ข่าว

'สุดารัตน์' รวมพลังผู้หญิงไทยก้าวเข้าสภา เปลี่ยนแปลงประเทศ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'สุดารัตน์' ผลักดันผู้หญิงไทยและLGBTQ ก้าวเข้าสภา ร่วมเปลี่ยนแปลงประเทศอย่างเท่าเทียม ชูนโยบายกองทุนพลังหญิง กองทุนแท่เลี้ยงเดี่ยว สร้างงาน สร้างอาชีพ

เนื่องในวันสตรีสากล คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย , นางสาวธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย , นางสาวณิชชา บุญลือ รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย แถลงนโยบายสำหรับผู้หญิง  

 

เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยมีผู้หญิง จำนวน 34 ล้านคน รวมถึงผู้มีความหลากหลายทางเพศอีกประมาณ 10 ล้านคน มากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรไทย ยุคสมัยนี้ผู้หญิงได้รับการยอมรับมากขึ้น หากเทียบกับอดีต เพราะสมัยที่ตนเข้าเป็นนักการเมืองใหม่ๆ เป็นเรื่องยากมากที่จะต้องพิสูจน์ตัวเอง แต่เราสามารถทำงานไม่แพ้ผู้ชาย ความเป็นเพศไม่ใช่อุปสรรคขวางกั้นในการสร้างหรือเปลี่ยนแปลงประเทศ

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย

จึงขอเชิญชวนผู้หญิงไทยและ LGBTQ ร่วมมือเปลี่ยนแปลงประเทศเพื่อส่งมอบให้กับรุ่นต่อไป พรรคไทยสร้างไทย มีนโยบายสำหรับผู้หญิง คือ

1. เพิ่มจำนวน สส.ผู้หญิงในสภาด้วยโครงการ More WIP (More Women in Politics) ผ่านการอบรบ เสริมสร้างศักยภาพ สร้างเครือข่าย และให้คำปรึกษา เพื่อเสริมพลังและเปิดให้มีการแสดงความเห็นทุกด้าน รวมทั้งรณรงค์ให้ตระหนักรู้สิทธิ เสรีภาพในด้านต่างๆ และส่งเสริมให้ผู้หญิงเข้าไปมีส่วนในการบริหารทั้งการเมืองและราชการ อย่างน้อยร้อยละ 20

 

2. ตั้งกองทุนพลังหญิง ศูนย์พัฒนา ศักยภาพผู้หญิง Woman Care 878 อำเภอทั่วประเทศไทย เพื่อลดความรุนแรงผู้หญิงที่ถูกกระทำ ปัจจุบันผู้หญิงถูกรังแกจะครอบครัวมากที่สุด ผู้หญิงทุกคนต้องมีงานทำ มีอาชีพที่มั่นคง และไม่มีหนี้

ประกอบด้วย ตั้งเครือข่ายออนไลน์เพื่อจับคู่งานที่เหมาะสมให้กับผู้หญิงที่ว่างงาน ส่งเสริมอาชีพให้มีรายได้อย่างยั่งยืนและเพียงพอ , โครงการ Upskill และ Reskill ให้แก่ผู้หญิง

3. เสริมศักยภาพงบประมาณให้ศูนย์พึ่งได้ ซึ่งคุณหญิงสุดารัตน์ได้ทำโครงการนี้ สมัยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรียกว่าศูนย์พึ่งได้ ตั้งอยู่ทุกโรงพยาบาล เพื่อช่วยเหลือผู้หญิงและเด็ก ตั้งแต่การตั้งครรภ์จนถึงการช่วยลดความรุนแรงในเด็กและสตรี สร้างสุขภาพที่ดีให้ผู้หญิง เช่น ในสมัยนั้น ได้โดยการชักชวนให้ผู้หญิงชาวมุสลิมมาฝากครรภ์เพื่อแลกกับไข่และสโหร่ง , ให้มีการทำงานและบริการที่เป็นมิตรและเหมาะสมกับเพศสภาพ ตลอดจนบริบทเฉพาะ เช่น การฝากครรภ์ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้โดยแพทย์ที่เป็นผู้หญิง งานที่ไม่ก่อความเสี่ยงให้แม่ที่ตั้งครรภ์

4. จัดตั้งกองทุนสำหรับแม่เลี้ยงเดี่ยว ปัจจุบันมีแม่เลี้ยงเดี่ยวประมาณ 370,000 คน ซึ่งมากกว่าพ่อเลี้ยงเดี่ยว 4 เท่า แม้ว่ารัฐบาลจะให้เงินอุดหนุนแก่แม่เลี้ยงเดี่ยว แต่มีเพียง 50,000 รายเท่านั้นที่ได้รับและอาศัยอยู่แค่ในจังหวัดนำร่องเพียงไม่กี่จังหวัด กองทุนนี้มีวัตถุประสงค์ให้แม่เลี้ยงเดี่ยว มีอาชีพ มีรายได้เลี้ยงตนเองและลูกได้อย่างมั่นคง รวมถึงการปรับเวลาศูนย์เด็กเล็ก ที่จะไม่เปิดเพียงเฉพาะเวลาราชการ แต่จะปรับตามเวลาที่เหมาะสมของพื้นที่นั้นๆ 

 

5. ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้หญิง เพื่อเป็นศูนย์กลางให้แจ้งขอความช่วยเหลือจากการความรุนแรง ตกงาน และเสนอนโยบายที่สนใจ คุ้มครองผู้หญิงจากการถูกกระทำด้วยความรุนแรงในทุกรูปแบบ รวมทั้งคุ้มครองจากความเสี่ยงต่างๆ ทั้งการถูกคุกคามทางเพศในที่ทำงาน คุ้มครองจากการก่อหนี้นอกระบบและถูกเอาเปรียบ คุ้มครองแม่รวมทั้งย่าหรือยายหรือคนอื่นๆ ที่ต้องเลี้ยงดูบุตรหลานโดยลำพัง

 

ยึดหลักปกป้องสิทธิสตรีตามอนุสัญญาว่าด้วยการ ขจัดการเลือกปฏิบัติต่อผู้หญิงในทุกรูปแบบ (Convention on the Elimination of all Forms of Discrimination against Women: CEDAW) ทั้งความเท่าเทียมทางการศึกษา อาชีพ รายได้ การทำงาน การเจริญพันธุ์ ตลอดจนห้ามการเลือกปฏิบัติ

 

ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่มีผู้หญิงเข้ามาสู่การเมือง ซึ่งเชื่อว่าพรรคไทยสร้างไทยจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ปกป้องสิทธิและเพิ่มศักยภาพของผู้หญิง 

 

 

ด้านน.ส.ธิดารัตน์ ระบุว่า จำนวนแม่เลี้ยงเดี่ยวปัจจุบันที่อยู่ในสถิติมีประมาณ 370,000 คน หากเทียบกับพ่อเลี้ยงเดี่ยว มีแม่เลี้ยงเดี่ยวมากกว่า 80% และเด็กเลือกที่จะอยู่กับแม่มากกว่าพ่อ ช่วงแรกเกิด-6ปี เด็กจะมีพัฒนาการ เป็นช่วงชีวิตที่ทำให้เด็กโตขึ้น เราอยากให้เด็กเรียนรู้สิทธิความเป็นประชาธิปไตย เพราะปัจจุบันสังคมมีความคิดเห็นที่หลากหลาย แม้จะเป็นประชาธิปไตย แต่เราต้องอยู่ในกรอบการเคารพซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสวยงาม

พรรคไทยสร้างไทยแถลงข่าววันสตรีสากล

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ