'เลือกตั้ง 2566' หลังปิดหีบ จับ ซื้อเสียง 8 ฉีกบัตรเลือกตั้ง 23 ราย

หลังปิดหีบ “เลือกตั้ง 2566” ศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศลต.ตร.) รายงานสถานการณ์การลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ตลอดทั้งวัน พบ มีการซื้อสิทธิขายเสียง 8 ราย ฉีกบัตรเลือกตั้ง 23 ราย

 

 

 

พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงาน ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ศลต.ตร. เปิดเผยภายหลังปิดหีบเลือกตั้งว่า จากการเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์การลงคะแนนเสียง “เลือกตั้ง 2566” ตลอดทั้งวัน พบว่า มีการซื้อสิทธิขายเสียงทั้งสิ้น 8 ราย โดยพบพยานหลักฐานชัดเจน และดำเนินคดีไปแล้ว 4 ราย ส่วนอีก 4 ราย อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน เพื่อป้องกันการกลั่นแกล้ง ซึ่งกันและกัน

 

นอกจากนี้ ยังพบการฉีกบัตรเลือกตั้งทั่วประเทศ 23 ราย ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากผู้สูงอายุ เช่น เป็นผู้ป่วยอัลไซเมอร์ บางรายเมาสุรา หรือมีอุบัติเหตุหกล้มในคูหาเลือกตั้งจนบัตรฉีกขาด อีกรายเกิดจากการลงคะแนนผิด จึงฉีกบัตร เพื่อขอบัตรใหม่ ซึ่งตามกฎหมายไม่สามารถทำได้ จึงต้องทำการสอบสวนถึงสาเหตุที่แท้จริง แต่จากการสอบสวนผู้กระทำผิด ยังไม่พบว่าเป็นการตั้งใจก่อเหตุ เพื่อแสดงสัญลักษณ์ทางการเมือง รวมไปถึงมีการถ่ายภาพ 2 ราย และขายสุรา 6 ราย

 

 

อย่างไรก็ตาม ศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( ศลต.ตร.) จะเปิดไปจนถึงวันที่ 17 พ.ค. 2566 เพราะยังมีภารกิจที่จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เช่น การดูแลการนับคะแนนเสียง หรือ การขนหีบบัตร

 

ทั้งนี้ การป้องกันเหตุกระทบกระทั่งใน 4 จังหวัดที่มีการแข่งขันกันสูง และเคยมีคดียิงกันหลังการนับคะแนน ประกอบด้วย นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และราชบุรี นอกจากนี้ยังต้องเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงอีก 20 จังหวัดทั่วประเทศ

 

 

ส่วนกรณีที่มีประชาชนร้องเรียนเรื่องการกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้ง ผ่าน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ทางตำรวจจะนำข้อมูลเหล่านี้มาตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพราะขณะนี้ยังถือว่าเป็นข้อมูลด้านเดียวอยู่

 

 

ส่วนมือปืนรับจ้าง ที่มักจะก่อเหตุในช่วงก่อนการเลือกตั้งจนถึงวันเลือกตั้ง ปัจจุบันพบว่าน้อยลงกว่าเดิม เนื่องจากก่อเหตุยากขึ้น รวมทั้งทางตำรวจ มีข้อมูล และดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรม และอาวุธปืนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะก่อนเลือกตั้ง และคืนหมาหอน ที่มีการตั้งด่านจุดตรวจ จุดสกัดตามพื้นที่เสี่ยง จึงทำให้ ไม่มีการก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวเหมือนเช่นในอดีต และทำให้ตำรวจทำงานง่ายขึ้น