ข่าว

'สร้างอนาคตไทย' เดินหน้าเลือกตั้ง ไม่กังวลคนย้ายออก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทยยืนยันว่าพรรคไม่มีวันตาย ไม่มีแพแตก ขอเป็นตัวเลือกให้กับประชาชน ไม่สนใครจะใช้ทุน ในการ 'เลือกตั้ง'

 

สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์  เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย เปิดเผยผ่านรายการคมชัดลึก ถึงข่าวคราวความเคลื่อนไหวของพรรค โดยยืนยันว่าพรรคยังปกติดี ไม่ได้ให้น้ำหนักกับข่าวที่ว่าพรรคมีปัญหาแม้มีบุคคลากรเข้าออกบ้างก็เป็นเรื่องปกติทางการเมือง ยังยืนหยัดการทำงานไม่จำเป็นต้องออกมาสำแดงพลังอะไร ข้อสังเกตของอดีตรองหัวหน้าพรรค นิพิฏฐ์   อินทรสมบัติ ที่ว่ากองทัพอาจสลาย ก่อนเดินนั้น
ยืนยันว่า พรรคสร้างอนาคตไทยไม่มีวันสลาย เพราะไม่ได้เดินการเมืองด้วยทุนทางการเมือง หากเป็นเช่นนั้นก็ไม่ต่างจากพรรคการเมืองอื่น

 

สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย

 

เป้าหมายพรรคคือต้องการเป็นทางเลือกให้ประชาชน ไม่ได้มุ่งหมายชัยชนะ โดยมีทุนเป็นปัจจัย ปัจจุบัน การเมืองมาถึงจุดที่ต้องมานั่งคิดกันว่า การต่อสู้กันทางการเมืองด้วยทุนเป็นหลัก จะส่งผลอย่างไรในอนาคต  นักการเมืองจึงต้องยืนหยัดที่จะทำงานกับชาวบ้าน ไม่ใช่ทุนที่เขาเอามาให้ แต่ที่สำคัญ คือพี่น้องประชาชน จะตัดสินใจอยู่บนกลไก ที่การเมืองปัจจุบันกำหนดหรือไม่  พรรคสร้างอนาคตไทย เสนอบุคคลากรเป็นทางเลือก ให้กับพี่น้องประชาชน  การเมืองขับเคลื่อนด้วยทุน ต้องถือว่ามีมูลความจริงอยู่ในนั้น และมีน้ำหนักต่อการเดินเกมส์การเมืองอย่างมาก ดูได้จากการโยกย้ายทางการเมือง

 

ส่วนการย้ายออกของนิพิฏฐ์ จะทำให้มีแคนดิเดต ผู้สมัครฯภาคใต้ เดินตามออกไปเป็นจำนวนมากจริงหรือไม่ ความจริงจะตอบคำถามนี้ในอนาคต โดยยืนยันว่าผู้สมัครที่เป็นเป้าหมาย ส.ส.ในภาคใต้ จะยังคงอยู่  ข้อกล่าวหาที่ว่า พรรคหมดทุน ทำให้คนเดินออกจากพรรคจำนวนมากนั้น เป็นกติกาที่พรรคตั้งไว้แต่ต้น  ส่วนการควบรวมกับพรรคการเมืองอื่นนั้น ถือเป็นการวัดความเข้มแข็งของบุคคลากรที่ต้องการเดินไปกับพรรคยืนยันว่า แกนนำอย่าง  สุพล ฟองงาม และ  สุรนันท์ เวชชาชีวะ  ยังอยู่กับพรรค
ทั้งนี้ พรรคการเมืองที่ดีควรยึดที่อุดมการและการทำงานของพรรค ไม่ใช่ตัวบุคคล เราต้องการสร้างพรรคการเมืองที่ไม่ยึดโยงตัวบุคคล

 

 

ส่วนการควบรวมกับพรรคการเมืองอื่นตามกติกาเลือกตั้งนั้น ไม่ได้เจรจาเฉพาะกับพรรคไทยสร้างไทย หรือพรรคชาติพัฒนากล้า แค่สองพรรคเท่านั้น แต่มีการพูดคุยกับหลายพรรค แต่การรวมพรรคไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องขยับถอยคนละก้าว ไม่กระทบบุคคลากรของแต่ละพรรค เพราะตอนตั้งพรรคการเมือง แต่ละพรรคก็ไปชวนบุคคลากรมา เรื่องนี้ต้องมีคำอธิบาย ต้องเลือกความเป็นไปได้มากที่สุด และปัจจุบันก็ยังมีการพูดคุยอยู่ หากเป็นประโยชน์ ทำให้สามารถทำประโยชน์ให้บ้านเมืองได้มากยิ่งขึ้น ก็ยังมีเวลา ยังไม่รู้ว่าจะได้เลือกตั้งเมื่อใด  แต่พรรคมีเป้าหมายทางการเมือง ไม่ต้องรวมกับอื่นเลยก็ไม่ได้มีปัญหา แม้ได้ส.ส.ไม่ถึงจำนวน ที่จะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีได้ก็ตาม 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ