ข่าว

"สุวัจน์" เผยชาติพัฒนากล้า เปิดนโยบายเศรษฐกิจหลังตรุษจีน

14 ม.ค. 2566

“สุวัจน์” เผยชาติพัฒนากล้า เตรียมเปิดนโยบายเศรษฐกิจหลังตรุษจีน เน้นทุกคนมีงาน มีเงิน ของไม่แพง สร้างแพลตฟอร์มเศรษฐกิจใหม่ให้ประเทศ

วันที่ 14 มกราคม 2566 ที่ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังเปิดงานวันเด็กแห่งชาติของจังหวัดนครราชสีมา เกี่ยวกับการจัดทำนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า ว่าได้มีการมีการพูดคุยแล้วปรับปรุงนโยบายพรรคให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น โดยได้มีการหารือกับนักวิชาการ ภาคธุรกิจ พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งขณะนี้ร่างนโยบายเสร็จแล้ว แต่ว่าขณะเดียวกันก็ต้องรับฟังความคิดเห็นของสาขาพรรค ตัวแทนพรรคประจําจังหวัด ตามกฎหมายเลือกตั้งแล้วก็ตามคําแนะนําของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)

 

ฉะนั้น พรรคเตรียมที่จะจัดงานในการที่จะรับฟังความคิดเห็นสําหรับร่างนโยบายแล้วก็เปิดสู่สาธารณะ คาดว่าฤกษ์ตรุษจีนน่าที่จะเป็นฤกษ์ดี ตรุษจีนเป็นอะไรที่สะท้อนถึงการจับจ่ายใช้สอย การกระตุ้นเศรษฐกิจ ฉะนั้นหลังตรุษจีน พรรคชาติพัฒนากล้าก็จะนําเสนอร่างนโยบายที่แล้วเสร็จ ซึ่งนโยบายหลักของชาติพัฒนากล้า เราก็พูดมานานแล้วว่าต้องการที่จะจัดทํานโยบาย ที่นําไปสู่ความสําเร็จในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ไปคลายทุกข์ให้กับพี่น้องประชาชน 

ดังนั้น ถ้าถามว่าวันนี้ สถานการณ์การเลือกตั้งที่ใกล้เข้ามาถึง ถามว่าอะไรเป็นปัจจัยอันดับหนึ่ง ที่อยู่ในความต้องการของพี่น้องประชาชน ผมคิดว่าเป็นเรื่องเศรษฐกิจ เพราะว่าผลกระทบในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจากโควิดและสถานการณ์เศรษฐกิจของโลก ก่อให้เกิดผลกระทบในเรื่องของรายได้ ในเรื่องของสินค้าราคาแพง ในเรื่องของงานของแต่ละบุคคล หรืองานของผู้ประกอบการแต่ละท่าน ซึ่งได้รับผลกระทบมาก

 

“พรรคมีความมุ่งมั่นที่จะจัดการในการแก้ไขปัญหา ถ้าได้รับโอกาสในเมื่อมีการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ พรรคได้ทํานโยบายที่เน้นเศรษฐกิจ ที่จะนําไปสู่การมีเงิน การมีงาน และของต้องไม่แพง ฉะนั้น หัวใจ ของนโยบายเศรษฐกิจของชาติพัฒนากล้า คือ ทุกคนมีงานทำ ทุกคนมีเงิน และทุกคนไม่ได้รับผลกระทบจากสินค้าที่มีราคาราคาแพง คือ ของต้องไม่แพง"

 

“แนวคิดของนโยบายที่จะนําเสนอ เราบอกว่าทุกคนต้องมีงานทํา เราก็จะนําเสนอนโยบายในการที่จะสร้างแพลตฟอร์ม พื้นฐานทางด้านเศรษฐกิจใหม่ให้กับประเทศ ให้กับพี่น้องประชาชนที่เราเรียกว่า spectrum economy แบ่งเศรษฐกิจตามเฉดสี เช่นนโยบายเศรษฐกิจสีเขียว ก็จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรมสีเขียว หรือยานยนต์ไฟฟ้า รถไฟฟ้า คาร์บอนเครดิต ที่จะมาสร้างงานใหม่ๆ ให้กับสังคมไทย

 

ต้องครอบคลุมผลประโยชน์ของทุกอาชีพที่จะได้รับแล้วก็ครอบคลุมทรัพยากรวัตถุดิบที่ประเทศไทยมีอยู่ที่เป็นจุดแข็ง รวมในเรื่องของสินค้าเกษตร สินค้าสีเขียว ซึ่งเรายังมีรายได้ไม่เพียงพอ พี่น้องเกษตรกรยังยากจน สินค้าเกษตรราคายังไม่ดีนัก จะทำอย่างไรที่จะนําในเรื่องของการแปรรูปอุตสาหกรรม เทคโนโลยีมาใช้ แล้วเปลี่ยนสินค้าเกษตร แทนที่เราจะส่งเป็นวัตถุดิบอย่างเดี่ยว แต่เปลี่ยนส่งออกให้เป็นสินค้าที่มีมูลค่ามากขึ้น โดยใช้เทคโนโลยี อุตสาหกรรมเข้ามา และทำให้มีผู้ประกอบและคนมีงานทำมากขึ้น อย่างนี้ถือว่าเป็นเศรษฐกิจสีเขียว Green Economy เป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อม เป็นเรื่องของยานยนต์ไฟฟ้า เป็นเรื่องของนโยบายทางด้านการเกษตร ฉะนั้น ในนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า จะมีความหลากหลายของเศรษฐกิจ”นายสุวัจน์ กล่าว

 

นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่าขณะเดี่ยวกันเรามีจุดแข็งของประเทศไทยคือ เรื่องของ Soft power วัฒนธรรม อาหาร การท่องเที่ยว อันนี้จะเป็นเศรษฐกิจอีกสีหนึ่งที่จะเป็นเรื่องของการสร้างสรรค์ โดยการใช้พื้นฐานทางด้าน soft power ต่างๆ มาสร้างให้เกิดเศรษฐกิจใหม่ เพื่อสร้างให้เกิดงานใหม่ๆ ในส่วนของที่เกี่ยวข้องกับนโยบายที่ให้ทุกคนมีเงินนั้น เนื่องจากที่ผ่านมาเราประสบปัญหาเศรษฐกิจ ทุกคนมีหนี้ 

 

ทําอย่างไรที่จะจัดการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อให้ทุกคนชะลอการชําระหนี้แล้วก็มีฐานที่จะนําเงินใหม่ๆ เข้ามาเพื่อที่จะได้ไปสร้างอาชีพแล้วก็นํารายได้ใหม่ๆ เข้ามาและเรื่องการปรับโครงสร้างภาษี ให้มีความเหมาะสม ที่ไม่ไปกระทบภาพรวมของรายได้ของประเทศ แต่ว่าทุกคนจะมีภาระในการจ่ายภาษีน้อยลงคือ การมีเงินมากขึ้น ตอนนี้ทุกท่านประสบปัญหาในเรื่องของสินเชื่อ ที่ผ่านมามีวิกฤตเศรษฐกิจ จ่ายหนี้ไม่ตรงเวลาอะไรบ้างก็คือ ถูกติดแบล็คลิสต์ (Blacklist) ที่เรียกว่า Blacklist บูโร ทําให้โอกาสในการที่จะได้สินเชื่อหรือโอกาสที่จะได้เงินก้อนใหม่มาต่อยอดไม่ได้ เราก็คิดว่าควรที่จะต้องปรับระบบของ Blacklist บูโร ให้เป็น Credit Score (เครดิตสกอริ่ง) หมายความว่ายังมีสินเชื่อตามกําลังเครดิตของคุณที่มีอยู่

 

และในเรื่องของการที่จะสร้างโอกาส ในการที่ทุกคนจะกลายเป็นนักธุรกิจใหม่ๆ เกิดขึ้น คือ การสร้างเถ้าแก่ การสร้างโอกาสในการเป็นนักธุรกิจ ใครอยากเป็นลูกจ้าง ใครอยากทํางานก็ทํา แต่ถ้าเกิดคุณอยากจะเป็นนักธุรกิจ เราจะมีโครงสร้างทางธุรกิจ โครงสร้างเรื่องของเงินทุนในการที่จะทําให้ท่านได้ขึ้นมาเป็นนักธุรกิจ และมีงานทำ

 

และในเรื่องนโยบายของไม่แพงนั้น ตัวหลักที่สําคัญ ที่นําไปสู่ของแพง คือ เรื่องของพลังงาน เพราะพอพลังงานแพง แก๊สแพง แก๊สหุงต้มแพง น้ํามันแพง ก็ทําให้ค่าขนส่งแพง ทําให้วัตถุดิบแพง เป็นต้นทุนให้ผู้ประกอบการ ฉะนั้น ของจึงแพง ต้องถือว่าพลังงาน คือ ต้นทุนของสินค้า ถ้าทำให้ราคาพลังงานถูก สินค้าก็ราคาถูก ถ้าพลังงานแพง สินค้าก็ราคาแพง

 

“ผมคิดว่านโยบายของพรรคชาติกล้า จะสามารถตอบโจทย์ ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบัน และหลังตรุษจีนจะเปิดตัว”นายสุวัจน์ กล่าว