ยังไม่ได้หมั้นหมายกับใคร เพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง กังวล ตกปลาบ่อเดียวกัน ทำการเมืองกลับไปเหมือนปี 62
การร่วมรัฐบาลระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย ยังคงเป็นทางเลือกการจัดตั้งรัฐบาลที่ดีที่สุดสำหรับประเทศในตอนนี้ เป็นคำพูดของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2566 ได้รับการตอกย้ำอีกครั้ง เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา จากเวทีดีเบต ระหว่าง เขากับนายแพทย์ สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ตัวแทนผู้ทรงอิทธิพลจากพรรคเพื่อไทย แม้ทั้งคู่จะถูกกำหนดให้อยู่นอกเวทีการเมือง ไปแล้ว
กระแสตอบรับในโลกออนไลน์ทำให้พรรคก้าวไกลออกอาการฮึกเหิมผุดแฮทแท็กซ์ สู้แลนด์สไลด์ ด้วยแฮทแท็กซ์ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน สร้างการรับรู้ในหมู่คนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการฉีกรูปแบบการหาเสียง แบบเดิมๆมาเป็นการลุยเดี่ยว ทั้งเดินเท้า จักรยาน และการลอยห่วงยางหาเสียงทางน้ำ เดินหน้าตามวาทกรรม ขอโอกาสเปลี่ยนประเทศ
ถามว่าพรรคเพื่อไทยหวั่นไหวหรือไม่ คำตอบคือหวั่นไหว แต่ไม่มาก สังเกตได้จาก ทันทีที่ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ประกาศความชัดเจน ไม่จัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องกับการทำรัฐประหาร แล้วแถมพ่วงด้วยการกำชับผู้สมัคร สส. ใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียทำความเข้าใจในนโยบายของพรรคเพิ่มขึ้น
ต้องยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยมีผู้สมัครฯ ที่มีความหลากหลาย วิธีสื่อสารนโยบาย จึงไม่สามารถเดินตามพรรคก้าวไกลได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่แกนนำพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า ผู้สมัครฯของพรรคทุ่มเทกับลงพื้นที่มากกว่า แปดสิบเปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะในพื้นที่เป้าหมาย คือคำตอบของโพลพรรคในรอบแรกที่ยังยืนตัวเลขอยู่ที่ 250 ที่นั่ง และจะมีการประเมินอีกครั้งสิ้นเดือนเมษายนนี้
ยิ่งสังคมกำลังมองว่ามีสัญญาณการจับมือกันกับพรรคก้าวไกล ในขณะที่บริบทการเมือง ปัจจุบัน มีการแข่งขันภายในระหว่างฝั่งอนุรักษ์นิยม กับ ฝ่ายประชาธิปไตย นี่กลับกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้พรรคเพื่อไทยหวั่นไหวมากกว่า
หวั่นไหวประการที่ 1 ว่า ผลจากการแย่งจับปลาในบ่อเดียวกัน เก้าอี้ที่วาดหวังนั้น จะยังอยู่ในฝ่ายเดียวกันหรือไม่ หวั่นไหวประการต่อมา หากเก้าอี้นั้นยังอยู่ในฝ่ายประชาธิปไตย การมีพรรคร่วมรัฐบาล แบบที่พรรคภูมิใจไทยกระทำกับพรรคพลังประชารัฐ ย่อมไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดี เรื่องนี้ แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า พรรคต้อมีเก้าอี้สส.มากกว่า ในระดับที่ว่า พรรคร่วมไม่สามารถต่อรองหรือกดดันได้
แต่หากเก้าอี้ ตกไปอยู่ในฝ่ายตรงข้าม การจัดตั้งรัฐบาลแบบที่เกิดขึ้นหลังการในปี 2562 ก็คือผลที่จะตามมา นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้พรรคเพื่อไทย หวั่นไหวว่า จะเลยเถิด จนทำให้เกิดการยุบพรรค ซึ่งพรรคเพื่อไทย ยอมรับว่า ดำเนินการทุกอย่างเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ด้วยความระมัดระวัง แม้กระทั่งจำนวนป้ายหาเสียง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง