ข่าว

จี้ กกต. ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย คุณสมบัติ พิธา ถือหุ้นสื่อ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ส่อซ้ำรอย ธนาธร ประธานคณะกรรมาธิการการยุติธรรมฯวุฒิสภา จี้ กกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณี พิธา ถือหุ้นสื่อ

สมชาย แสวงการ ประธานคณะกรรมาธิการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนฯ วุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต. ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณีการถือหุ้นสื่อของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกและหัวหน้าพรรคก้าวไกล มีเนื้อหาว่า

คดีพิธา ถือหุ้นสื่อ itv 42,000หุ้นจะอ้างเรื่องการเป็นผู้จัดการมรดกตั้งแต่บิดาเสีย เมื่อ2549 ผ่านมา17 ปียังไม่ได้แบ่งมรดก ก็ยังปฏิเสธการเป็นผู้ถือหุ้น itv ไม่ได้ เพราะ



การเป็นเจ้าของหุ้น เริ่มตั้งแต่เจ้ามรดกเสียชีวิต หุ้นนั้นตกเป็นของทายาททันทีที่เจ้ามรดกเสียชีวิตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1599 เมื่อบุคคลใดตาย มรดกของบุคคลนั้นตกทอดแก่ทายาท

การที่นายพิธา อ้างว่า ไม่ใช่หุ้นของเขา เป็นกองมรดก เขาเพียงมีฐานะผู้จัดการมรดกนั้นจึงไม่ถูกต้อง....เพราะ

(1)นายพิธา คือหนึ่งในทายาทโดยธรรม หุ้นนั้นตกเป็นของนายพิธาและทายาทอื่นด้วยทันทีที่บิดาเสียชีวิต

(2)นายพิธา แสดงตนรับโอนหุ้นในฐานะผู้จัดการมรดกและ
ในฐานะทายาทโดยธรรมผู้มีสิทธิได้รับมรดกแล้ว
การเป็นเจ้าของหุ้นในส่วนของนายพิธา จึงสมบูรณ์แล้ว



บริษัท ITV แจ้งว่า ยังประกอบกิจการอยู่และมีรายงานแสดงผลของกิจการไม่ว่า จะขาดทุนหรือกำไรก็ตาม ทำให้ไม่สามารถวินิจฉัยเป็นอื่นได้ ว่า นายพิธา เป็นผู้ถือหุ้นสื่อ itv ที่เป็นสื่อมวลชน อันเป็นลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกับที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยคดีธนาธร ถือหุ้นสื่อมวลชนมวีลักซ์มีเดีย ทำให้ขาดคุณสมบัติและถูกตัดสิทธิทางการเมือง

 

การอ้างว่า ถือหุ้นข้างน้อยไม่อาจครอบงำกิจการได้ และจะต่อสู้ในเรื่องการขัดกันระหว่างคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญในอดีตกับคำวินิจฉัยศาลฎีกาปัจจุบันในคดีนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์หรือไม่นั้น  เป็นเรื่องที่ต่อสู้ได้

 

ส่วนที่ศาลจะเห็นชอบด้วยและวินิจฉัยตามข้อต่อสู้ด้วยหรือไม่
เป็นกรณีีที่ต้องไปต่อสู้กันดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต. จะต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาดเท่านั้น

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ