ข่าว

แนะพล.อ. 'ประยุทธ์' แก้ปัญหาการ 'ทุจริต' เริ่มที่ครอบครัวก่อน

แนะพล.อ. 'ประยุทธ์' แก้ปัญหาการ 'ทุจริต' เริ่มที่ครอบครัวก่อน

15 ก.พ. 2566

สส.เพื่อไทย อภิปราย ยกบริษัทหลานพล.อ. 'ประยุทธ์' สะท้อนถึงประสิทธิภาพการแก้ปัญหา 'ทุจริต' คอรัปชั่นของรัฐบาล ได้เป็นอย่างดี

 

นางสาวจิราพร   สินธุไพร  ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย อภิปราย พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี ช่วงหนึ่งว่า มีหลานซึ่งเปรียบเสมือน ลูกไม้หล่นไม่ไกลค่าย  จากการอาศัยค่ายทหาร เปิดบริษัทส่วนตัว ในชื่อคอมเทมโพรารี  และยังได้รับงานประมูลของรัฐที่มูลค่าสูง แม้ย้ายออกจากค่ายในปี2559  แต่ยังดำเนินการประมูลงานภาครัฐอย่างต่อเนื่อง 

 

เมื่อตรวจสอบรายละเอียดของบริษัทดังกล่าวพบข้อสงสัยหลายประการ โดยในปี 2555-2556 มีผลประกอบการขาดทุนอย่างต่อเนื่อง แต่ปี 2557 กลับได้รับการประมูลโครงการรัฐที่มีมูลค่าถึง 3 โครงการ มูลค่ารวม 28 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 3 โครงการเป็นโครงการของกองทัพ หลังพลเอกประยุทธ์ทำการรัฐประหาร และตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ยังได้รับงานจากโครงการรัฐอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับงานประมูลในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดใกล้เคียง

 

 

บริษัทหลานพลเอกประยุทธ์มีทุนจดทะเบียนเพียง 1.5 ล้านบาท แต่ได้รับงานประมูลที่มีมูลค่าสูง ทั้งที่เพิ่งเปิดบริษัท ซึ่งปกติแล้วทุนจดทะเบียนจะเป็นหลักประกันแสดงถึงสถานะทางการเงินและความน่าเชื่อถือของบริษัท หากเกิดการฟ้องร้อง ทุนจดทะเบียนที่สูงย่อมแสดงถึงความสามารถในการชำระหนี้ แต่หากจะใช้วิธีแบงก์การันตี ต้องถามกลับว่า หลานพลเอกประยุทธ์เอาเงินที่ไหนไปทำแบงก์การันตี แต่หากพลเอกประยุทธ์ตอบไม่ได้ก็แสดงว่าการได้งานในครั้งนั้น เป็นเพราะนามสกุล จันทร์โอชา มากกว่าศักยภาพของบริษัท

 

ในปี 2557 บริษัทดังกล่าวก็ยังได้รับการประมูลงานของรัฐหลายสิบล้านบาท แต่จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทดังกล่าว มีเครื่องมือและอุปกรณ์ก่อสร้างเพียง 13 รายการ โดยที่ไม่มีรายการเครื่องจักรกลหนักแม้แต่รายการเดียว ซึ่งหากอ้างว่าใช้วิธีการเช่าเครื่องจักร ก็มองว่าไม่สมเหตุสมผล เพราะรับงานมาตลอด 8 ปี จึงตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเพียงนายหน้ารับประมูลงานเพื่อขาย แม้ไม่มีเครื่องจักรหนัก แต่มีเครื่องจัดหนัก คืออำนาจลุงและพ่อ ที่คอยจัดหนักให้หลานหรือไม่ ส่วนตำแหน่งที่ตั้งบริษัทดังกล่าว ก็เป็นเพียงบ้านหลังขนาดเล็ก ไม่น่าเชื่อว่าบริษัทขนาดใหญ่ มีอาชีพหลักในการรับเหมาก่อสร้าง ประมูลงานรัฐนับพันล้าน

 

 

นางสาวจิราพร กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาคนมักจับตาไปที่ 3 ป. ที่อยู่ในรัฐบาล แต่ยังมีอีก 3 ป. ที่ยังได้ผลประโยชน์ไม่แพ้กันคือ ป.ประยุทธ์ ป.ปรีชา และป.ปฐมพล 3 ป.ในรัฐบาล แยกกันเดินแล้ว แต่ 3 ป.นี้ ยังรวมกันเดิน ป.ประยุทธ์รัฐประหารเป็นนายกรัฐมนตรี ป.ปรีชา ก็เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม เป็น ส.ว. เป็นบอร์ดบริหารต่างๆ และคอยป้อนงานให้ ป.ปฐมพล

 

นอกจากนี้ยังพบว่ามีการตกแต่งบัญชีเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี บริษัทดังกล่าวรับงานรัฐมาแล้วนับพันล้านบาท แต่พบว่าบริษัทยังมีสถานะขาดทุน โดยยกตัวอย่างค่าน้ำค่าไฟ ขณะตั้งอยู่ในค่ายทหารสูงกว่า 2 แสนบาท แต่เมื่อย้ายออกมาอยู่ข้างนอกค่ายทหาร พบว่าค่าน้ำค่าไฟลดเหลือเพียงหลักพันบาทต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นความผิดปกติ จึงอยากให้พลเอกประยุทธ์ไปตรวจสอบเพิ่มเติมว่าพฤติกรรมเหล่านี้เข้าข่ายตกแต่งบัญชี เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีอย่างโจ่งแจ้ง เข้าข่ายทุจริตอย่างร้ายแรงหรือไม่

 

พลเอกประยุทธ์ในฐานะลุงและเป็นนายกรัฐมนตรีที่เคยประกาศปราบปรามการทุจริตระดับชาติ จากวันนี้เหลือเวลาดำรงตำแหน่งอีก 37 วันจะครบวาระ จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องนี้ได้หรือไม่ เพราะการปราบปรามการทุจริตต้องเริ่มจากหน่วยที่เล็กที่สุดคือครอบครัวก่อน