
6 'พรรคการเมือง' หนุนซอฟต์พาวเวอร์ไทย
'พรรคการเมือง' ประสานเสียง หนุนซอฟต์พาวเวอร์ไทย สร้างเม็ดเงินบูม 'เศรษฐกิจ' ขับเคลื่อนประเทศไทยหลังได้รัฐใหม่
"เครือเนชั่น" กรุ๊ป จัดเวที "อนาคตประเทศไทย SOFTPOWER ขับเคลื่อนประเทศ" โดยเชิญผู้ประกอบการเสนอแนวทางการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ อาทิ สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย SACIT, สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA และตัวแทนพรรคการเมือง 6 พรรค เข้าร่วมรับฟังและนำเสนอนโยบายผลักดัน SOFTPOWER สู่ระดับโลก
สำหรับตัวแทนพรรคการเมืองต่างนำเสนอนโยบายไปในทิศทางเดียวกันซอฟต์พาวเวอร์เป็นโยบายที่สำคัญและจำเป็นต้องทุ่มเงินสนับสนุนอย่างจริงจัง โดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า เสนอว่า ประเทศไทยมีจุดแข็งคือซอฟต์พาวเวอร์ พรรคชาติพัฒนากล้าจึงมีนโยบายกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจด้วยการนำพลังของคนไทยมาสร้างความยั่งยืน เช่น การท่องเที่ยวสายมูเตลู การส่งออกวัฒนธรรมอาหารป้อนโลก ซึ่งจะสร้างพลังทางเศรฐกิจด้านท่องเที่ยวได้ 5 ล้านล้านบาท
ก่อนหน้านี้ทางพรรคได้เปิดนโยบายโคราชโนมิกส์ เพื่อให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นระเบียงเศรษฐกิจใหม่ เน้นการท่องเที่ยว ใช้ซอฟต์พาวเวอร์เป็นแรงสนับสนุน พร้อมกับสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สร้างมูลค่าเพิ่ม ยกตัวอย่าง เมื่อกินอาหารไทย ดูมวยไทย อยากมาเมืองไทย ดูมิสยูนิเวิร์สแล้วอยากมาดูผ้าไหมไทย โดยจะจัดตั้งกองทุนสนับสนุนซอฟต์พาวเวอร์ 1 หมื่นล้านบาท
ด้าน น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมืองกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ประชาธิปัตย์มีนโยบายกองทุนไอเดียสร้างสรรค์ จะมีการพัฒนาทุนมนุษย์ให้ประชาชนพัฒนาทักษะ มหาวิทยาลัยไม่ควรจำกัดช่วงอายุของการศึกษา แต่ควรจะให้ประชาชนทุกช่วงวัยได้รับโอกาส และพรรคประชาธิปัตย์จะผลักดันเรื่องโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งทุนได้ เพราะแม้มีความคิดสร้างสรรค์ก็ไม่สามารถเดินไปขอสินเชื่อจากธนาคารได้ ทำให้ขาดโอกาสในการเติบโตต่อไปในอนาคต
นอกจากนี้ เม็ดเงินจากกองทุนไอเดียสร้างสรรค์จะนำมาต่อยอด ต่อโอกาสอย่างเท่าเทียมให้กับประชาชนทุกคน และการสร้างเม็ดเงินในอุตสาหกรรมบันเทิง ยังจะก่อให้เกิดการจ้างงานอีกจำนวนมาก
สำหรับการส่งเสริมอาชีพนวดแผนไทยถือเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมไทย พรรคประชาธิปัตย์มีนโยบายการส่งเสริม 3 เรื่อง คือ 1. การทำให้วัฒนธรรมไทยไปสู่สายตาทั่วโลกผ่านอุตสาหกรรมบันเทิง 2. สนับสนุนทุนมนุษย์ในการทำให้คนไทยสามารถไปพัฒนาทักษะต่างๆ 3. สนับสนุนเม็ดเงินผ่านกองทุนไอเดียสร้างสรรค์ เพื่อให้ประชาชนที่มีความคิดสร้างสรรค์สามารถเข้าถึงแหล่งทุน ก่อธุรกิจสตาร์ทอัป สร้างรายได้ให้ประเทศ
"ขอย้ำว่าการส่งเสริมนวดแผนไทย หนีไม่พ้นที่จะต้องทำให้วัฒนธรรมไทยเป็นที่ต้องตาต้องใจชาวต่างชาติให้ได้ ผ่านอุตสาหกรรมบันเทิง การให้ทุนมนุษย์เพื่อพัฒนาทักษะ และการสนับสนุนเม็ดเงินจากกองทุนไอเดียสร้างสรรค์" น.ส.วทันยา ระบุ
น.ส.วทันยา กล่าวถึงการปรับภาพลักษณ์ไม่ให้ชาวต่างชาติมองพัทยาเป็นเหมือนพัฒน์พงศ์ ว่า ไม่อยากให้มองว่า พัทยาหรือพัฒน์พงศ์เป็นเพียงภาพลักษณ์ที่แย่เพียงอย่างเดียว แต่อยากให้ตั้งคำถามว่า เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้อย่างไร
นายอภิสิทธิ์ ไล่ศรัตรูไกล ตัวแทนพรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคก้าวไกลจะสนับสนุนให้อุตสาหกรรมสร้างสรรค์เป็นอุตสาหกรรมระดับชาติ โดยจะปรับเปลี่ยนโครงสร้างงบประมาณใหม่ สร้างสวัสดิการให้แรงงานให้ดีกว่าเดิม เพราะหากแรงงานเชิงสร้างสรรค์ไม่มีความมั่นคง จะไม่สามารถมีความคิดเชิงสร้างสรรค์ได้ พร้อมแปลงพื้นที่ว่างบางพื้นที่ให้เป็นสถานที่ทดลองในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาความรู้ของคนไทย
ขณะเดียวกัน จะต้องจัดตั้งกองทุนเชิงสร้างสรรค์ โดยปรับเนื้อหาของกองทุนให้กว้าง และหลากหลายมากขึ้น จากนั้นจะเพิ่มเงินในกองทุน เพื่อให้คนที่สนใจสามารถกู้ยืมเงินได้ แต่ก็ต้องแก้กฎหมายที่ล้าหลัง เพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัย
น.ส.จิราพร สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย เสนอว่า พรรคเพื่อไทยต้องการที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจโดยมีนโยบาย 3 ส่วน 1. พัฒนาทุนมนุษย์ 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์เพื่อยกระดับแรงงานไทย สร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง พร้อมสร้างระบบการเรียนรู้ เข้าอบรม พัฒนาศักยภาพของตัวเอง ทั้งในระดับพื้นฐาน ระดับอาชีพ และมีระบบคัดกรองศักยภาพของแต่ละคน ซึ่งพรรคเพื่อไทยอบรมให้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
2. สร้างระบบอีโคซิสเตม และจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาดูแล เพื่อผลักดันนโยบายซอพท์พาวเวอร์ เพื่อให้มีการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน ดึงคนที่มีความรู้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาอุตสาหกรรมต่างๆ และ 3. การนำซอฟต์พาวเวอร์ออกไปสู่ต่างประเทศ ต้องมีนักการทูตไทยที่มีความพร้อมช่วยขับเคลื่อนโอกาสของประเทศไทย
ด้านนายนิกร จำนง ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา เสนอว่า จะจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูซอฟต์พาวเวอร์ แต่ไม่ใช่ส่งเสริมเรื่อยเปื่อย สิ่งที่ต้องระวังอย่าให้ซ้ำรอยเกาหลีใต้ ที่ซอฟต์พาวเวอร์เข้มแข็ง แต่พบว่ารายได้เข้าบริษัท ต้องให้รายได้กระจายไปถึงมือ
ตัวแทนพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันมีกฎหมายว่าด้วยการรักษามรดกทางภูมิปัญญา มีการให้งบประมาณแต่น้อยมาก ดังนั้น ต้องเพิ่มกองทุน สำหรับนโยบายของพรรคต้องการสร้างซอพท์พาวเวอร์ใหม่ คือ การตั้งคาร์บอนเครดิตเซ็นเตอร์ นโยบายที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโลก
น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการ พรรรคไทยสร้างไทย เสนอว่า การนำความเป็นไทยร่วมกับวัฒนธรรมแบบไทยแท้ สนับสนุนซอฟต์พาวเวอร์ เช่น ประเทศไทยมีวัฒนธรรมเครื่องดื่มสุรา ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าการตลาดได้ถึง 4 แสนล้านบาท ซึ่งเท่ากับประเทศญี่ปุ่น แต่ประเทศไทยมีสุราไม่กี่ยี่ห้อ มีผู้ผลิตไม่กี่บริษัท แต่ที่ญี่ปุ่นมีสุราหมื่นยี่ห้อ ดังนั้น ต้องสนับสนุนท้องถิ่นให้สุราท้องถิ่นเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ไม่ใช่ให้กลุ่มทุนอย่างเดียว