ข่าว

'เพื่อไทย' ประกาศขึ้นค่าแรง600 ได้จริง แต่ไม่ใช่รัฐบาลชุดนี้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'เพื่อไทย' ซัด 10 ปี ค่าแรงคนไทย ขึ้น 50 บาท ทำให้เกิด 'รวยกระจุก จนกระจาย' ยืนยันนโยบายขึ้นค่าแรง600บาทต่อวัน ทำได้หากเป็นรัฐบาล

กรณีพรรคเพื่อไทยประกาศ นโยบาย "ขึ้นค่าแรง" ไม่ต่ำกว่า 600 บาทต่อวัน เงินเดือนของผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรี อยู่ที่ 25,000 บาทขึ้นไป กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ มีทั้งฝ่ายเห็นด้วยและฝ่ายไม่เห็นด้วย ซึ่งฝ่ายไม่เห็นด้วยเกรงว่าจะกระทบต่อค่าครองชีพ การจ้างงาน การลงทุน 


วันนี้ 7 ธ.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ผู้ที่ประกาศ 10 นโยบายพลิกฟื้นประเทศ ปี 2570 ชี้แจงว่า วิสัยทัศน์ดังกล่าว หากเพื่อไทยได้เข้ามาเป็นรัฐบาล จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะค่าแรง 600 บาท วันนี้หากคิดว่าการขึ้นค่าแรง จะส่งผลให้ต้นทุนการทำธุรกิจต่างๆเพิ่มขึ้น แน่นอนว่าเดือดร้อนแน่ เพราะภาพรวมของเศรษฐกิจขณะนี้ไม่ดี

 

แต่ที่พรรคเพื่อไทยพูดถึงนโยบายนี้นั้น หากเราเข้ามาเป็นรัฐบาล จะทำภาพรวมเศรษฐกิจเติบโตไปพร้อมๆกัน ซึ่งสมัยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยมีประกาศนโยบาย "ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ" 300 บาท แต่ขณะนี้เวลาผ่านมา 10 ปี ขึ้นเพียง 50 บาทเท่านั้น

 

สิ่งที่เกิดขึ้นคือ "รวยกระจุก จนกระจาย" คนที่ได้ผลประโยชน์มีเพียงคนกลุ่มเล็กเท่านั้น แต่ฐานรากยังได้รับความเดือดร้อน ยังไม่ได้รับเกียรติ ศักดิ์ศรีเท่าที่ควร ฉะนั้น เพื่อไทยต้องคิดใหญ่ เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศขับเคลื่อนไปด้วยกัน และไม่ได้เป็นการเอานโยบายมาใช้ 

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย

น.ส.แพทองธาร ได้เปรียบเทียบประเทศญี่ปุ่นที่มี ค่าแรง 1,800 บาท ต่อวันเพราะภาพรวมเศรษฐกิจของเค้าดีทั้งประเทศ เมื่อแรงงานมีรายได้เพิ่ม จับจ่ายใช้สอยได้มากขึ้น เป็นตัวผลักดันเศรษฐกิจทั้งประเทศดีขึ้นเช่นกัน 

"วันนี้ไม่แปลกเลยที่ค่าแรง600บาท ยังทำไม่ได้ในประเทศไทย เพราะเศรษฐกิจยังไม่ดี หากเศรษฐกิจดีทั้งระบบ ทุกอย่างจะไปตามธรรมชาติ"

 

ส่วนที่บอกว่า จะมี GDP เติบโต 5% เราไม่ได้บอกจะกำหนดตัวเลขนี้ทุกปี ปีแรกที่ทำงานอาจสูง 5%ก็ได้ แต่ปีต่อไปอาจจะลดลงตามเลขเฉลี่ยของแต่ละปีที่เติบโต รวมถึงดูเศรษฐกิจโลกประกอบด้วย ซึ่งต้องการให้ทุกคน ทุกชนชั้น ทุกฐานะ ได้รับประโยชน์ออกมาใช้สอย ลดหนี้สิน ดูแลครอบครัวของตัวเองได้ นี่คือสิ่งที่ พรรคเพื่อไทยเปลี่ยนแคมเปญเป็น "คิดใหญ่ ทำเป็นเพื่อไทยทุกคน" คิดเล็กปัญหาไม่จบแน่นอน 

นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการนโยบายเพื่อไทย

ด้านนายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการนโยบายเพื่อไทย ยืนยันการขึ้นค่าแรงไม่ทำลายโครงสร้าง ยังเป็นการทำงานร่วมกันในระดับไตรภาคี ค่าแรงขั้นต่ำ คิดขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อ เพราะค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น พรรคเพื่อไทยรู้ว่าผลิตภาพการผลิต คือที่มากำไรของผู้ประกอบการที่จะนำมาจ่ายเงินเดือน-โบนัส แรงงานได้  รวมถึงพูดถึงการแนวทางสร้างรายได้หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลและทำได้แน่นอน  ว่า 

ภาคธุรกิจ 
รัฐเก็บรายได้จากกลุ่มธุรกิจ 20% จากกำไร แปลว่า รัฐถือหุ้นเอกชน 20% ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่รัฐ ที่ต้องทำให้เศรษฐกิจเติบโต เพื่อหารายได้  

ภาคการเกษตร

คิดเป็น 40% ของประเทศ แต่สร้างรายได้เพียง 8% ของ GPD จึงต้องยกระดับรายได้จากภาคเกษตรจาก 10,000 บาท/ไร่/ปี เป็น 30,000 บาท/ไร่/ปี ด้วยหลักการทำงาน ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ ผลิตสิ่งที่ตลาดต้องการ ก็จะเกิดรายได้

ภาคการท่องเที่ยว 
รายได้การท่องเที่ยวก่อนเกิดการระบาดของโควิด อยู่ที่มูลค่า 1.9 ล้านล้านบาท แต่เพื่อไทยตั้งเป้าเพิ่มเป็น 3 ล้านล้านบาท ด้วยการสร้างแรงดึงดูดจากศักยภาพการท่องเที่ยวที่ไทยมีอยู่มากมาย และการจัดการบริหารการบิน-สนามบิน-ด่านตรวจคนเข้าเมือง เราจะไม่บริหารราชการแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวแบบปัจจุบัน

Soft power 
ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ใหม่ 1 ครอบครัว 1 คน จะสร้างงานขึ้น 20 ล้านตำแหน่ง คำนวณรายได้ 200,000 บาท/ปี คิดเป็นรายได้ 4 ล้านล้านบาท หรือรายได้เพิ่มขึ้น 25%   

logoline