ระทึก สามพรรคการเมือง เข้าสู่กระบวนการ 'ยุบพรรค' แล้ว
'ยุบพรรค' ตามหลอนเลือกตั้ง สามพรรคการเมืองเข้าสู่กระบวนการ แค่มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ กกต.
การยุบพรรคการเมืองถูกกำหนดให้เป็นหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 92 ซึ่งจะเกิดขึ้นได้เมื่อ กกต. ยื่นให้ศาลรัฐธรรมสั่งยุบพรรคการเมือง การยุบพรรคการเมืองถือเป็นเรื่องใหญ่ แต่แค่ปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำผิดตามที่บัญญัติ พรรคการเมืองที่ตกเป็นเป้าหมายเหล่านั้นก็ตกอยู่ในความเสี่ยงทันทีและขณะนี้ มี 3 พรรคการเมืองถูกส่งเข้าสู่กระบวนการดังกล่าว
พรรคพลังประชารัฐ ถูกนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นขอให้ กกต. ตรวจสอบกรณีที่พลังประชารัฐรับเงินบริจาค 3 ล้านบาท จากนายทุนชาวจีนเจ้าของบ่อนการพนันในรูปสถานบันเทิงย่านยานนาวา ซึ่งอาจขัดต่อ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ใน 3 มาตรา คือ มาตรา 44 ห้ามพรรคการเมืองรับเงินหรือรับประโยชน์อื่นใดจากบุคคลที่ให้การสนับสนุนการทำลายความมั่นคงและทำลายเศรษฐกิจของชาติ มาตรา 72 ห้ามพรรคการเมืองรับเงินหรือทรัพย์สินประโยชน์อื่นใดโดยรู้หรือควรรู้ว่าแหล่งที่มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย และมาตรา 74
ห้ามพรรคการเมืองรับเงินจากบุคคลที่ไม่ได้ถือสัญชาติไทย
พรรคเพื่อไทย ถูกนักร้องคนเดียวกันกล่าวหากรณีกรณีมีกลุ่มสส.อีสาน เดินทางไปพบ ทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมาประเทศสิงคโปร์ ในช่วง 6-12 มี.ค. 65 ที่ผ่านมา เข้าข่ายถูกชี้นำ/ครอบงำ ตาม ม.28 ของ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 หรือไม่
พรรคก้าวไกล ถูกพรรคไทยภักดี ยื่นให้ กกต.ตรวจสอบและดำเนินการยุบพรรค เหตุเพราะพรรคก้าวไกลนำเสนอนโยบายเรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และมาตรา 116 ซึ่งอาจขัดต่อ พ.ร.ป.พรรคการเมืองฯ เนื่องจากมาตรา 112 เป็นกฎหมายที่คุ้มครองพระประมุขของรัฐ
แค่มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองเหล่านี้กระทำผิด กกต.ก็สามารถส่งให้ ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคได้แล้ว ทำให้หลายฝ่ายวิตกกันว่า การยุบพรรคอาจทำให้ประเทศติดกับดักทางการเมืองอีกครั้ง โดยมีตัวอย่างพรรคที่ถูกยุบหลังบังคับใช้ พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2561 ไม่ว่าจะเป็นพรรคไทยรักษาชาติ หรือ พรรคอนาคตใหม่ ขณะที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ฤดูเลือกตั้ง แย่งชิงอำนาจทางการเมือง