ข่าว

ชัดๆ 3 เหตุผล เก้าอี้ 'ประธานสภา' ต้องเป็นคน 'ก้าวไกล'

ชัดๆ 3 เหตุผล เก้าอี้ 'ประธานสภา' ต้องเป็นคน 'ก้าวไกล'

25 พ.ค. 2566

'ศิริกัญญา' ประกาศเก้าอี้ 'ประธานสภา' ต้องเป็นคน 'ก้าวไกล' คุมเกมฝ่ายนิติบัญญัติเอง เชื่อ'เพื่อไทย' ไม่ถอนตัวจับมือจัดตั้งรัฐบาลต่อ คาดภายใน 2 สัปดาห์ได้ข้อยุติ 'รัฐบาลใหม่' หลัง กกต. ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ยืนยันตำแหน่ง "ประธานสภาผู้แทนราษฎร" หรือประมุขนิติบัญญัติ ต้องเป็นของพรรคก้าวไกล ด้วยเหตุผลชัดเจน 3 ข้อ 

- ผลักดันกฎหมาย 45 ฉบับ ที่พรรคก้าวไกลเคยหาเสียงไว้

- ผลักดันข้อกฎหมายของพรรคการเมืองอื่น 

- ผลักดันกฎหมายที่เสนอจากประชาชน 

 

ซึ่งจะสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว เพราะ 4 ปีที่ผ่านมา ตำแหน่งของประธานสภาฯ มีความสำคัญมากแค่ไหนในการอำนวยความสะดวกหรือขัดขวางการออกกฏหมาย ดังนั้นพรรคก้าวไกลต้องมีตำแหน่งในส่วนนี้ 

 

นอกจากนี้จะผลักดันวาระการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย นำไปร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งเป็นวาระสำคัญที่พรรคร่วมรัฐบาลเห็นด้วยเช่นเดียวกันและถูกบรรจุไว้ใน MOU อยู่แล้ว 

ส่วนที่เมื่อวานนี้นายอดิศร เพียงเกษ อดีตโฆษกผู้นำฝ่ายค้าน ในฐานะว่าที่ สส. พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ไม่ควรกินรวบ อาจทำให้พรรคเพื่อไทยตัดสินใจไม่ร่วมรัฐบาลนั้น น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เชื่อมั่นพรรคเพื่อไทยน่าจะเล็งเห็นความหวังที่พี่น้องประชาชน มั่นใจพรรคเพื่อไทยจะไม่ถอนตัวและจะอยู่ร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลต่อไป ไม่ว่าจะมีตำแหน่งประธานสภาหรือไม่ก็ตาม จากการได้ลงนาม MOU ร่วมกันมาแล้ว พร้อมย้ำว่า พรรคก้าวไกลไม่มีการแทงข้างหลังแน่นอน ส่วนข้อกังวลต่างๆ สามารถพูดคุยกันได้

 

"การที่มี สส. มาเป็นอันดับ 1 จะขอตำแหน่งประธานสภาเพื่อเป็นประมุขในฝ่ายนิติบัญญัติด้วยก็ไม่ใช่เรื่องผิดแผนอะไร เพราะเราก็มีวาระชัดเจนว่า ขับเคลื่อนในฐานะมีตำแหน่งประธานรัฐสภาอย่างไร ซึ่งต้องมีการพูดคุยกันสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไร"

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล

น.ส.ศิริกัญญา ยอมรับ มีการพูดคุยวางตัว แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่คิดว่า มี สส.ของพรรคก้าวไกลหลายท่านที่มีความเหมาะสมดำรงตำแหน่งนี้ ไม่ใช่แต่เรื่องของการควบคุมการประชุมอย่างเดียวยังมีประเด็นเรื่องขับเคลื่อนฟื้นฟูประชาธิปไตยในฐานะประมุขฝ่ายนิติบัญญัติและกำกับดูแลสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเช่นเดียวกัน มั่นใจว่า พรรคก้าวไกลวุฒิภาวะมากพอ

 

ส่วนที่มีชื่อนายณัฐวุฒิ บัวประทุม จากพรรคเพื่อไทย หลุดออกมา คาดว่าเป็นเรื่องที่สื่อเกร็งกันว่าจะเป็นใคร ซึ่งยังไม่มีการตกลงใดๆทั้งสิ้นว่าจะเป็นใคร

 

ส่วนบางฝ่ายบอกว่าประธานสภาจะต้องเป็นคนที่มีประสบการณ์และมีอายุนั้น มองว่าอดีตเคยมีประธานสภา อายุน้อยหลายท่าน แต่ไม่คิดว่าเป็นประเด็นจนทำให้การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นยาก ถ้ายังคงยึดติดเรื่องอาวุโสและประสบการณ์มากเกินไป

 

ส่วนกรณีของนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว และนาวาอากาศตรี  ศิธา ทิวารี ที่ดูเหมือนจะมีความรุนแรงขึ้น น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่าคิดว่าทั้งคู่คนเป็นผู้ใหญ่มีข้อพิพาทกันก็จะสามารถคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ขณะนี้ทั้งสองฝ่าย อารมณ์เย็นลงพูดคุยกันและไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นปัญหาในการร่วมงานกันต่อไปในอนาคต หากนพ.ชลน่านอยากให้ก้าวไกลเป็นตัวกลาง ก็ยินดี 

 

ส่วนการที่ กกต. รับรองผลการเลือกตั้งได้เร็วขึ้น ทางพรรคก็จะเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วขึ้นจากเดิมที่คาดว่าไม่ต่ำกว่า 45 วัน โดยคาดการณ์ถ้าไม่มีปัญหาอื่นๆ มาแทรกว่ส น่าจะเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาลได้ข้อยุติภายใน 2 สัปดาห์น่าจะจบเรื่อง

 

ส่วนตำแหน่งในครม. ยังไม่มีการวางตัวเอง ตอนนี้เดินหน้าในคณะเจรจา และมีชื่อตัวเองติดโผด้วย ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นั้น หากเป็นมติของพระและพักมอบหมายไว้วางใจจนก็พร้อมรับตำแหน่ง