ข่าว

นักวิชาการ มองการเมือง ' เพื่อไทย'มุ่งแลนด์สไลด์ หวังกวาดส.ส.ไว้ต่อรอง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จับกระแสการเมืองก่อนศึกเลือกตั้ง นักวิชาการรัฐศาสตร์ มองเกม ' เพื่อไทย' ไม่ยอมประกาศจับมือ หวังยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์ ได้ผล เพิ่มอำนาจต่อรอง ด้าน 'เสรีพิสุทธ์ ' ไม่กังวลประกาศร่วมงาน 'บิ๊กป้อม' ได้ เหตุไม่ใช่คนยึดอำนาจ

ใกล้เปิดฉากศึกเลือกตั้ง 2566 พรรคการเมืองเดินสายหาเสียงล่วงหน้าอย่างคึกคัก นโยบายต่าง ๆ ถูกนำเสนอต่อสายตาประชาชน และที่น่าสนในจอีกประเด็น คงจะหนีไม่พ้น การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ในอนาคตอันใกล้ ที่เรียกได้ว่า เข้มข้น และเฉือนคม ใครจะจับมือกับใคร สัดส่วนเสียงในการจัดตั้งจะออกมาแบบไหน ในการคาดการณ์ รวมทั้งยังมีข่าวสารในวงการเมือง พรรคพลังประชารัฐ มีแนวโน้มได้ร่วมงาน พรรคเพื่อไทย และการที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่วาดหวังไว้จะขึ้นนั่งบัลลังก์บ้านนรสิงห์ อาจจะเป็น ผู้ชายใจบันดาลแรง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ทำให้การเมืองในช่วงนี้เข้มข้นน่าติดตามยิ่ง

นักวิชาการ มองการเมือง ' เพื่อไทย'มุ่งแลนด์สไลด์ หวังกวาดส.ส.ไว้ต่อรอง

รายการ คมชัดลึก เนชั่นทีวี เปิดประเด็นคุย “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย-พปชร.”สูตร 3 พรรค หัก “บิ๊กตู่”? เชิญ นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ ผศ.ดร. วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมพูดคุยมองภาพการเมือง เริ่มต้นการสนทนาอ.วันวิชิต กล่าวทันทีว่า อมพระกี่รูปผมก็ไม่เชื่อ หลังในรายการตั้งคำถามว่า เชื่อหรือไม่ว่า พรรคการเมืองยังไม่มีการเปิดดีลเรื่องการตจัดตั้งรัฐบาลในอนาคต 

นักวิชาการ มองการเมือง ' เพื่อไทย'มุ่งแลนด์สไลด์ หวังกวาดส.ส.ไว้ต่อรอง
“ในแง่ทางการเมือง ที่สาธารณะเขาก็ต้องพูดอย่างตรงไปตรงมา ยังไม่ดีลกับใครจนกว่าสนามสงครามการเลือกตั้งจะเสร็จสิ้น ตัวเลขได้เท่าไหร่นั่นคืออำนาจต่อรอง ถ้าตัวเลขไปถึงตามเป้าหมาย อำนาจต่อรองย่อมสูงขึ้น ถ้าตัวเลขไม่ถึงเป้า การที่ใครจะเชื้อเชิญ หรือ ชักชวน หรือ ต่อรอง แม้จะได้เข้าร่วมรัฐบาล เป้าประสงค์ที่จะได้กระทรวงที่ต้องการก็อาจจะไม่ได้ตามเป้า จึงเป็นเรื่องปกติ ที่พรรคกมารเมืองส่วนใหญ่พร้อมที่จะประกาศจุดยืนของตัวเองว่า เดินหน้าตามยุทธศาสตร์ของพรรคการเมืองตัวเอง “ 
 


อาจารย์วันวิชิต วิเคราะเพิ่มเติมอย่างน่าสนใจว่า อย่างพรรคเพื่อไทย ในตอนนี้ ก้ต้องมุ่งหน้าตามยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์ก่อน  ซึ่งจะแตกต่างกับพลังประชารัฐ ที่ไม่ต้องการโดนตีกรอบ เพราะการเสีย ส.ส.ออกไปอยู่การเมืองอื่น ๆ ไม่ควรที่จะอยู่นิ่งเฉย หรือแม้แต่การประกาศจุดยืนพรรคการเมือง ร่วมงานกับใครได้ ร่วมงานกับใครไม่ได้ เช่น ภูมิใจไทย ชัดเจนไม่ร่วมงานกับพรรคที่ต้องการปฏิรูปสถาบัน รวมทั้ง ก้าวไกล ถ้าไม่ปรับท่าทีไม่ลดเพดานทางการเมือง ก็เหมือนเป็นการล้อมกรอบตัวเอง ทำให้เป็นข้อจำกัดที่จะพูดกับคนอื่นได้ลำบาก 
และหากไล่เลียงทีละพรรคการเมือง อ.วันวิชิต มอง่วา ถ้าหลายคนโยนก้อนหินถามทาง มีสูตรสำเร็จ เพื่อไทย พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ถ้ามองในตัวเลขที่เป็นไปได้ ตัดก้าวไกลออกไป อาจจะมีพรรคประชาชาติไทย รวมกับพรรคเล็กๆน้อยๆ ที่เป็นขั้วฝ่ายค้านเดิม สูตรแบบนี้อาจจะมีคะแนนเสียงทะลุ 376 เสียงได้

นักวิชาการ มองการเมือง ' เพื่อไทย'มุ่งแลนด์สไลด์ หวังกวาดส.ส.ไว้ต่อรอง

มองความแข็งแกร่งของ ส.ส.เขต และกระแส ถ้าเกิดสูตรนี้ขึ้นมา ฝ่ายอนุรักษ์นิยม ก็อาจจะมีความไม่สบายใจ บางส่วนอาจจะยังจงรักภักดีกับพลังประชารัฐ หรือ การรวมมือระหว่าง เพื่อไทย กับ ภูมิใจไทย จะเกิดปฏิกิริยาหรือไม่ แทนที่คะแนนจะมาช่วย ฐานคะแนนอาจจะเลื่อนไปสู่รวมไทยสร้างชาติ หรือในบางพื้นที่ เช่น ปทุมธานี การแข่งขันเข้มข้นระหว่าง เพื่อไทย กับ ภูมิใจไทย ถ้ามีการจับมือกัน จะกลายเป็นเลือกใครก็ได้หรือไม่ 


ซึ่งจะกลายเป็นการไปสกัดแลนด์สไลด์ของตัวเอง ดังนั้นจึงเป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนดีกว่าว่า แลนด์สไลด์ก่อนเพื่อไปถึงอำนาจนการต่อรอง ถ้าไม่ถึงมันจะเกิดโจทย์ที่คนคิดเผื่อไว้ คาดการณ์ว่า เพื่อไทยอาจจะมาเป็นอันดับ 1 แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เพื่อไทย จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล 


เพราะเพื่อไทยไม่ได้กุมบังเหียน 250 ส.ว. ซึ่งกลุ่ม ส.ว. เกรงใจ ก็มีเพียง 2 คน พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตร และถ้าดึงเอา พล.อ.ประวิตรมา คะแนนเสียงก็จะมาอย่างเป็นเอกภาพและเอกเทศ ของเสียง ส.ว. 


ถ้า พลังประชารัฐได้จำนวนสัก 40-50 ที่นั่ง รวมกับ ส.ว. ได้แน่ ประมาณ 300 เสียง และรวมกับ เพื่อไทย ภูมิใจไทย เพราะวันหนึ่งเสียงที่โหวตนายกรัฐมนตรีถอนตัวไป เสียงเกินกึ่งหนึ่งยังคงมีความจำเป็น และตรงนี้กลายเป็นโจทย์หนักสำหรับ เพื่อไทย ที่จะต้องตอบคำถาม เพราะจุดนี้หรือไม่ จึงต้องมีการปูทางให้ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี 


“การโยนหินถามทางแบบนี้ ความจริงเป็นการกระชิ่ง เพื่อลดทอนอำนาจการต่อรองของ พลังประชารัฐ กับ ภูมิใจไทย ไปในตัว เพราะ หลังเสร็จการอภิปรายแบบไม่ลงมติ ผมสังเกตพฤติกรรมการฟาดกลับของพล.อ.ประยุทธ์ เน้นไปที่พรรคเพื่อไทย แต่ไม่ตอบคำถามที่ก้าวไกลตั้งคำถาม

 

เขาประเมินว่า เพื่อไทย คือคู่แข่งตัวจริง และเป็นการลดทอนแลนด์สไลด์ของเพื่อไทย ขณะเดียวกันผมคิดว่า คะแนนฝ่ายอนุรักษ์นิยมยังกังวลต่อก้าวไกล ดังนั้นคะแนนเสียงคงไม่ไปก้าวไกล  จากเพื่อไทยสวิงไปช่วยก้าวไกล ก็คงไม่เกิด ดังนั้น การจัดการเพื่อไทยให้อยู่หมัด เป็นการเรียกคะแนนจากอนุรักษ์นิยม ที่ยังหลงเหลืออยู่ในพลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ ให้หันมาที่ พล.อ.ประยุทธ์ เพียงคนเดียว” อ.วันวิชิต วิเคราะห์ 

 

ทิศทางที่อ.วันวิชิต มองเห็น เป็นในเรื่องของ ชนชั้นกลาง รวมทั้งฝ่ายอนุรักษ์นิยม มีภาพความกังวลและไม่สบายใจ ต่อท่าทีในการคาดการณ์หากเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐญมนตรี จะกลับมา และนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองรอบใหม่อีกครั้ง  ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ กลายเป็นภาพของฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่ยังเหลืออยู่ในขณะนี้ ความชัดเจนตรงนี้ เพื่อสร้างพื้นที่ความแตกต่างกับ พลังประชารัฐ 

 

เกมการเมืองของพลังประชารัฐ ดุเหมือนว่า อยู่กึ่งกลาง ทั้ง เพื่อไทย และ รวมไทยสร้างชาติ อ.วันวิชิต สะท้อนภาพให้เห็นว่า เกมการเมืองที่เกิดขึ้น พลังประชารัฐ ถูกบีบรัดทั้งภาพลักษณ์องค์กร ส.ส.ที่ไหลออกจากพรรค รวมทั้งภาพของ พล.อ.ประวิตร ขายไม่ได้ใน กทม.

 

และปัจจัยที่ส่งผลอีกส่วนคือ การมีพื้นที่สื่อของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ภาพลักษณ์ที่ผ่านมาไม่ได้ส่งเสริมพรรค ขายได้ยาก แม้จะมีกลุ่มส.ส.บ้านใหญ่หลายซุ้มอยู่ในพรรค แต่ก็เริ่มมีอาการที่เรียกว่า เล่นแร่แปรธาตุ เช่น กลุ่มสุโขทัย ของ สมศักดิ์ เทพสุทิน ที่มีลูกน้องในกลุ่มบางส่วนย้ายไปเพื่อไทย มีการมองกันว่าเป็นลดความเสี่ยวงในการทำงานการเมืองในอนาคต ในพื้นที่อื่นๆ เพื่อไทย ก้าวไกล คะแนนดีวันดีคืน ทำให้พลังประชารัฐ เหลือพื้นที่เล่นไม่เยอะ

 

ดังนั้น พลังประชารัฐก็ต้องมั่นใจว่า จะได้เป็นรัฐบาลแน่ แต่จะได้ส.ส.กี่เสียงนั่นอีกเรื่องหนึ่ง ทำให้ท่าทีการไม่รับพล.อ.ประวิตรของเพื่อไทยเกิดขึ้นในเบื้องต้นก่อน  และถ้าคะแนนเสียงไปไม่ถึง พรรคที่จะเข้ามาเติมเต็ม คือ ภูมิใจไทย และในหลายพื้นที่ การต่อสู้ระหว่าง เพื่อไทย กับ ภูมิใจไทย ค่อนข้างเข้มข้น จึงเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่ต้องเดินหน้ายุทธศาสตร์แลนด์สไลด์ และไม่สามารถลงเอยกับใครได้ 


ทางรายการขอให้ อ.วันวิชิต วิเคราะห์ประเด็น การยอมรับหากมีการร่วมงานกับพล.อ.ประวิตร ของพรรคเสรีรวมไทย ซึ่งอ.วันวิชิต ก็ได้อธิบายเชิงวิเคราะห์อย่างน่าสนใจว่า เพราะภาพในการดีลทางการเมือง ของ พล.อ.ประวิตร บ้านป่ารอยต่อเปิดรับทุกฝ่ายทางการเมือง การต่อรองต่าง ๆ หาก พล.อ.ประวิตรทำสัญญากับใคร มันมีน้ำหนักน่าเชื่อถือ และมองได้ว่า เป็นยุทธศาสตร์ค่อยๆถอนสมอทางอำนาจของ 3 ป. 

 

ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์  เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านระบบคอนเฟอเรนซ์ เพื่อเปิดใจ หลักใหญ่ใจความในการสามีถร่วมงานกับ พล.อ.ประวิตรได้  พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์  อธิบายว่า พรรคของตนนั้นตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นกลาง สร้างความเป็นธรรม และที่ไม่สามารถร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ เพราะเป็นคนยึดอำนาจ พอตั้งรัฐบาลจึงไปเชิญ 2 ป.มาร่วมงาน  แล้วการที่พูดเปิดทางไว้ครั้งนี้ ด้วยความเป็นพรรคเล็ก สามารถร่วมงานกันได้ และยืนยันอยู่กับฝ่ายพรรคฝั่งประชาธิปไตย ด้วยเงื่อนไขที่ว่า ตอนนี้ พลังประชารัฐ ไม่มีพล.อ.ประยุทธ์ แล้ว 

นักวิชาการ มองการเมือง ' เพื่อไทย'มุ่งแลนด์สไลด์ หวังกวาดส.ส.ไว้ต่อรอง
ทางรายการขอให้ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์   มองสถานการณ์ เพื่อไทย ที่ไม่สามารถประกาสความชัดเจนในการจับมือร่วมงานกับพรรคการเมืองอื่น ว่า ในสายตาคนนอก เพื่อไทยกำลังหาเสียงให้เกิดการแลนด์สไลด์ ซึ่งถ้าในอนาคต เพื่อไทยคะแนนถึง 300 เสียง ก็ไม่จับมือกับใครแล้ว ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว และถ้าไม่ถึงตามที่วางแผนไว้ ค่อยมาถึงเรื่องการจับมือกับพรรคการเมืองอื่น ๆ ถ้าออกมาแสดงความชัดเจนในตอนนี้ในเรื่องการจับมือ เท่ากับเป็นการปิดประตู 


ในสมการเปลี่ยนฝ่ายข้ามขั้ว พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์   มองว่า ทั้งหมดอยู่ที่ เพื่อไทย จะแลนด์สไลด์หรือไม่แลนด์สไลด์ ก็เป็นพรรคการเมืองที่จะได้ส.ส.มากที่สุด ไม่ใช่พรรคการเมืองคะแนนไม่เท่าไหร่มาแย่งตั้งรัฐบาล ตอนนี้อยู่ที่เพื่อไทย อยู่ที่คะแนนหลังเลือกตั้ง จะเลือกร่วมกับใคร 


ส่วนสูตร 3 พรรคบวก ส.ว. ที่พูดถึง พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์   บอกว่า มีความเป็นไปได้ เพราะ เสียงส.ว. เป็นคนที่ถูกเลือกโดย พล.อ.ประวิตร พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ทั้งหมด ไม่ได้ผ่านกระบวนการสรรหา แต่ครั้งนี้ เชื่อว่า เสียง ส.ว. จะไม่พร้อมเพรียงในการเลือกนายกรัฐมนตรีแบบปี 2562 ที่เลือกแบบไม่แตกแถว 249 เสียง 


และส่วนตัว พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์   ไม่กังวลเรื่องแฟนคลับของพรรคตน เพราะตนเป็นคนชัดเจน ทำการเมืองแบบตรงไปตรงมา  ประกาศชัดเจนว่าจะร่วมงานกับใคร เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ