ข่าว

'กัณวีร์ สืบแสง' มีดีอะไร ทำไม 'พิธา' เลือก ปิดประตู ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ทำความรู้จัก 'กัณวีร์ สืบแสง' จากนักมนุษยชน สู่ นักการเมือง ปักธงรบชายแดนใต้ เปิดเหตุผล ทำไม 'พิธา' เลือก ปิดประตู ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย

ชื่อของ “พรรคเป็นธรรม” เป็นหนึ่งในลิสต์ 6 พรรคการเมือง ที่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ประกาศดึงเข้าเป็นพรรคร่วมรัฐบาล 310 เสียง ปิดประตูตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย

 

 

 

“กัณวีร์ สืบแสง” เป็น สส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 หนึ่งเดียวของพรรคเป็นธรรม ที่ประชาชนเทใจเลือก ฝ่าด่านพลังส้ม เข้ามาเป็นว่าที่ สส.ทำให้หลายคนโฟกัสมาที่ชื่อ “พรรคเป็นธรรม” และ “กัณวีร์ สืบแสง” เป็นใคร ทำไมเขาถึงเป็นผู้ถูกเลือกจาก แคนดิเดตนายกฯ จากก้าวไกล ให้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาล

 

กัณวีร์ สืบแสง

เส้นทางนักมนุษยชน

 

“กัณวีร์ สืบแสง” มีชื่อเล่นว่า นล เป็นคนรุ่นใหม่ ที่มีประสบการณ์ การทำงานด้านสิทธิมนุษยชนมาโดยตลอด เขาเป็นอดีตหัวหน้าสำนักงานภาคสนาม สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัย แห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ใน 8 ประเทศ เช่น ประเทศไทย (แม่ฮ่องสอน) เมียนมา บังคลาเทศ ซูดาน ซูดานใต้ และ ฟิลิปปินส์  มีประสบการณ์ทำงานด้านมนุษยธรรม ในพื้นที่สงคราม การช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ และผู้ลี้ภัย รวมถึงมีประสบการณ์ทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

 

กัณวีร์ สืบแสง

นอกจากนั้น “กันวีร์” ยังเป็นประธานมูลนิธิสิทธิเพื่อสันติภาพ ซึ่งจากประสบการณ์งานด้านมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชน ทำให้เขามีความตั้งใจที่จะผลักดันนโยบาย “สันติภาพกินได้” และ “มนุษยธรรมนำการเมือง” ตรงกับอุดมการณ์ของพรรคเป็นธรรม ที่อยากเห็น ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยต้องเป็นธรรม

 

กัณวีร์ สืบแสง

จากนักมนุษยชนสู่นักการเมือง

 

เมื่อปี 2565 กัณวีร์ สืบแสง เริ่มต้นงานการเมืองกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ได้รับการวางตัวให้เป็นว่าที่ผู้สมัคร สส.เขตสวนหลวง-ประเวศ กรุงเทพมหานคร แต่ยังไม่ได้ลงสมัคร เขาได้ตัดสินใจลาออกในปีเดียวกัน ก่อนที่จะลงมาทำงานภาคประชาชน ในนามมูลนิธิสิทธิเพื่อสันติภาพ โดยเป็นประธานมูลนิธิ ขับเคลื่อนด้านสิทธิมนุษยชนในจังหวัดชายแดนใต้ และประเด็นเรื่องผู้ลี้ภัย

 

 

และด้วยความเป็นคนชอบการเมืองมาตั้งแต่เด็ก เขาจึงเลือกเรียนด้านรัฐศาสตร์ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ตามที่เขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้ แต่เคยผิดหวังและหมดหวังกับการเมืองไทย เพราะคิดว่าอาจทำอะไรไม่ได้ จึงตัดสินใจสมัครไปทำงาน UNHCR

 

กัณวีร์ สืบแสง

 

กัณวีร์ เคยบอกว่า เหตุผลที่อยากมาทำงานการเมือง เพราะอยากจะนำประสบการณ์ในการช่วยเหลือผู้คนเหล่านี้มาร่วมสร้างไทย ในเวลาต่อมากัณวีร์ได้ย้ายมาร่วมงานกับพรรคเป็นธรรม ในตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรค และรองหัวหน้าพรรค ก่อนจะขึ้นสู่ตำแหน่งเลขาธิการพรรค และเป็นว่าที่ สส.ปาร์ตีลิสต์ หนึ่งเดียวที่ผ่านเข้ามาได้

 

กัณวีร์ สืบแสง

 

กางนโยบายพรรคเป็นธรรม

 

  • ยุบการปกครองส่วนภูมิภาค เห็นด้วยกับการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมาจากการเลือกตั้ง
  • พัฒนาเศรษฐกิจชายแดน
  • สร้างสันติภาพในปาตานี
  • ยกเลิกกฎหมายพิเศษทุกฉบับที่ใช้ในปาตานี
  • แก้ไขกฎหมายความมั่นคง
  • ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ
  • ปฎิรูปกระบวนการยุติธรรม
  • ปฎิรูปกองทัพ
  • ถอนทหารออกจากพื้นที่ปาตานี
  • ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร
  • ยุบ ศอ.บต.และ กอ.รมน.
  • สร้างรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า  เป็นต้น

 

 

ที่ผ่านมา กัณวีร์ สืบแสง มีบทบาทในการนำเสนอนโยบายด้านสิทธิมนุษยชน นโยบายระหว่างประเทศ และการสร้างสันติภาพชายแดนภาคใต้/ปาตานี จนเป็นที่ยอมรับ และพิธาได้กล่าวถึงความสามารถของเขา รวมทั้งสนใจในนโยบายสิทธิมนุษยชน และสันติภาพ นั่นจึงน่าจะเป็นเหตุผลเพียงพอ ที่ทำให้แคนดิเดตนายกฯ เลือก กัณวีร์ สืบแสง ว่าที่ สส.หนึ่งเดียวของพรรคเป็นธรรม ร่วมเป็นหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาล 

 

 

 

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก : กัณวีร์ สืบแสง Kannavee Suebsang

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ