'สุชาติ' เดือดลุกชี้หน้า-ปะทะคารม ‘ธนาธร’ กลางเวทีดีเบตเนชั่นเมืองพัทยา
‘สุชาติ ชมกลิ่น” เดือดกลางเวทีดีเบตเนชั่นที่พัทยา ชี้หน้า-ปะทะคารมกับ ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ ทั้งปมนโยบายและปมนักการเมืองรับใช้เผด็จการณ์
เวทีดีเบตนโยบายภาคตะวันออก ซึ่งจัดโดยเครือเนชั่น ภายใต้โครงการ “Road to The Future : เลือกตั้ง 66 อนาคตประเทศไทย” ที่ศาลากลางเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ช่วงค่ำวันนี้(8เม.ย.2566) สุดเดือด เมื่อ “นายสุชาติ ชมกลื่น จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ปะทะคารมจนถึงขั้นชี้หน้า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จากพรรคก้าว ทั้งในรอบดีเบตนโยบายและรอบก่อนปิดเวที
โดยในรอบแรก เป็นรอบที่เปิดให้แต่ละพรรคพูด 5 นาที ถึงนโยบายที่จะทำเพื่อภาคตะวันออกและคนไทย ปรากฏว่า เมื่อถึงคิวของ นายสุชาติ ชมกลิ่น กรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ พรรครวมไทยสร้างชาติ ลุกขึ้นพูด ได้เล่าถึงรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ประคองสถานการณ์โควิดด้วยการทำ “แฟกตอรี่แซนด์บ็อก” เพื่อประคองอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการส่งออก ทำให้เกิดการรักษาการจ้างงาน จนทำให้ตัวแทนจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ชื่นชมประเทศไทย
“ท่านเชื่อหรือไม่มื่ออาทิตย์ที่แล้วสภายานยนต์แห่งประเทศไทยตกลงโบนัสกัน ขออนุญาตเอ่ยชื่อ อีซูซุ โบนัส 8.5 เท่า เงินอีก 3.5 หมื่นบาท โตโยต้าเงินโบนัส 7.5เท่า เงินอีก 3.8 หมื่นบาท นี่แค่ 2 บริษัทนะครับ ถ้าเขาไม่มีกำไรเขาไม่มีโบนัสแน่นอน เพราะนโยบายแฟคตอรี่แซนด์บ็อกซ์”
แต่ทว่ารอบถัดมาเป็นรอบของดีเบตนโยบาย ซึ่งเป็นคำถามที่ถามถึงนโยบายการเข้าถึงการศึกษาทุกช่วงวัย ที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นผู้ได้บอกถึงนโยบายนี้ ซึ่งหลังจากนายธนาธร บอกเล่าถึงนโยบายการศึกษาเสร็จสิ้น นายธนาธร ได้พาดพิงนายสุชาติที่เล่าถึงการแจกโบนัสของบริษัทรถยนต์ก่อนหน้านี้
“อยากบอกพี่น้องประชาชนครับ ว่าการจ่ายโบนัสของค่ายรถยนต์เขาจ่ายกัน 8 เดือน 10 เดือนเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ใช่ผลงานใครเป็นพิเศษ และอัตราการว่างงาน 0.75% เป็นแบบนี้มานานแล้วไม่ใช่ผลงานใครคนหนึ่งเช่นกันครับ”
ทำให้จากนั้นนายสุชาติ ขอใช้สิทธิ์พาดพิงโดยตอบว่า “ว่าที่คุณธนาธรพูดเนี่ย อาจจะฟังจากพวกที่ให้ข้อมูลคุณ ผมจะบอกว่าถ้าเราไม่แก้ปัญหาโควิด ไม่รักษาการจ้างงาน ไม่รักษาออเดอร์ส่งออกจะมีแบบวันนี้ไหม ให้ทบทวนความคิด”
จากนั้นนายธนาธร นั่งฟังแล้วยิ้มและขอตอบกลับว่า “ท่านรัฐมนตรีครับ ผมอยู่ในอุตสาหกรรมนี้มา 20 ปี ท่านรู้ไม่สู้ผมหรอกครับ และอัตราการว่างงานที่บอกก็หาดูได้จากหน่วยงานรัฐทั่วไป ไม่ต้องเชื่อผมก็ได้”
และตอนท้ายก่อนปิดเวทีดีเบตผู้ดำเนินรายการให้เวลาคนละ 1 นาที เพือบอกเหตุผลว่า ทำไมคนไทยถึงต้องเลือกพรรคของคุณ
ปรากฏว่า นายประวัฒน์ อุตตะโมช รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย บอกว่าพรรคเราตั้งขึ้นมาเพื่อยุติความขัดแย้ง ไม่มีใครเด่นเท่าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ท่านไม่เคยทะเลาะใคร ใครที่บอกว่าจะก้าวข้ามความขัดแย้ง ขั้วซ้ายก็ติดล็อก ขวาก็รู้อยู่ว่าเป็นยังไง ใครเป็นยังไงเรารู้กันดี เบอร์ 32 พรรคไทยสร้างไทยจะยุติความขัดแย้งให้ประชาชนอยู่แบบมีศักดิ์ศรี"
ด้าน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ บอกว่า "ให้โอกาสลุงป้อมเป็นนายก ลุงป้อมจะทำให้บ้านเมืองเข้มแข็งแน่นอน พรรคเราส่งคนมีคุณภาพทุกเขตรับใช้ประชาชน เราพร้อมทำงานรับใช้ประชาชน เมื่อได้สส.มีคุณภาพ อะไรที่เป็นปัญหาจะแก้และหาทางออกให้สังคม ลุงป้อมจะก้าวข้ามความขัดแย้ง คิดต่างกันได้ เราไม่สามารถทำให้ทุกคนรักกันได้ ลุงป้อมจะพาประชาชนอยู่ดีกินดีให้ได้ครับ"
ขณะที่นายธนาธร บอกว่า อนาคตของประทศไทยไม่ใช่เรื่องการทะเลาะกับใครเท่านั้น แต่ประเทศไทยต้องเป็นประชาธิปไตย เป็นทางออกทางเดียว ไม่มีรัฐประหารอีกในอนาคต แต่ที่เรามีประชาธิปไตยไม่ได้ เพราะเรามีนักการเมืองกลุ่มหนึ่งที่รับใช้เผด็จการทั้งทางตรงหรือทางอ้อม ทำให้เผด็จการณ์ไม่สูญหายไปจากไทย ขอโอกาสก้าวไกลกาทั้ง 2 ใบครับ
และหลังจากนายธนาธรพูดจบปรากฏว่านายสุชาติ ชมกลิ่น ลุกขึ้นมาตอบโต้ทันที “คุณธนาธรพาดพิงนักการเมืองทั้งประเทศ ถ้าคุณไม่ชอบนักการเมืองคุณก็อย่าเป็นนักการเมือง นักการเมืองคือคนที่เสียสละให้ประชาชน”
นายธนาธร ตอบโต้ทันทีว่า นักการเมืองทำไมถึงมีเกียรติรู้ไหมครับ เพราะเป็นอาชีพเดียวที่แต่งตั้งโดยประชาชนโดยตรง แต่งตั้งได้โดยตรงก็เพราะมีประชาธิปไตย นักการเมืองที่ไม่เคารพประชาธิปไตย คือนักการเมืองที่ไม่เคารพจริยธรรมของตัวเอง”
นายสุชาติ ลุกขึ้นยืนพร้อมกับชี้หน้ากล่าวสวนกลับมาทันทีว่า “แล้ววันนี้มันไม่มีประชาธิปไตยตรงไหน ถามหน่อย” นายธนาธร ตอบทันทีว่า “สว. 250 คนเป็นประชาธิปไตยตรงไหน แล้วที่กกต.เปลี่ยนสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์นี่ถูกต้องไหมครับ กกต.แต่งตั้งโดยใครครับ”
ชมคลิปบางช่วงบางตอน คลิกที่นี่
ต่อมา วันที่ 9 เมษายน 2566 "นายสุชาติ ชมกลิ่น" กรรมการกำหนดแนวทางยุทธศาสตร์ และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ "พรรครวมไทยสร้างชาติ" เปิดเผยผ่าน"ผ่าสมรภูมิเลือกตั้ง เนชั่นทีวี" ถึงเหตุการณ์"เวทีดีเบตเนชั่น" นโยบายหาเสียง ฟังนโยบายภาคตะวันออก ซึ่งเชิญแกนนำ 8 พรรคการเมืองร่วมเวทีดังกล่าว ภายใต้โครงการ "Road to The Future : เลือกตั้ง 66 อนาคตประเทศไทย" จัดโดย "เครือเนชั่น" เมื่อเย็นวันที่ 8 เมษายน 2566 จนเกิดเหตุปะทะคารมเดือด กับ"นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ถึงขนาดผู้ดำเนินรายการต้องปิดไมค์
"นายสุชาติ" กล่าวว่า สถานการณ์บนเวทีถ้าเป็นการการดีเบต แสดงวิสัยทัศน์ของแต่ละพรรคก็ว่ากันไป แต่ไม่ใช่มาด้อยค่าสถาบันการเมืองด้วยกัน
"ผมฟังแล้วมีความรู้สึกของขึ้น ที่มาพาดพิงนักการเมืองไม่เป็นประชาธิปไตยรับใช้เผด็จการ นักการเมืองพวกนี้เป็นขี้ข้าเผด็จการ ผมต้องถามกลับว่า ไม่เป็นประชาธิปไตยตรงไหนผ่านการเลือกตั้งกันมา แล้วเราเป็นนักการเมือง ไม่ว่าเป็นฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาล คนมาด่านักการเมืองนั่งทนดูได้ไง ต้องถามเขากลับว่า นักการเมืองไม่ดี ไม่เป็นประชาธิปไตยจะมาเป็นนักการเมืองทำไม แล้วมาโบ้ยว่าสว. 250 คน เกี่ยวอะไร คราวที่แล้วโหวตเลือกนายกฯก็ใช้เสียง ส.ส. 253 ก็ชนะ”
"นายสุชาติ" กล่าวต่อไปว่า "นายธนาธร" ยังมาบอกว่า กกต.มาแก้คะแนนให้ก็ไปคุยกับกกต.สิ เกี่ยวอะไรกับนักการเมือง คนละประเด็น