ข่าว

"บิ๊กตู่"สั่งเร่งหาสาเหตุ"เรือหลวงสุโขทัย"อับปางกลางทะเล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บิ๊กตู่"สั่งตั้ง 2 คณะกรรมตรวจสอบข้อเท็จจริง"เรือหลวงสุโขทัย"อับปางกลางทะเล เร่งหาสาเหตุ ขั้นตอนการสละเรือใหญ่ และการเข้ากู้ชีพ ด้าน"โฆษกรัฐบาล"ยืนยัน นายกฯจะให้การช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ

เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามการดำเนินการเร่งค้นหาและช่วยเหลือกำลังพล กรณี "เรือหลวงสุโขทัย" อับปาง โดยในวันนี้กองทัพเรือยังคงดำเนินการเร่งค้นหาเร่งค้นหาและช่วยเหลือกำลังพล ในพื้นที่ลาดตระเวนตามแผน ประกอบด้วย เรือหลวงนเรศวร เรือหลวงตากสิน เรือหลวงกระบุรี เรือหลวงนราธิวาส เรือ ต.114 และ เรือ ต.270 รวมถึง เรือ อากาศยาน ทั้งของกองทัพเรือ รวมถึงหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งกองทัพบก กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานในศูนย์อำนวยการรักษาพื้นที่ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล. และหน่วยงานต่าง ๆ ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ภาครัฐ ภาคเอกชน หน่วยงานท้องถิ่น มูลนิธิ เครือข่ายชาวประมง และสมาชิกไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล ร่วมค้นหาในพื้นที่ตามแนวชายฝั่ง ในขณะที่พื้นที่ตามแนวชายฝั่ง ก็ยังคงมีการจัดชุดลาดตระเวนทางเท้าในบริเวณที่คาดว่าจะมีการพบผู้สูญหาย

 

โดยเมื่อช่วงเช้าวันนี้ เรือหลวงนเรศวรได้ดำเนินการเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตได้เพิ่มอีก 1 ร่าง และจะกลับขึ้นฝั่งที่อำเภอบางสะพาน ซึ่งหลังจากนั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการของการพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคลต่อไป 

นายอนุชา กล่าวว่า ล่าสุดในส่วนของการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปางนั้น พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือเผยว่า ขณะนี้กองทัพเรือโดย พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ซึ่งประกอบด้วย คณะอนุกรรมการจำนวน 2 คณะ คือ

- คณะทำงานสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อหาสาเหตุที่ทำให้เรือหลวงสุโขทัยอับปาง มีหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อหาสาเหตุ ทั้งด้านความพร้อมของเรือและการปฏิบัติงานของเรือ

- คณะทำงานสอบสวนข้อเท็จจริงในการดำเนินการภายหลังจากเรือหลวงสุโขทัยอับปาง มีหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อตรวจสอบการดำเนินการในขั้นตอนของการสละเรือใหญ่ การค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลภายหลังประสบเหตุ ว่าเป็นไปตามหลักการและแนวทางการปฏิบัติที่กำหนดไว้หรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ ก็ได้เร่งดำเนินการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อหาสาเหตุต่อไป 

 

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีกำชับให้ค้นหาผู้สูญหายให้พบ ติดตามการสืบสวนสอบสวนสาเหตุที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด สั่งการให้เร่งดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งพลเอกชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ประสานงานระหว่างกระทรวงกลาโหมกับกองเรือยุทธการ กองทัพเรือ และหน่วยในพื้นที่สัตหีบ ต้องใช้เวลาในการสืบสวนสอบสวนตามขั้นตอน ระเบียบ และกฎหมายที่ชัดเจน ดังนั้นขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้ ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีและรัฐบาลจะให้การช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ โดยเฉพาะด้านสิทธิกำลังพล รวมทั้งจะนำทหารเรือที่สูญหายทุกนายกลับคืนมาสู่ครอบครัวให้ได้โดยเร็ว

สำหรับสรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (วันที่ 26 ธันวาคม 2565) เวลา 11.30 น. ยอดกำลังพล 105 นาย รอดชีวิต จำนวน 76 นาย เสียชีวิตรวม 18 นาย ในจำนวนนี้สามารถระบุชื่อได้แล้ว 10 นาย มีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือและอยู่ในกระบวนการของการพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล 8 นาย คงเหลือผู้สูญหายจำนวน 11 นาย (ยังไม่นับรวมเคสที่เจอล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ รอผลและหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือ จึงจะมีการตัดยอด) 

 

ช่วงวันบ่ายวันนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือได้เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ ว่าที่ เรือเอก สามารถ แก้วผลึก พันจ่าเอก อัชชา แก้วสุพรรณ์ และ พันจ่าเอก อำนาจ พิมที ณ ฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และในเวลา 15.00 น. ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมข้าราชการและกำลังพลกองทัพเรือในพื้นที่ จะเดินทางไปร่วมในพิธีรับร่างพลทหาร วรพงษ์ บุญละคร กำลังพลหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ร่วมกับกำลังพลอีก 3 นายซึ่งไดรับการยืนยันตัวบุคคลจากผลพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ประกอบด้วย จ่าตรี ศราวุธ นาดี กำลังพลเรือหลวงสุโขทัย พลทหาร สิทธิพงษ์ หงษ์ทอง กำลังพลหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และ พลทหาร จิราวัฒน์ ธูปหอม กำลังพลหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ซึ่งจะเคลื่อนศพ จากกองบิน 6 ขึ้นเครื่องบินแบบฟอกเกอร์ของกองทัพเรือ จากท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 ดอนเมือง ไปยังสนามบินอู่ตะเภา จังหวัดชลบุรี ก่อนที่จะนำร่างไปประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ณ ฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ ในเวลา 17.00 น.

นายอนุชา บูรพชัยศรี

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ