งให้ได้ก่อน จุดยืนรัฐบาลก้าวไกล "มีเรา ไม่มีส่วย"

"นายรังสิมันต์ โรม" ว่าที่ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อธิบายถึงรากฐานของ "สติกเกอร์ส่วยทางหลวง" ว่า สุดท้ายแล้วสิ่งที่เป็นรากฐาน เป็นต้นตอสำคัญของการมี "ส่วยทางหลวง" ไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม นั่นคือการมีอยู่ของระบบเส้นสาย ระบบตั๋ว และการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งในหมู่ข้าราชการ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ หรือข้าราชการอื่นๆ ก็ตาม 

สติ๊กเกอร์ส่วยที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร เผยแพร่ทางโซเชียลก่อนกลายเป็นประเด็นที่สังคมจับตามอง

 

 

ภายใต้ระบบเช่นนี้ ผู้ที่จะเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ได้เลื่อนขั้นขึ้นไปเป็นใหญ่เป็นโตในอนาคตได้ ไม่ได้วัดกันที่ความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ตามขอบข่ายความรับผิดชอบของหน่วยงานนั้นๆ แต่กลับวัดกันที่ความสามารถในการหาเงินหรือผลประโยชน์อื่นๆ มาตอบแทนให้กับ "นาย" ที่คอยขายตั๋วให้ หามาให้ได้โดยไม่ต้องสนใจว่ามันจะถูกหรือผิดอย่างไร ไม่ต้องสนใจว่าวิธีการที่ทำมันจะไปสร้างความเดือดร้อนให้กับใครบ้าง 

สติ๊กเกอร์ส่วยที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร เผยแพร่ทางโซเชียลก่อนกลายเป็นประเด็นที่สังคมจับตามอง

 

 

สุดท้ายแล้วช่องทางหาเงินและผลประโยชน์ที่ข้าราชการเหล่านี้สามารถอ้างใช้อำนาจของตัวเองกอบโกยมาได้ง่ายที่สุดก็หนีไม่พ้นธุรกิจมืดนั่นเอง 

 


"ถ้าระบบแบบนี้ยังมีอยู่ การเก็บส่วยก็ไม่มีวันที่จะหมดไป ดังนั้น นี่จึงเป็นสิ่งที่รัฐบาลชุดใหม่หลังการเลือกตั้งที่กำลังจัดตั้งขึ้นจะต้องจัดการให้ได้โดยเด็ดขาด" "นายรังสิมันต์ " ระบุ

 

 

"นายรังสิมันต์ " บอกต่อว่า รัฐบาลชุดใหม่ที่จะมีนายกรัฐมนตรีจากพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากที่สุด ชื่อว่า "นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ด้วยหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีในฐานะประมุขฝ่ายบริหาร ที่จะต้องควบคุมการปฏิบัติงานของข้าราชการในทุกกระทรวง ทุกกรม รวมถึงเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของข้าราชการตำรวจทั้งประเทศ นี่คือภารกิจสำคัญในการปฏิรูประบบราชการที่ทั้ง "นายพิธา" และ "พรรคก้าวไกล" จะต้องบรรลุผลให้ได้ภายในอายุการทำงานครั้งนี้ 

 

 

นายรังสิมันต์ โรม ว่าที่ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์รูปภาพผ่านโซเชียล แสดงจุดยืนเรื่องจัดการปัญหาส่วย เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2566

 

 

"ถึงเวลาลอกสติกเกอร์ที่ติดประจานความโสมมของประเทศนี้ แล้วชำระล้างเสียใหม่ให้กลายเป็นประเทศที่ทั้งข้าราชการและประชาชนสามารถได้ดิบได้ดีไปด้วยกันผ่านการปฏิบัติต่อกันอย่างสุจริตซื่อตรง มิใช่เป็นนาบนหลังคนให้ใครมาเก็บเกี่ยวกินโดยเบียดเบียนคนอื่นๆ ในสังคมอีกต่อไป" "นายรังสิมันต์ " กล่าวในที่สุด

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ