อดีต กกต. เล่านาที 'ยึดอำนาจ' 'รัฐประหาร' 22 พ.ค. 57
ย้อนตำนาน 'รัฐประหาร' 22 พ.ค. 66 สมชัย ศรีสุทธิยากร เล่านาที 'ยึดอำนาจ' โดยพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผย.ทบ.ในขณะนั้น
9 ปี รัฐประหาร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง เล่านาทียึดอำนาจ 22 พ.ค. 2557 ผ่านเฟซบุ๊ก จากหนังสือ กกต. ม.44 เขียนโดย สมชัย ศรีสุทธิยากรมีเนื้อหาว่า
ประมาณ 15.30 น. ทุกคนกลับมาอยู่ในห้องประชุม กกต.อีก 4 8น ถามว่าเขาว่าไปไหนมา เขาบอกว่าลงไปชั้นล่าง ประธานถามว่าแล้วเป็นอย่างไรบ้าง จึงบอกไปว่า สถานการณ์ไม่สู้ดี วันนี้น่าจะมีเรื่อง ประธานบอก ให้ใจเย็น ๆ รอดูกันไป เราไม่ใช่คู่ขัดแย้ง
ก่อนการประชุมจะเริ่มต่อ นายสุเทพ และนายจตุพรได้เดินมาข้างหลังพล.อ. ประยุทธ์ กระซิบกระซาบบางอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ พูดกับที่ประชุมว่า “เขาขอเวลาผม 2-3 นาที ที่ประชุมอนุมัตินะครับ” ที่ประชุม เฮ อีกครั้ง ด้วยบุคลิกที่น่ารักของท่าน
พล.อ.ประยุทธ์ นายสุเทพ และ นายจตุพร สามคนไปยืนคุยกันที่มุมห้องห่างออกไปจากผู้อื่น ไม่ได้ยินเสียงเขาคุยอะไรกัน แต่เห็นหน้าตาพยักเพยิด รับถ้อยรับคำกัน ต่อหน้า ผบ.ทบ.นายจตุพร ก็ดูพูดจาสงบเสงี่ยมเรียบร้อย ทั้งสามคนคุยกันแค่ 2-3 นาทีตามที่ขอ เสร็จทุกคนกลับมานั่งที่โต๊ะของตน
“เขามาบอกว่าห้องน้ำสโมสรสกปรก ใครน่ะดูแล ให้ปรับปรุงหน่อย”
ที่ประชุมฮาครืน ในคำพูดของ ผบ.ทบ. ไม่มีใครนึกว่า อีกไม่กี่นาที จะไม่มีเสียงหัวเราะอะไรอีกแล้ว
นาทีนี้ ผมขอยึดอำนาจ
“มันอึดอัดไปทั่วนะ จะไปทางนี้ก็ติด ทางโน้นก็ติด จะเลือกตั้งก็ไม่ได้ เลือกไปคนก็ไม่ยอมรับ รัฐบาลอยู่คนก็ชุมนุมประท้วง ไม่สงบเสียที แล้วจะเอายังไงกันดี” พลเอกประยุทธ์ เปรย
“ผมขอเสนอความเห็น ท่าน ผบ.ทบ. ประกาศกฎอัยการศึกแล้ว ตอนนี้เหมือนจมน้ำไปครึ่งตัว หากท่านตัดสินใจใช้กำลังทหารอีก ก็จะเหมือนจมน้ำเต็มตัว ท่านควรอาศัยการประกาศกฎอัยการศึกเพื่อผลักดันการเลือกตั้งให้สำเร็จ เพื่อให้ตัวเองพ้นมาจากน้ำ” นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ ตัวแทน นปช.กล่าว
“ไม่ต้องมาสอนผม เรื่องว่ายน้ำ ผมรู้ ผมว่ายเป็นตั้งแต่เด็กแล้ว” ที่ประชุมฮาครืนอีกครั้ง คุณวีระกานต์ ถึงกับเงียบไป
“รัฐบาล รัฐบาลจะทำอย่างไร ยอมลาออกไหม” พลเอกประยุทธ์ถามไปยัง คุณชัยเกษม ที่เป็นตัวแทนรัฐบาล
นายชัยเกษม นิติสิริ ตัวแทนรัฐบาล ตอบอย่างเหยาะแหยะไม่เต็มปากคำ เนื่องจากไม่ใช่ผู้มีอำนาจเต็มที่จะมาบอกว่ายอมลาออกหรือไม่ลาออก และอาจด้วยการประเมินสถานการณ์ผิดคิดว่า ทหารคงไม่ยึดอำนาจ “คงไม่ลาออกละครับ”
ทุกคนในที่ประชุมเริ่มนิ่งเงียบ กับคำถามเชิงรุกฆาตของ ผบ.ทบ. และเริ่มเดาเหตุการณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้นตามมา
พลเอกประยุทธ์ ถามไปยังคนอื่นๆ “ใครมีความเห็นอะไรไหม”
ทุกคนนิ่ง
“กกต. ล่ะ ส.ว. ล่ะ มีความเห็นอะไรไหม”
ประธาน กกต.เอามือแตะตักของผม ในเชิงปราม ซึ่งผมรู้ความหมายดี จึงตอบไปว่า “กกต.ไม่มีความเห็นครับ”
“ส.ว. ไม่มีความเห็นครับ” ประธาน สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย พูดประโยคเดียวกัน
“ว่าไง รัฐบาล จะยอมลาออกหรือเปล่า” คำถามรุกฆาตถูกถามออกไปเป็นครั้งที่สอง
นายชัยเกษม เอนตัวไปข้างหลังเป็นภาษาท่าทางเชิงป้องกันตัว แล้วตอบว่า “นาทีนี้ก็ยังคงไม่ลาออกหรอกครับ”
พลเอกประยุทธ์ ซึ่งนั่งอยู่หัวโต๊ะโน้มกายไปข้างหน้า “ถ้าเช่นนั้น ผมก็ไม่มีทางออก เพื่อให้บ้านเมืองสงบ นาทีนี้ผมขอยึดอำนาจ ทุกคนในห้อง อยู่ในห้องนี้แหละ ไม่ต้องไปไหน กกต.ไม่เกี่ยว ส.ว.ไม่เกี่ยว ออกไป”
เขารีบเก็บของเดินออกจากห้องประชุมพร้อม กกต. 4 คน ส่วนคณะของ สว.มีแค่สองคนล่วงหน้า ลงบันได และเตรียมรถตู้หนึ่งคันรับออกจากจากอาคารสโมสรไปอย่างรวดเร็ว
เหมือนฉากในภาพยนตร์ ขณะที่เรากำลังจะเดินออกจากห้องประชุม ทหารอาวุธครบในชุดพร้อมรบประมาณ 30 คน วิ่งเหยาะ ๆ สวนทางเข้ามาในห้องประชุม ยืนล้อมกรอบ รัฐบาล และผู้เข้าร่วมประชุมทุกคน
อำนาจอยู่ในมือเขาแล้ว