ข่าว

'ม.หอการค้า' เผย 'เลือกตั้ง' คนตื่นตัว 'ต้านคอร์รัปชัน' 'ซื้อเสียง' ไม่เลือก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'ม.หอการค้า' เผยประชาชนร้อยละ 83 ไม่เลือก 'พรรคการเมือง' ที่ไม่มีนโยบาย 'ต้านคอร์รัปชัน' ชัดเจน ร้อยละ 86 'ซื้อเสียง' ก็ไม่เลือก ทิศทางความต้องการเปลี่ยนจากปากท้องเป็นต้านคอร์รัปชัน

ใกล้เข้ามาทุกทีสำหรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในรอบ 10 ปี ประเด็นร้อนแรงตั้งแต่ต้นปีจนคงหนีไม่พ้น "คอร์รัปชัน" ของเหล่าข้าราชการ นักการเมืองที่ประชาชนเป็นผู้เลือกเข้าไปบริหารประเทศ ยกตัวอย่าง การจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง ชุดน้ำพุราคา 6 ล้านบาท แต่ใช้งานไม่ได้ ต้นทองอุไร ต้นละ 6 พันบาท ทว่าการ "คอร์รัปชัน" คงไม่ใช่เรื่องแปลกหรือเรื่องใหม่สำหรับคนไทย ทว่าการเลือกตั้งครั้งนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนประเทศไทย เพราะ "ม.หอการค้า" ได้เผยผลสำรวจประชาชนต่อนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันของพรรคการเมืองและนักการเมืองในการ "เลือกตั้ง" ปี 2566 เกือบร้อยเปอร์เซ็น "ต้านคอร์รัปชัน" 
  ตารางแสดงผลสำรวจความเห็นประชาชนต้านคอร์รัปชั่น

รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้า ได้สรุปผลสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ 2,255 ตัวอย่าง ช่วงระหว่างวันที่ 5-25 มกราคม 2566 ว่า ปัญหาสำคัญที่ต้องแก้ไขมากที่สุด 3 ลำดับแรก คือปัญหา "คอร์รัปชัน" รองลงมาคือการศึกษา และอันดับ 3 คือลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งต่างจากการเลือกตั้งครั้งก่อน 3 อันดับแรกคือ ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม การศึกษา และคอร์รัปชัน

รศ.ดร.ธนวรรน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้า

ประชาชนเกือบร้อยละ 90 ต้องการพรรคการเมืองที่มีนโยบาย "ต้านคอร์รัปชั่น" ชัดเจน เป็นรูปธรรม นักการเมืองมีความซื้อสัตย์ ใช้งบประมาณคุ้มค่า เข้ามาบริหารประเทศแล้วต้องโปร่งใส ช่วยแก้ไขวัฒนธรรมการทุจริตในทุกรูปแบบ ให้ประชาชนมีความร่วมในการตรวจสอบ และร้อยละ 80 พรรคการเมืองไหนที่ไม่มีนโยบายชัดเจนจะไม่เลือก นอกจากนี้ ยังพบข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มอีกด้วยว่า ประชาชนเกือบร้อยละร้อย ถ้าพรรคการเมืองไหนจ่ายเงินซื้อเสียงจะไม่เลือกแน่นอน โดยให้เหตุผลว่าไม่โปร่งใสตั้งแต่เริ่มต้น 

"นโยบายต่อต้านคอร์รัปชันของพรรคการเมืองและนักการเมืองมีผลต่อการตัดสินใจลงคะแนนมาก แต่ต้องปฏิบัติได้จริง นี่เป็นโอกาสสำคัญที่พรรคการเมืองจะทำป้ายหาเสียงนโยบายต้านคอร์รัปชั่น เพราะตอนนี้ทุกกลุ่มอายุไม่ทานทนกับคอร์รัปชั่นอีกต่อไป ทุกคนยังมีความเชื่อ ความหวัง ความศรัธทาที่จะได้พรรคการเมืองรุ่นใหม่เข้ามาปราบคอร์รัปชัน" อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้า กล่าว


 นายวิเชียร พงศธร ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) และประธานกรรมการมูลนิธิ  บอกว่า จากผลสำรวจชี้ให้เห็นชัดเจนว่าประชาชนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง แก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น ไม่ยอมรับคนโกงเหมือนในอดีตที่เคยสำรวจพบว่า ประชาชนยอมให้คอร์รัปชันได้บ้าง ถ้าหากประเทศยังได้ประโยชน์ แต่วันนี้ทิศทางเปลี่ยนไปชัดเจนต่างจากเมื่อ 10 ปีก่อน แม้ว่าคุณจะทำประโยชย์  แต่ถ้าโกงก็ไม่เอา เวลานี้เป็นเวลาที่ดีที่สุด ที่เราจะส่งเสียงให้เป็นจุดเปลี่ยนประเทศไทย ประชนชนต้องทำเรื่องนี้ให้เข้มแข็ง ต้องสำเร็จ ต้องมีความหวังร่วมกัน หากถึงวันเลือกตั้งแล้วยังไม่มีตัวเลือก ก็ต้องไปใช้สิทธิประสงค์ไม่ลงคะแนน ทำ 1 เสียงของเราให้มีพลังที่สุด 

นายวิเชียร พงศธร ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)

 ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) บอกด้วยว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ยุคตักตวงผลประโยชน์กำลังจะหมดไป ได้คนยุคใหม่เข้ามาทำประโยชน์ให้ประชาชน ขณะเดียวกันพรรคการเมืองต้องมีนโยบายจับต้องได้ ไม่ใช่แค่คำพูดหวานหู 

ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ