ข่าว

'ประชาธิปัตย์' ยึดมั่นประชาธิปไตย ใครรวมเสียงได้มาก จัดตั้งรัฐบาล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'ประชาธิปัตย์' ยึดมั่นประชาธิปไตย เคารพประชาชน ใครรวมเสียงข้างมากได้ จัดตั้งรัฐบาล พรรคชนะอาจเป็นฝ่ายค้าน ส่วน ทักษิณ กลับบ้านได้ไม่มีใครห้าม แต่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังเข้าร่วมสังเกตการณ์ปชป.ทำไพรมารีโหวตของผู้สมัคร สส. กทม. ที่โรงแรมบลิซ โฮเทล ลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร

ผู้สื่อข่าวถามถึงข่าวว่า นายทักษิณ ชินวัตร ต้องการกลับประเทศไทยนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ความจริงแล้วก็กลับประเทศได้อยู่แล้วถ้าจะกลับ ไม่มีใครสามารถไปห้ามไม่ให้กลับได้ เพียงแต่เมื่อกลับมาแล้วก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าต้องทำอะไรอย่างไร

 

พร้อมกับได้ให้ข้อสังเกตว่า นายทักษิณนั้นออกมาพูดในช่วงที่กำลังมีการเลือกตั้งเท่านั้นเอง ส่วนข้อเท็จจริงก็คือไม่มีใครไปห้ามไม่ให้กลับได้ เพราะตัวนายทักษิณเองก็สามารถกลับมาได้อยู่แล้ว เพียงแต่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

 

ส่วนที่ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงเรื่องการจับขั้วเพื่อรวมเสียงข้างมากในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น นายจุรินทร์ตอบว่า สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ มีหลักที่ได้ประกาศไปแล้วว่า เรายึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งเป็นประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา ใครรวมเสียงข้างมากได้คนนั้นก็เป็นรัฐบาล ที่เหลือก็เป็นฝ่ายค้าน 

 

เพราะฉะนั้นจึงขึ้นอยู่กับเสียงประชาชนหลังการเลือกตั้งว่า พรรคไหนจะได้เท่าไหร่ แล้วใครจะไปรวมกับใคร กลายเป็นเสียงข้างมากเสียก่อน เพราะฉะนั้นต้องนับหนึ่งที่การเลือกตั้ง ส่วนการจับขั้วนั้นสามารถทำได้ แต่จะเกิดจริงได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับมือประชาชน ใครจะไปจับกับใครอย่างไรก็จับได้ แต่สุดท้ายประชาชนเป็นผู้ให้คำตอบ 

 

ประชาธิปัตย์จึงบอกว่า เมื่อเรายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย เราก็เคารพประชาชน เพราะฉะนั้นต้องให้ประชาชนเป็นคนแรกที่ให้คำตอบก่อน ว่าเขาจะให้พรรคไหนเท่าไหร่ และเมื่อถึงเวลานั้น พรรคก็จะพิจารณาว่าจะตัดสินใจทางการเมืองอย่างไร โดยอาศัยที่ประชุมพรรค และต้องเป็นมติด้วย

 

“ประชาธิปัตย์นั้นเป็นประชาธิปไตยตัวจริง ตัวจริงทั้งประชาธิปไตยในพรรค และประชาธิปไตยนอกพรรคในระบบประชาธิปไตยสากล นี่คือสิ่งที่เรายึด ใครจะไปจับกับใครก็เป็นเรื่องของพรรคนั้น แต่ประชาธิปัตย์ยังไม่ได้ไปจับกับใคร จึงตั้งหลักไว้ชัดเจนแล้วว่า ก็ต้องรอผลการเลือกตั้ง และเมื่อประชาชนให้คำตอบแล้ว เราก็จะตัดสินใจ เพราะต้องนับหนึ่งด้วยการเคารพเสียงประชาชนก่อน” นายจุรินทร์กล่าว

 

ในการรวมเสียงข้างมากนั้น ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นที่เท่าไหร่รวมกับที่เท่าไหร่ แต่อยู่ที่ว่าเมื่อรวมเสียงประชาชนทั้งหมดแล้วใครมากกว่า เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะได้ที่เท่าไหร่ก็สามารถตั้งขั้วหรือจับขั้วรวมกันเป็นรัฐบาลได้ แต่ไม่ได้หมายความว่า ได้รับเลือกตั้งมาเป็นที่ 1 ที่ 2 จะเป็นรัฐบาล ที่ 3 ที่ 4 เป็นฝ่ายค้าน เพราะในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว พรรคที่ได้คะแนนมาเป็นลำดับ 1 ก็เป็นฝ่ายค้าน ซึ่งก็เกิดขึ้นได้เพราะการรวมเสียง ดังนั้นประชาธิปัตย์ก็มีโอกาสที่จะได้รับเสียงที่อยู่ในระดับที่สามารถรวมเสียงกับพรรคการเมืองอื่นเพื่อตั้งรัฐบาลได้เช่นกัน

 

“สถานการณ์การเมืองตอนนี้ หลายพรรคก็ลงมาในขนาดที่พอๆ กัน หรือใกล้เคียงกัน อาจจะยกเว้นบางพรรคที่เสียงอาจจะโด่งไปบ้าง แต่ที่เหลือเสียงก็ใกล้ๆ กัน อาจจะมากน้อยแตกต่างกันอยู่ที่มือประชาชนนั่นแหละ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าประชาธิปัตย์จะไม่มีโอกาส และประชาธิปัตย์ก็มีโอกาสในการที่จะไปรวมเสียงข้างมากได้ ถ้าเราได้เสียงมากพอ แล้วก็มั่นใจว่าเที่ยวนี้เราจะได้ดีกว่าเดิมในทุกภาค ทั้งปักษ์ใต้ กรุงเทพมหานคร ภาคกลาง ภาคเหนือ อีสาน ในหลายจังหวัดมีเสียงตอบรับดีมาก และผู้สมัครของเราก็มีโอกาสได้รับเลือกตั้งเช่นกัน” นายจุรินทร์กล่าว

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ