'ชวน หลีกภัย' ขอฝ่ายบริหาร กำชับสมาชิกเข้าร่วมประชุมสภา เพื่อผ่านกฎหมายสำคัญ เชื่อกฎหมายลูกเลือกตั้งไม่มีปัญหา
ชวน หลีกภัย ประธานสภา แถลงข่าวถึงร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง และ ร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ได้ส่งไปยังนายกรัฐมนตรีแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา และตามกระบวนการของกฎหมายนายกรัฐมนตรีมีเวลา 5 วัน ก่อนที่จะนำร่างเข้าสู่กระบวนการประกาศบังคับใช้
ร่างกฏหมายที่มีความจำเป็นและสำคัญที่จะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จ เช่น ร่าง พ.ร.บ. ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ หรือ ร่าง พ.ร.บ. มหาวิทยาลัยนราธิวาส ราชนครินทร์ ว่า เป็นเรื่องด่วน ที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)ส่งมา รวมถึงร่างกฏหมายฉบับอื่นอีกกว่า 10 ฉบับ โดยย้ำว่าหากรัฐบาลต้องการให้กฎหมายผ่านต้องดูแลเรื่ององค์ประชุมเพราะไม่เช่นนั้นจะไปไม่ถึง แต่ก็เชื่อเวลาที่เหลือของสภา 2 เดือน นั้นเพียงพอ หากองค์ประชุมไม่มีปัญหา
ในวันศุกร์ที่ 16 ธันวาคม ได้นัดประชุมนัดพิเศษ จากนั้นก็จะไม่ได้นัดประชุมวันศุกร์ไปจนถึงช่วงปีใหม่ และจะหารือวิป ทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อเคลียร์วาระการพิจารณา โดยในเรื่ององค์ประชุมนั้นตนได้ปรึกษานายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ในฐานะรัฐบาล ให้ขอเป็นคนกลางประสานพรรครัฐบาล ขอความร่วมมือร่วมการประชุมสภาฯ เพราะการประชุมสภาเป็นหน้าที่ของทุกฝ่าย
แต่กลไกระบบนี้รัฐบาลเสียงข้างมากต้องคุมเสียงให้สภาฯพิจารณาไปได้ โดยอยากให้แจ้ง นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีแต่ละพรรคแจ้งสมาชิกเข้าประชุม พร้อมย้ำขอความร่วมมือทุกฝ่าย ในการให้ความร่วมมือการประชุม เพราะเวลาเป็นของมีค่า ที่จะใช้ระยะเวลาที่เหลือทำงานด้านกฎหมายให้ประชาชน โดยหวังได้รับความร่วมมือระดับดีกว่าที่ผ่านมา เพราะที่ผ่านมา ยอมรับว่าทำให้องค์ประชุมครบได้ยาก
สมัยประชุมสภาจะจบในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งตอนนี้ ญัตติ อภิปรายทั่วไปมาตรา152 ของฝ่ายค้านก็ยังไม่ได้เสนอมา จึงต้องเผื่อเวลาให้ส่วนนี้ด้วย การที่องค์ประชุมสภาล่มบ่อยในช่วงนี้ ไม่ใช่เกมการเมืองในสภาเพื่อยื้อร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง แต่เป็นเรื่อง ที่ฝ่ายค้านไม่ร่วมเป็นองค์ประชุมในการโหวตมาตรา 9/1 ร่าง พ.ร.บ. การเข้าชื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น
ประธานสภายอมรับว่ากรณีสภาล่มวันที่ 7 ธันวาคมนั้น ตัวเองก็ลืมกดบัตรแสดงตนเช่นกัน แต่ขอสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอย่าย่อท้อเพราะเชื่อว่ายังมีเวลาเพียงพอที่จะทำงาน และในสัปดาห์ต่อๆไปขอให้รับผิดชอบมาร่วมประชุม
"สภายุคนี้ต่างจากสมัยก่อนที่นายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองในฐานะเสียงข้างมาก แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีเลย ผู้ใหญ่ที่เป็นหลักในสภา หมายถึงผู้บริหารระดับสูง ไม่มีนายกรัฐมนตรี ไม่มีรองนายกรัฐมนตรี มอบแต่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมาดูแล ซึ่งก็ดูแลไม่ทั่วถึง ในสภาฯ
ขณะนี้จึงต้องทำหน้าที่กันเอง ประธานสภาและรองประธานสภาต้องหารือกันเองแทนที่จะเป็นฝ่ายบริหารเข้ามาดูแล ก็ทำให้ไม่เหมือนสมัยก่อน โดยหวังว่าเมื่อแจ้งนายวิษณุ ไปแล้วจะแจ้งต่อนายกรัฐมนตรีรับทราบเพื่อให้เรียกหัวหน้าพรรคทั้งหลายมาหารือว่าแต่ละพรรคต้องกำชับลูกพรรค" นายชวนกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง