ข่าว

'พปชร.' แถลงนโยบายเตรียมสร้างรถไฟทางคู่ บึงกาฬ-อู่ตะเภา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'พปชร.' แถลงนโยบายเตรียมสร้างรถไฟทางคู่ บึงกาฬ-อู่ตะเภา 'พล.อ.ประวิตร' พร้อมทำทันทีหากเป็นรัฐบาล ย้ำไม่ต้องห่วงงบประมาณ ด้าน 'สันติ' แซะ ไม่เห็นพรรคอื่นพูดนโยบายพัฒนา เห็นแต่ขอแลนด์สไลด์

วันที่ 20 เม.ย. 2566 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค พล.อ.ธัญญา เกียรติสาร กรรมการบริหารพรรค เปิดนโยบาย "อีสานประชารัฐ" พัฒนาภาคอีสานด้วยรถไฟทางคู่ บึงกาฬ-อู่ตะเภา

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จะพัฒนาภาคอีสานและภาคตะวันออกให้เป็นรถไฟทางคู่ จาก จ.บึงกาฬ - ท่าเรือแหลมฉบัง – ท่าเรือมาบตาพุด – สนามบินอู่ตะเภา จ.ระยอง สอดรับกับการพัฒนาพื้นที่พิเศษภาคตะวันออก(EEC) โดยจะผ่าน 13 จังหวัด ได้แก่ จังหวัด บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา สระแก้ว ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และยังเชื่อมต่อ 11 จังหวัดได้แก่ จังหวัดหนองคาย ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม มุกดาหาร อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร ศรีษะเกษ มหาสารคาม และหนองบัวลำภู ระยะทางรวมประมาณ 480 กม. เมื่อได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะดำเนินโครงการทันที เพราะสำรวจเส้นทางเรียบร้อยแล้ว เป็นแนวคิดที่จะทำมาแล้วหลายปี ย้ำไม่ต้องห่วงเรื่องงบประมาณ สามารถดำเนินการได้แน่นอน 

พล.อ.ประวิตร เชื่อว่า โครงการรถไฟทางคู่ บึงกาฬ-อู่ตะเภา จะทำให้ชาวอีสานมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ทำเพื่อคนอีสานโดยเฉพาะ จะได้มีงาน สร้างงาน สร้างอาชีพให้คนอีสาน น้ำเขาก็น้อย การเกษตรก็มีข้อขัดข้องเยอะ คนอีสานออกมาทำงานต่างจังหวัดทั้งนั้น ส่วนภาคอื่นอย่าพึ่งถาม เอาให้ภาคอีสานเจริญ เพราะมีทั้งหมด 133 เขต คิดเป็น 1 ใน 3 ของประเทศ

นายสันติ พร้อมพัฒน์ ด้านนายสันติ กล่าวว่า เราจะพัฒนาภาคอีสานของเราให้ทันต่อโลก เนื่องจากแต่ละพรรคการเมือง มีแต่ที่จะขอแลนด์สไลด์ จากชาวภาคอีสานทั้ง 20 จังหวัด และภาคตะวันออก 5 จังหวัด แต่ไม่เคยเห็นพรรคการเมืองใดเลยที่คิดว่าจะพัฒนาภาคอีสานให้พ้นความยากจนหรือนำเงินลงทุนมหาศาลไปพัฒนา ซึ่งไม่มีเลย มีแต่พรรคพลังประชารัฐตลอดระยะเวลาเกิน 20 ปี ภาคอีสานไม่ได้รับการพัฒนาใดๆ เลย หรือได้รับการพัฒนาอย่างเชื่องช้า จึงขอแรงใจทั้ง 133 เขตเลือกเราเข้าไปในสภาจะไปยกมือสนับสนุนให้ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าโครงการเหล่านี้ทำจริง ทำทันที

 

สำหรับรถไฟรางคู่แบบใหม่ที่เราจะทำนั้น จะมีรางขนาด 1.435 ม. มาตรฐานเดียวกับรถไฟความเร็วสูง จะมีการสร้างทางหลวงพิเศษ 8 ช่องจราจร ตลอดแนวเส้นทางรถไฟ จะมีการสร้างนิคมอุตสาหกรรม ขนาด 20,000 ไร่ 6 แห่ง กว่า 6,000 โรงงาน โดยเป็นนิคมอุตสาหกรรมนำสมัย นอกจากนี้จะมีการสร้างวิทยาลัยอาชีวะใกล้นิคมอุตสาหกรรม นิคมฯละ 2 แห่ง รวม 12 แห่ง เพื่อเตรียมแรงงานที่มีทักษะและคุณภาพรองรับอุตสาหกรรมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และมีโครงการพัฒนาท่าเรือบก ซึ่งจะเป็นพื้นที่รองรับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากนิคมอุตสาหกรรมที่จัดตั้งขึ้นก่อนที่จะมีการขนส่งไปยังท่าเรือน้ำลึกที่ภาคตะวันออก

ส่วนงบประมาณที่จะใช้ในการพัฒนาโครงการนี้ โดยเฉพาะการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม ทางการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจะเป็นผู้ดำเนินการ โดยการดึงดูดนักลงทุนมาจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมที่ตั้งเป้าหมายไว้ คาดว่าจะสามารถดึงดูดเงินลงทุนเข้าประเทศไทย 4.5 ล้านล้านบาท โดยรัฐจะเป็นผู้เวนคืนที่ดินที่ต้องใช้ในการพัฒนานิคมแต่ละนิคมประมาณ 2 หมื่นไร่ เพื่อรองรับโรงงานประมาณ 1 พันโรงงาน โดยแต่ละโรงงานจะใช้เงินลงทุนประมาณ 750 ล้านบาท ทั้งนี้ มีหลายประเทศสนใจที่จะมาตั้งนิคมอุตสาหกรรมและดึงโรงงานเข้ามาประมาณ 1 แห่ง อาทิ จีน และประเทศในยุโรปที่สนใจเข้ามาตั้งโรงงาน

โดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค ยืนยันยื่นนโยบายดังกล่าวต่อคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

พรรคพลังประชารัฐแถลงข่าวเปิดนโยบาย "อีสานประชารัฐ"

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ