ข่าว

ทำความรู้จัก 'พรรคเส้นด้าย' พรรคที่ไม่เอา 'นโยบายประชานิยม'

ทำความรู้จัก 'พรรคเส้นด้าย' พรรคที่ไม่เอา 'นโยบายประชานิยม'

14 มี.ค. 2566

ขอเป็นตัวเลือกของคนที่ไม่มีทางเลือก 'พรรคเส้นด้าย' อาสารื้อระบบเส้นสาย ไม่เอา 'นโยบายประชานิยม' คนไม่ต้องพึ่งพารัฐ

 

คมชัดลึกสัมภาษณ์พิเศษ คริส โปตระนันทน์ หัวหน้าพรรคเส้นด้าย ในโอกาสที่พรรคเส้นด้ายเข้าพบ เพื่อแนะนำพรรคก่อนสู้ศึกเลือกตั้ง66 เราพบว่ามีความน่าสนใจ ในการก่อเกิดของพรรคเส้นด้ายหลายประการ  ที่แตกต่างไปจากพรรคการเมืองอื่นๆ  รวมถึงนโยบาย กลุ่มเป้าหมาย และอุดมการณ์ ที่สวนกระแสของพรรคการเมืองที่มีอยู่อย่างหลากหลายในปัจจุบัน  จึงชวนกันมา คลี่เส้นด้าย พรรคของคนไม่มีเส้น ดังต่อไปนี้ 

 

Q : Concept พรรคเส้นคืออะไร

A: พรรคเส้นด้ายเป็นหลักฐานและวิธีคิดที่เกิดขึ้นของมวลชนกลุ่มหนึ่งในช่วงโควิด-19 ช่วงนั้นรัฐบาลล้มเหลวในการจัดการรักษาพยาบาล เพราะฉะนั้นประชาชนจำนวนมากรวมตัวกันเกิดกลุ่มเส้นด้ายขึ้น ในวันนั้นเราช่วยคนได้ 3.8 แสนคน โดยไม่ขอความช่วยเหลือจากรัฐ  เป็นความเข้มแข้งจากฐานราก  เมื่อเราใช้วิธีคิดแบบนี้ มาทำการเมืองจึงจะเกิดพรรคการเมืองที่เป็นพรรคการเมืองของประชาชนจริงๆ เกิดจากความเข้มแข็งจากฐานรากจริงๆ ที่สำคัญคือไม่ต้องพึ่งพิงรัฐ และเราเห็นด้วยว่ารัฐเป็นปัญหาของการพัฒนาประเทศนี้ 

เพราะฉะนั้นมันเป็นไปได้หรือไม่ ที่ตอนนี้มันต้องมีพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ที่บอกว่าประชาชนแข็งแรงประชาชนไม่จำเป็นต้องพึ่งพิงรัฐ สิ่งที่พรรคการเมืองอื่นพยายามจะนำเสนอว่าจะต้องช่วยประชาชนแบบนั้นแบบนี้ผ่านนโยบายการแจก  แจกเงิน แจกโน่นแจกนี่ มันน่าจะเป็นแนวทางในการที่พัฒนารัฐนาวาไทยที่มันผิด 

วันนั้นเราประกาศตัวสู้กับโควิด แล้วเราชนะแล้ว  ปรากฎว่าหลังจากโควิดชนะ ศัตรูตัวหนึ่งมันยังอยู่ คือระบบเส้นสายที่มันทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำมหาศาล  พรรคเส้นด้ายประกาศตัวว่าเป็นพรรคของคนไม่มีเส้นมาสู้กับระบบเส้นสาย   เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ของประเทศนี้

 

คริส โปตระนันทน์ หัวหน้าพรรคเส้นด้าย

 

Q: ไม่ได้เข้ามาเพื่อตัดแต้มพรรคก้าวไกล

A: พรรคเส้นด้าย ไม่มีความมุ่งหวัง จะเข้ามาตัดแต้มพรรคก้าวไกลแต่อย่างไร 
เราเชื่อว่า ตอนนี้ยังมีประชาชนกลุ่มหนึ่งที่ยังไม่ตัวแทนของเขา ไม่ว่าตอนนี้พอบอกว่าประชาชนที่อายุต่ำกว่า 30 เลือกก้าวไกลทั้งหมด ผมบอกว่าประชาชนอายุต่ำกว่า  30 มีหลายแบบ มีหลากหลาย มีส่วนหนึ่งที่ไม่ต้องการสิ่งที่หลายๆ พรรคเรียกกันว่ารัฐสวัสดิการ เขาอยากจะเข็มแข็งได้ด้วยตัวเขาเอง เขาอยากปกป้องภาษีของเขาเอง  สิ่งสำคัญคือการทำนโยบายที่หลายพรรคทำ ไม่ว่าจะเป็นการลดแลกแจกแถม หรือการทำสวัสดิการทั่วหน้า จะทำให้เกิดภาระหนี้ในอนาคตที่จะมีปัญหากับประเทศในระยะยาวต่อไป คนกลุ่มนี้คือคนที่เส้นด้ายมุ่งหวังที่จะให้เป็นคนที่กาเลือกพรรคของเรา

 

Q: เป้าหมายในการเลือกตั้งคราวนี้

A: เป้าหมายในกรุงเทพฯ จริงๆ มีคนออกมาเลือกตั้งโดยเฉลี่ยเกือบ 2 ล้าน เรามุ่งหวังที่จะเป็นพรรคของคนกลุ่มหนึ่ง  ประมาณสัก 25% เพราะงั้นในกรุงเทพฯ เรามุ่งหวังไว้ที่ 5 แสน แล้วอีกล้านห้าจะไปเก็บทั่วประเทศ เราเชื่อจริงๆ ว่า สิ่งที่เราพูดไปหลายอย่างอาจจะไม่ใช่สิ่งที่จะได้รับความนิยมในวงกว้าง  อย่างเช่นพรรคจำนวนมากตอนนี้บอกว่า อย่างที่ผมกล่าวว่าจะแจกเงินแบบนั้นแบบนี้ ผมจะเป็นพรรคแรก และพรรคเดียวที่พูดว่าการเอาเงินภาษีประชาชนมาแจกประชาชนแบบนี้ป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ   เราจะพัฒนาประเทศนี้ได้ ทำระบบกฎหมายให้มันดี ทำระบบภาษีให้มันดี ทำระบบยุติธรรมให้มันดี ทำตำรวจให้ดี แบบนี้มันเป็นการพัฒนาประเทศมากกว่า ไม่ใช่เรื่องของการแจกเงิน แจกโน่นแจกนี้ แบบที่ตอนนี้ทุกพรรคกำลังทำอยู่

 

Q: หลังเลือกตั้งเราจะได้บริการจากพรรคเส้นด้าย อย่างไรบ้าง

A: ถ้าพรรคเส้นด้าย ได้เป็นรัฐบาล อันที่ 1 เลยสิ่งที่จะได้แน่นอนคือประสบการณ์ที่เราได้จากการทำระบบสาธารณสุขในช่วงโควิด เราจะทำให้ โรงพยาบาลลดความแออัด การนัดหมอจะนัดได้ง่ายผ่านแอปพลิเคชัน การทำเทเลเมด คือการที่เราสามารถที่จะไม่จำเป็นต้องที่ไปโรงพยาบาลเพื่อเจอหมอ  แล้วได้คุยกับหมอผ่านแอปพลิเคชันผ่านมือถือ แล้วมียาส่งไปที่บ้านจะเป็นเรื่องจริง

ถัดจากนี้แล้วระบบเส้นสาย ในระบบสาธารณสุขจะต้องไม่มี ในปัจจุบันมีคนรวย หรือคนที่มีเส้นจำนวนมาก หาความได้เปรียบของตัวเองในการที่สามารถที่จะนัดอาจารย์คนนั้นคนนี้ได้เลย เพราะฉะนั้นระบบแบบนี้มันจะต้องไม่เกิดขึ้น จะต้องไม่มีใครเอาทรัพยากรของรัฐมาหาประโยชน์ส่วนต้ว อันนี้คือสิ่งที่จะได้ในทางสาธารณสุข 

สิ่งอื่นที่จะได้เช่นระบบราชการ คุณเข้าไปเจอเจ้าหน้าที่ จะไม่ต้องใช้เส้นสายแล้ว เจ้าหน้าที่จะบริการประชานทุกคนเท่ากัน  แล้วเราตั้งเป้าจะลดอำนาจของ ลดดุลยพินิจของเขา การเรียกสินบนจะไม่มี  การทำการค้าขายในเมืองไทยต่อไปนี้ไม่ต้องใช้เส้น ไม่ใช่ว่าใครมีเส้นจะได้สัปทานอย่างนั้นอย่างนี้ ใครมีเส้นจะได้ทำธุรกิจกับรัฐแบบนั้นแบบนี้ แบบนี้จะไม่มีแล้ว ทุกคนต้องแข่งขันกันในกติกาที่เท่าเทียมกัน แล้วเราเชื่อว่าเมื่อเราทำประเทศให้มันดี การแข่งขันเพิ่มขึ้น ธุรกิจจะเพิ่มขึ้น การจ้างงานจะเกิดมากขึ้น ค่าแรงจะขึ้นอัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องเข้าไปยุ่งเลยว่าค่าแรงขึ้นต่ำต้องเป็นเท่าไหร่

 

Q: เป็นฝ่ายค้านเราก็ทำแบบนโยบายนี้ได้ใช่ไหม

A: ถ้าเราเป็นฝ่ายค้านเราจะพูดเรื่องแบบเดียวกัน แล้วเราจะพูดแบบตอนนี้เราหาเสียงนี่แหละ คือเราจะไม่กลัวว่าเวลาเราพูดแล้วจะกระทบผลประโยชน์ใคร แล้วหลายต่อหลายครั้งสิ่งที่เราพูด พรรคที่อยู่ในอำนาจอาจจะทำตามที่พรรคเส้นด้ายเสนอไม่ได้  พรรคเส้นด้ายเคยเสนอเคยทำแบบนี้สำเร็จมาแล้วครั้งหนึ่งตอนที่เราเป็นกลุ่มเส้นด้าย 

กลุ่มเส้นด้ายมีการเรียกร้องใหัรัฐ ใช้การตรวจแบบ ATK แทน RT PCR  ซึ่งมันช้า-แพงและมีโอกาสที่จะเกิดการทุจริตสูง พอเราเรียกร้องปุ๊บ รัฐทำเลย เราเรียกร้องให้รัฐส่งยาไปที่บ้าน เมื่อเราเรียกร้องปุ๊บ ใช้เวลากดดันอีกเดือนหรือ 2 เดือน ถัดจากนั้นรัฐมีบริการส่งยาไปที่บ้านช่วงโควิดเลย เพราะฉะนั้นไม่ว่าเส้นด้ายพรรคเส้นด้ายจะเป็นรัฐบาลหรือเป็นฝ่ายค้านเราเชื่อว่าคะแนนเสียงของทุกคนจะไม่เสียเปล่า และมันจะมีคุณค่าสามารถผลักดันให้ประเทศนี้เป็นประเทศที่ดีขึ้นได้

 

Q: พรรคเส้นด้ายกับนโยบายป้องกันกองทัพแทรกแซงการเมือง

A: เชื่อจริงๆ แล้ว สิ่งที่เราจะผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง มันต้องเกิดจากการร่วมมือเกิดจากการพูดคุย แล้วเราได้พูดคุยกับทหารจำนวนหนึ่ง ว่าถ้าสิ่งที่การเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ ที่ทหารจะโอเคประชาชนจะได้ประโยชน์มันคืออะไร  สิ่งที่ผมได้คำตอบมาคือการที่ทำให้ ทหารกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง กลับไปเป็นรั้วของชาติ ตอนนี้สิ่งที่กองทัพเป็นคือกองทัพไร้ประสิทธิภาพ และไม่สามารถปกป้องอำนาจอธิปไตยของประเทศได้ สิ่งหนึ่งที่สามารถทำได้เลยคือ ลดกำลัง และเพิ่มประสิทธิภาพของกองทัพ เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องไปตัดงบของเขาก็ได้ หากสามารถที่จะทำให้งบของกองทัพใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เกิดการคอร์รัปชัน แล้วทำให้แสนยานุภาพของประเทศไทยเกิดขึ้นได้ 

ตอนนี้หมดยุคที่กองทัพจะเป็นกองทัพคนแล้ว ตอนนี้มันต้องเปลี่ยนเป็นกองทัพที่ทันสมัย การซื้อเครื่องบินรบ การซื้อเรือรบ การทำอุปกรณ์ยุทธโธปกรณ์ให้ดีเป็นสิ่งที่ทำได้จริง แล้วทำได้ในหลายประเทศทั่วโลก  บางประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาเขาใช้โดรนแล้ว แทบจะไม่ต้องใช้คนขับเลย  เพราะฉะนั้นถ้าเราจะเสนอว่าอะไรก็ตามที่กองทัพจะแฮปปี้ ประชาชนจะแฮปปี้  คือเพิ่มประสิทธิภาพกองทัพ ลดกำลังกองทัพลง ลดจำนวนทหาร แล้วก็ถัดไปก็คือไปกำจัดคอร์รัปชันในกองทัพ ไม่มีใครเห็นด้วย ไม่มีทหารคนไหนเห็นด้วย

 

Q: เลือกพรรคขนาดเล็กแล้วได้อะไร

A: เชื่อว่าพรรคขนาดเล็กหรือไม่เล็ก concept นี้ไม่มีอยู่จริง เพราะตอนที่ผมตั้งพรรคอนาคตใหม่ตอนนั้นทุกคนก็บอกว่าพรรคอนาคใหม่จะเป็นพรรคขนาดเล็ก และสุดท้ายก็ได้ถึง  80 เสียง เพราะฉะนั้น วันนี้ผมมาตั้งอีกพรรคหนึ่ง พรรคการเมืองหนึ่งทีผมเชื่อว่ามันมีอุดมการณ์และมีสิ่งที่เราคิด และสิ่งทีเราเชื่อร่วมกัน หากคุณมาร่วมเห็นด้วยอุดมการณ์นี้  คุณต้องมีตัวแทนของคุณในรัฐสภา

 

คริส โปตระนันทน์ หัวหน้าพรรคเส้นด้าย

 

พรรคเส้นด้าย อาสาที่จะเป็นต้วแทนของคุณเข้าไปกำจัดคอร์รัปชัน เข้าไปลดอำนาจรัฐ  เข้าเพิ่มเสรีภาพทางเศรษฐกิจให้มากขึ้น ทำให้เข้าไปกำจัดระบบเส้นสายออกจากประเทศนี้ ทำระบบสาธรณสุขดีขึ้น ด้วยวิธีการที่จะทำให้ทุกฝ่ายแฮปปี้ เรายึดหลักวินๆ เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเลย เลือกพรรคเส้นด้าย เลือกตัวแทนของคุณเข้าไปในสภาแล้วเดี๋ยวพวกผมจะเข้าไปผลักดันสิ่งนี้ให้ดู ไม่ว่าจะอยู่ในฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็ตาม